รายงาน : ‘บิ๊กตู่’โชว์ผลงาน4ปี บ้านเมืองสงบ-ศก.ขยายตัว

หมายเหตุพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงผลการดำเนินงานปีที่ 4 ของรัฐบาล ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์

ทุกคนทราบดีว่าในช่วงก่อนที่รัฐบาลและ คสช.เข้ามา ประเทศมีวิกฤตการเมือง มีการทะเลาะเบาะแว้ง เศรษฐกิจหยุดชะงักหลายอย่างมีปัญหาไปหมด จึงเป็นเหตุผลและความจำเป็นที่ คสช. ตัดสินใจเข้ามาควบคุมสถานการณ์ โดยได้วางแนวทางการแก้ปัญหาประเทศไว้ 3 ระยะ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระยะที่ 3 ที่มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญและกำลังเดินหน้าสู่การจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 24 มีนาคม 2562 สำหรับผลงาน รัฐบาลได้แก้ปัญหาเร่งด่วน อาทิ การแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งแม้ดัชนีชี้วัดจะถูกลดอันดับลง แต่ในประเด็นย่อยดีขึ้น ไม่ใช่จับแต่เรื่องไม่ดี แต่เรื่องดีๆ ไม่พูดกัน หากเราไม่สนใจเรื่องดีๆ เอาแต่พูดจาให้ร้ายกันไปเรื่อยๆ ความเชื่อมั่นและความเชื่อถือต่อประเทศก็ไม่เกิด รวมถึงปัญหาอีกหลายอย่างที่กำลังดำเนินการ จึงต้องขอร้องให้ใจเย็นๆ ขณะเดียวกันในเรื่องดัชนีชี้วัดการทุจริตคอร์รัปชั่นมีบางคนบอกทำได้ดีกว่านี้ ที่ทำได้แค่นี้เพราะผมอยู่ ก็ขอให้ดูว่าวันหน้านักการเมืองเข้ามาจะเป็นอย่างไร อาจทำดีกว่าหรือแย่กว่าขอให้รอดู ที่ผ่านสถานการณ์โดยรวมของประเทศถือว่าดีขึ้น เศรษฐกิจขยายตัว ดัชนีชี้วัดและการจัดอันดับต่างๆ ดีขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งตัวเลขมีความสำคัญขออย่าไปบิดเบือน

เรามียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างชัดเจน มีการสอบถามความเห็นของประชาชน สำหรับยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง เราต้องสร้างประเทศชาติให้มั่นคง ประชาชนมีความสุขปลอดภัยและมีความสงบเรียบร้อย และการรักษาอธิปไตยตามแนวชายแดนหากไม่มีกำลังทหารก็จะเละกว่านี้ จึงต้องรักษาความสงบ ขณะที่การปฏิรูปตำรวจ มีการร่างกฎหมายหลายฉบับ รวมถึงการแก้ปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจและยกระดับการบริการ

ในส่วนของการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้มีกระบวนการพูดคุยสันติสุข ที่ต้องทำให้สังคมโลกเห็นว่าเราทำตามมาตรฐานสากล ไม่ได้เป็นการเจรจา เพราะเราไม่ได้ไปรบกับใคร ซึ่งเมื่อการแก้ปัญหาดีขึ้นสถิติการก่อเหตุลดลง แต่มีความพยายามสร้างความหวาดกลัวเพื่อไม่ให้ร่วมมือกับรัฐ ดังนั้นอย่าช่วยขยายความรุนแรง เพื่อไม่ให้ลุกลามปานปลาย เพราะจะเปิดช่องให้ต่างประเทศเข้ามา

Advertisement

ด้านการต่างประเทศช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ตนได้สร้างความภาคภูมิใจและได้รับการยอมรับมากขึ้น ซึ่งเกิดจากการแก้ปัญหาของไทย แต่ไม่ใช่หยุดและเลิกเลย เพราะมีคนจ้องโจมตีอยู่ทั้งคนที่บริสุทธิ์และไม่บริสุทธิ์ ทำให้ทำงานได้ช้าและขัดแย้ง ซึ่งการเยือนต่างประเทศผมไปครบทุกภูมิภาคถึง 64 ครั้ง รวมถึงประเทศที่เป็นประชาธิปไตยก็ตอบรับอย่างดี ย้ำว่าไม่ได้ไปซื้อของหรือไปเที่ยวเข้าใจกันหรือไม่ เป็นการเจรจาเรื่องการค้าขาย การกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ประเทศไทยได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานการประชุมอาเซียนในปี 2562 นี้ จะต้องทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย อย่าให้เกิดแบบเดิมอีก ทุกคนรู้อยู่แล้วอะไรดี
ไม่ดี ขณะที่การท่องเที่ยวย้ำว่าคนเข้ามามากขึ้น ดังนั้น อย่าขัดแย้งและอย่าทำร้ายประเทศขยายเรื่อง
ไม่ดีออกไป

ด้านสาธารณสุข ขยายสิทธิรักษา อย่างเข้าถึงยาราคา 11 รายการ รักษาฟรีโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ส่งเสริมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน สนับสนุนอาสาสมัครสาธารณสุข เพิ่มค่าป่วยการ 1,000 บาท ศูนย์ดำรงธรรม 3,292 ล้านเรื่องยุติ 3,233 ล้านเรื่อง ผมรับฟังประชาชนโดยตรง อย่างไรก็ตาม ในการปฏิรูปงบประมาณจะเอาเงินมากกว่านี้จากที่ไหน เมื่อเสนองบมา ผมก็ลงไปดูไปติดตามสิ่งที่ได้อนุมัติลงไป ไปเก็บข้อมูลเพื่อมาแก้ปัญหา และเยี่ยมประชาชนของตน การลงพื้นที่แต่ละครั้งผมไม่ได้ลงไปหาเสียง มีรัฐมนตรีลงไปล่วงหน้า 3-4 วันมีกิจกรรมต่างๆ มีการพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ถ้าไปแบบให้พอใจพูดจาเพราะๆ ถ่ายรูปแล้วกลับบ้านก็ทำได้ ซึ่งเรื่องถ่ายภาพนั้นห้ามไม่ได้เพราะทุกคน มีโทรศัพท์ แล้วถ้าให้ถ่ายกับทุกคนคงไม่ได้กลับบ้าน

ทั้งนี้ หลังจากนี้จะให้ทุกหน่วยงานชี้แจงการดำเนินงาน ทำอะไรไปแล้วต้องพูด ไม่เช่นนั้นจะมีการเสนอข่าวเลอะเทอะไปหมด อย่างไรก็ตามต้องร่วมมือทำประเทศไปข้างหน้าพร้อมร่วมหลอมใจเป็นหนึ่งเดียวเพื่อจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกด้วยความสงบเรียบร้อย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image