“อิสริยะ” ฝาก กกต. ดูปมห้ามหาเสียงผ่านโซเชียลฯให้ดี กังวลจะเกิดเป็น “สงครามตัวแทน” ฟาดกันทางการเมืองแทน
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 30 มกราคม ที่โรงแรม พูลแมน คิง เพาเวอร์ รางน้ำ นายอิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์ ผู้ร่วมก่อนตั้งเว็บไซต์ไอที Blognone.com กล่าวว่า การเคลื่อนไหวโดยคนรุ่นใหม่ ไม่ได้เป็นปรากฎการณ์เฉพาะที่ไทย แต่เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก เช่น เรื่องเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อคนรุ่นใหม่ทั่งโลก เทคโนโลยีที่เข้ามาทำลายอุตสาหกรรมเดิมๆคนอาจจะตกงาน เป็นการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นภายใน 5 ปีนี้ คนรุ่นใหม่มีโอกาสเข้ามาทำงานในสภาอเมริกา เพราะไม่สามารถทนต่อการนำของโดนัล ทรัมป์ ได้ เราเลือกตั้งครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2554 เวลาผ่านมา 8 ปีแล้ว คนที่ที่มีสิทธิเลือกตั้งครั้งนี้วันนั้นเป็นเห็นอายุ 10 ขวบเท่านั้น คนเหล่านี้มีจำนวนกว่า 6.4 ล้านคน คิดเป็น 12% ซึ่งคนเหล่านี้หากออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งครบจะมีสิทธิถึงขั้นเสนอชื่อนายกฯได้เลยด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม วันนี้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนในการเลือกตั้งมากขึ้น โดยเฉพาะช่องทางโซเชียลมีเดียที่เข้ามามีบทบาทในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเฉพาะทวิตเตอร์ที่วัยรุ่นส่วนใหญ่เข้าไปอยู่ในนั้น ตอนที่มีการประกาศเลื่อนเลือกตั้งก็เกิดแฮชแท็กแรงมากในทวิตเตอร์ซึ่งถือเป็นท่าทีของคนรุ่นใหม่ต่อการเลื่อนการเลือกตั้ง นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุย และแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในทวิตเตอร์ หากอยากเข้าถึงเสียงของคนรุ่นใหม่ ช่องทางนี้เป็นช่องทางที่อย่าได้มองข้าม ต่อมาคือ ช่องทางยูทูป ซึ่งผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ต่างจังหวัด และไลน์ ซึ่งข้อความมีลักษณะเป็นไวรัล และไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่ากระจายข้อมูลได้มากน้อยแค่ไหน
นายอิสริยะ กล่าวอีกว่า ระเบียบของกกต.ที่ห้ามหาเสียงผ่านโซเชียล ตนคิดว่า หากพิจารณาการเสพข่าวของคนรุ่นใหม่ คนกลุ่มนี้อยู่แต่ในช่องทางโซเชียล เรามีตลาดที่มีความต้องการรับข้อมูลข่าวสารอยู่ ถ้ากกต.จะห้าม ไม่ให้มีการหาเสียงผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ตนคิดว่า เราจะเกิด “สงครามตัวแทน” เพราะนักการเมืองไม่สามารถพูดโดยตรงได้เพราะกังวลกฎระเบียบต่างๆของกกต. จึงต้องมีตัวแทนเดิขึ้นเป็นบัญชีที่เอามาไว้พูดแทนนักการเมือง ซึ่งแน่นอนว่า จะมีการส่งข้อความหาเสียงแทน และจะมีการโจมตีฝั่งตรงข้าม ซึ่งในทางการเมืองคงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ จึงอยากฝาก กกต. ให้พิจารณาเรื่องนี้ให้ถ้วนถี่ด้วย