ผู้เขียน | สุพัด ทีปะลา |
---|
กว่า 1 เดือนแล้วที่กรุงเทพฯและ 5 จังหวัดปริมณฑล เผชิญกับวิกฤตฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 คราวก่อนที่เขียนถึงเรื่องนี้ยังคิดว่าช่วงปลายเดือนมกราคมสถานการณ์น่าจะคลี่คลายกลับสู่ภาวะปกติ
ถึงตอนนี้แล้วยังไม่มีหน่วยงานไหนที่จะออกมายืนยันว่าวิกฤตฝุ่นจะสิ้นสุดลงเมื่อไร
การแก้ไขปัญหาของรัฐบาล กรุงเทพมหานคร และจังหวัดปริมณฑลทำได้เพียงออกมาตรการระยะเร่งด่วนเฉพาะหน้าเท่านั้น เพื่อบรรเทาผลกระทบ
ในขณะที่ประชาชนต้องเผชิญกับวิกฤตฝุ่นโดยตรงและกินระยะเวลาที่ยาวนาน เมื่อทุกอย่างยังไม่คลี่คลายย่อมเป็นเรื่องปกติที่รัฐบาลจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบถึงมาตรการการแก้ไขปัญหาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
วิกฤตฝุ่นที่เกิดขึ้นคราวนี้มีข้อเสนอมากมายจากทั้งพรรคการเมือง นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อแก้ปัญหาระยะเร่งด่วนและระยะยาว
ศ.ศิวัช พงษ์เพียจันทร์ ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาการป้องกันและจัดการภัยพิบัติ คณะพัฒนาสังคมและ สิ่งแวดล้อม นิด้า เสนอว่า อาจต้องทำแบบจีน ที่ในเขตพิทักษ์สิ่งแวดล้อมหรืออุทยานแห่งชาติ ใช้ค่ามาตรฐานรายวัน 35 มคก./ลบ.ม. พื้นที่อุตสาหกรรมใช้ 75 มคก./ลบ.ม. ส่วนมาตรการรถทะเบียนเลขคู่เลขคี่ ควรเน้นเฉพาะเขตกรุงเทพฯชั้นใน และอย่าบังคับใช้ทุกวัน ให้ใช้เฉพาะช่วงเกิดวิกฤตเท่านั้น
พรรคเพื่อไทยแถลงเสนอ 6 มาตรการ เช่น สนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าโดยการลดภาษี ลดจำนวนรถยนต์ดีเซลที่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจภายในปี 2020 ศึกษาการสร้างหอคอยเพื่อฟอกอากาศ 4 มุมเมือง
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ เสนอนโยบาย “อากาศสะอาด” เพื่อมุ่งเป้าลดฝุ่น PM2.5 อย่างเบ็ดเสร็จและยั่งยืน เช่น เสนอรัฐบาลควรจะกระจายหน้ากากให้ประชาชนได้ทั่วถึง การยกระดับยานยนต์เพื่อลดมลพิษ เปลี่ยนระบบเครื่องยนต์ดีเซล ของรถยนต์ รถบรรทุก รถโดยสารประจําทาง และรถขนส่งมวลชนสาธารณะ ทุกประเภทและทุกคันเป็นยานยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด
ข้อเสนอเหล่านี้เป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาของเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลกที่เผชิญกับวิกฤตฝุ่นเช่นเดียวกับไทย
อย่างเช่นที่เมืองนิวเดลี ประเทศอินเดีย ออกมาตรการจำกัดการใช้รถยนต์ของประชาชนที่ออกมาวิ่งบนถนน อนุญาตให้วิ่งในวันและเวลาที่กำหนด สั่งห้ามใช้รถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ดีเซลขนาดใหญ่
ญี่ปุ่นมีการคุมเข้มปล่อยก๊าซพิษจากเครื่องยนต์ การพัฒนาเทคโนโลยีให้เครื่องยนต์เผาไหม้สมบูรณ์ กำหนดให้ตรวจสภาพรถยนต์ทุกปีอย่างเข้มงวด
เมืองปารีส ฝรั่งเศส ห้ามรถยนต์ที่ผลิตก่อนปี 1997 เข้าไปในใจกลางเมืองช่วงวันจันทร์-ศุกร์ ช่วงเวลา 08.00-20.00 น. มีมาตรการจูงใจให้ประชาชนเดินทางด้วยวิธีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ลอนดอน อังกฤษ เพิ่มสายรถประจำทางและขบวนตู้รถโดยสารใต้ดิน เพื่อรองรับการเดินทางระบบขนส่งสาธารณะของประชาชน ลดการเผาเชื้อเพลิงทั้งไม้และถ่านหิน
ส่วนประเทศจีนที่เผชิญกับปัญหานี้ค่อนข้างมาก ใช้มาตรการควบคุมการปล่อยมลพิษของโรงงานอุตสาหกรรม ใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การสลับรถวิ่งบนท้องถนน วันคู่ วันคี่ ตามเลขทะเบียนที่ลงท้าย หนุนการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงบางส่วนของการแก้ไขวิกฤตฝุ่นในต่างประเทศที่มีการวางแผน กำหนดมาตรการอย่างจริงจัง
ในขณะที่บ้านเราหากไม่เกิดวิกฤตรอบนี้คงไม่เห็นความตื่นตัวของภาคส่วนต่างๆ
ปัญหาวิกฤตฝุ่นจิ๋วที่เกิดบ่อยขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คงไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อีกต่อไป
ถึงเวลาที่ควรต้องหยิบยกเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อวางแผนแก้ไขในระยะยาวกันต่อไป