สลายแล้ว เครือข่ายอนุรักษ์ดินน้ำป่าพอใจ หลังรบ.ชะลอ 4 โครงการแก้น้ำท่วม-แล้ง

สลายแล้ว กลุ่มประชาชนเครือข่ายอนุรักษ์ดินน้ำป่าพอใจ หลังรบ.สั่งชะลอ4โครงการแก้น้ำท่วม-แล้งนครศรีฯ-พัทลุง ตั้งคกก.ร่วม3ฝ่าย เชื่อได้ข้อยุติภายใน6เดือน-1ปี

เมื่อเวลา14.50น. วันที่ 29 มกราคม ที่บริเวณถนนพระราม5 ข้างทำเนียบรัฐบาล นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรีปฎิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรัฐบาลรับข้อร้องเรียนจากกลุ่มประชาชนเครือข่ายอนุรักษ์ดินน้ำป่า จ.นครศรีธรรมราช-พัทลุง นำโดย นายเจกะพันธ์ พรหมมงคล แกนนำฯ ซึ่งปักหลักชุมนุม บริเวณข้างทำเนียบรัฐบาล เป็นวันที่สอง เพื่อขอให้รัฐบาลยกเลิกโครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งและการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่จ.พัทลุงและนครศรีธรรมราช รวม 4 โครงการนั้น คือ 1.โครงการสร้างเขื่อนวังหีบ อ.ทุ่งสง 2.เขื่อนคลองสังข์ อ.ทุ่งใหญ่ และ3.โครงการคลองผันน้ำเมืองนคร จ.นครศรีธรรมราช และ4.โครงการประตูน้ำกั้นน้ำเค็มปากประ จ.พัทลุง

ด้านนายเจกะพันธ์ พรหมมงคล แกนนำเครือข่าย กล่าวว่า นับจากวินาทีนี้ ถือเป็นสัญญาประชาคมที่มีความสำคัญ และเป็นการยุติปัญหาที่ชาวบ้านต่อสู้มานานกว่า 5 ปี และเป็นคืนแรกที่คนจังหวัดพัทลุงและนครศรีธรรมราชจะนอนหลับสนิท โดยการหารือร่วมกันระหว่างตัวแทนเครือข่าย กับรัฐบาล ได้ข้อสรุปตั้งคณะกรรมการ 3 ฝ่ายประกอบด้วย ผู้แทนกรมชลประทาน , ตัวแทนภาคประชาชน , นักวิชาการที่ทั้งสองฝ่ายให้การยอมรับ เพื่อศึกษาแผนบริหารจัดการน้ำทั้งระบบในพื้นที่ภาคใต้ โดยให้เริ่มจากพื้นที่จังหวัดพัทลุงและนครศรีธรรมราช ซึ่งระหว่างนี้ให้ทำการชะลอการดำเนินการทั้ง 4 โครงการออกไป จนกว่าคณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้นจะพิจารณาจนได้ข้อสรุป โดยการชะลอโครงการดังกล่าว ให้รวมถึงการก่อสร้าง การเวนคืนที่ดิน และการดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวกับประชาชนในพื้นที่ให้ยุติไว้ทั้งหมด โดยคาดว่า ในระยะเวลา 6 เดือน 1 ปีนับจากนี้จะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการดำเนินการทั้ง 4 โครงการ

ขณะที่ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า รัฐบาลรับเรื่องดังกล่าวและหารือร่วมกับตัวแทนเครือข่ายอนุรักษ์ดินน้ำป่า มีข้อสรุปเห็นชอบให้ชะลอทั้ง 4โครงการไว้ก่อน ยืนยันว่ารัฐบาลตั้งใจแก้ปัญหา โดยนายกฯได้สั่งการให้มารับเรื่อง ส่วนประเด็นการเวนคืนที่ดินนั้นขอให้สบายใจ ได้ว่ารัฐบาลไม่ตั้งใจรังแกประชาชน แต่ที่เพราะไม่อยากให้น้ำท่วมและมีน้ำเก็บไว้ใช้หน้าแล้ง จึงมีแนวคิดดำเนินโครงการต้างๆ เพราะหากไม่ดำเนินการอะไรเลยท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปในอนาคต ลูกหลานในอนาคตจะลำบาก

Advertisement

“รัฐบาลนี้ไม่มีความประสงค์จะรังแกประชาชน เมื่อได้ข้อสรุปในวันนี้แล้วก็ไม่อยากให้พี่น้องลำบาก โดยขอให้เดินทางให้เดินทางกลับโดยปลอดภัย ทุกคนเป็นคนไทย ผมก็เป็นคนไทย ควรพูดคุยด้วยเหตุผล และเราต่างก็ว่ารู้ว่าสายตาที่มองกันเป็นมิตร แ ขอให้กลับไปอธิบายในพื้นที่ให้เข้าใจตรงกัน ” นายพุทธิพงษ์ กล่าว

ด้านรองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ทั้งนี้ในระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่1 กุมภาพันธ์ 62 จะไม่มีการดำเนินการใดๆ ใน 4 โครงการดังกล่าว จนกว่าจะมีมติจากคณะกรรมการร่วมทั้ง3ฝ่าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image