⦁…ประชาชนไทยเรา ก้าวมาถึงขั้นกระทั่งอากาศหายใจคลุ้งด้วย “ฝุ่นพิษ” ขณะที่ “ผู้บริหารประเทศ” ตกในสภาพ “คิดไม่ออก บอกไม่ถูก” ว่าจะเยียวยา “มหันตภัย” นี้ได้อย่างไร แถมแต่เรื่องที่คิดขึ้นมา ด้วยเชื่อว่าจะเป็นทางแก้ ก่อ “เสียงโห่ฮาขรมครืน” คนฟังส่ายหัวสิ้นหวังกันเป็นแถว
⦁…จากใช้ “รถถัง” และ “กองกำลัง” ยึดอำนาจ ชิงการบริหาร ผ่านมา 5 ปี ถึงวาระที่ “อาวุธใหม่” คือ “กฎหมาย” ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อ “ปิดทางคู่ต่อสู้ ทอดโอกาสให้เดินสู่อำนาจต่อได้สะดวกดาย” เมื่อ “หัวใจของการใช้กฎหมาย” ขึ้นอยู่กับ “การตีความ” เพื่อความมั่นใจ “ทีมผู้มีหน้าที่ตีความกฎหมาย” ที่เรียกว่า “คณะกรรมการกฤษฎีกา” ได้รับการวางตัวเรียบร้อย รอบคอบ ครบถ้วน เต็มร้อย
⦁…ทว่าถึงอย่างไร “ศึกเลือกตั้ง” ครั้งนี้ยังส่อแนวโน้มจะเป็นไปอย่างเข้มข้น แม้ “ฝ่ายหนึ่ง” จะเชื่อว่า “กฎหมายดีไซน์มาเพื่อพวกเรา” อันเป็นการ “รุกสู่ความได้เปรียบอย่างเข้มข้น” แต่เมื่อ ทักษิณ ชินวัตร พลิกขึ้นมา “กำหนดประเด็น” นำกระแสสังคม สวมบท “ผู้กำหนดเกม” บังคับคู่ต่อสู้ให้ต้องเล่นตาม การชิงไหว ชิงพริบที่เต็มไปด้วยลูกล่อลูกชนจึงเข้มข้น
⦁…ก่อนหน้านั้น เชื่อกันว่า “การใช้กองกำลังประกบตัวคู่ต่อสู้” จะสร้างความได้เปรียบได้มากมาย แต่เมื่อ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พลิกเกมด้วยการ “ถ่ายคลิปให้เห็นพฤติกรรมแบบนั้น” คำถามเรื่อง “การใช้อำนาจคุกคามหรือไม่” ก็เกิดขึ้น คำตอบเรื่อง “การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม” น่าจะสะเทือนต่อความรู้สึกของผู้สนใจการเมือง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
⦁…ที่สุด “4 รัฐมนตรี” ผู้เป็น “หนังหน้าไฟพรรคพลังประชารัฐ” ยืนต้านกระแสกดดันไม่ไหว ลาออกจากเก้าอี้มา “สู้ศึกเลือกตั้ง” และหากชัดเจนวันไหนว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็น “ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีพรรค” แรงกดดันทำนองเดียวกันต่อ “พล.อ.ประยุทธ์” จะเกิดขึ้น และคำถามเรื่อง “สำนึกแห่งการต่อสู้ที่ชอบธรรม” จะกระตุ้นให้ต้องตอบไม่หยุดหย่อน
⦁…ยุทธศาสตร์การหาเสียงของ “เพื่อไทย” ที่ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นำทีมกำหนด ช่วงนี้เป้ายังอยู่ที่ ชี้ให้ประชาชนเห็นความต่างเรื่อง “การบริหารเศรษฐกิจ ปากท้อง” ด้วย “ความคิดทหาร” กับ “วิธีของนักบริหารธุรกิจ”โดยมี “ผลงานของรัฐบาลปัจจุบัน” เทียบกับ “ความเชื่อมั่นในอดีตของทีมบริหารพรรค” โยนลงไปกระตุ้นการตัดสินใจของประชาชน ว่าถึงที่สุดแล้วจะให้ประเทศเดินไปทางไหน
⦁…ถ้าเป็นไปอย่างผลของทุกโพลที่สำรวจ “ความปรารถนาประชาชนหลังการเลือกตั้ง” ซึ่งออกมาให้เรียกหา “ความสามารถในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ” ยุทธศาสตร์เปิดเวทีของ “เพื่อไทย” ย่อมเป็น “หมัดตรงเข้ากระโดงคางคู่ต่อสู้” นอกจากความได้เปรียบเรื่อง “ดีไซน์กฎหมาย” กับ “กองกำลัง” และ “เงินทุสนับสนุน” ซึ่งมีประโยชน์เฉพาะหน้าแล้ว น่าสนใจยิ่งว่า “พลังประชารัฐ” จะหาทางตอบ “ถามอนาคต” แบบไหน
⦁…ความโกลาหลของ “สนามสุพรรณบุรี” ที่ “ชาติไทยพัฒนา” ภายใต้การควบคุมของ “ศิลปอาชา” ที่ดูท่าจะแตกเป็นหลายเสี่ยง หลายฝ่ายประเมินว่า “น่าจะเป็นโอกาสของพรรคอื่น” ในความหมายที่ว่า “เริ่มต้นกันใหม่” ไม่มีใครเป็น “เจ้าของพื้นที่ที่เหมือนเดิม”
ชโลทร
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่