ทษช.ยกทีมสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ยังอุบแคนดิเดตนายกฯ จะเสนอในเวลาเหมาะสม

ทษช. ยกทีมสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ คาดได้ส.ส.รวม 50-60 ที่นั่ง “ปรีชาพล” ย้ำ ทษช.จะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯในเวลาที่เหมาะสมแต่ภายในวันที่ 8 ก.พ.แน่นอน

เมื่อวันที่ 09.30 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แกนนำพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) นำโดยร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรค นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียง นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการสรรหา พร้อมผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรค เดินทางมายืนใยสมัคร โดยร.ท.ปรีชาพล ให้สัมภาษณ์ถึงรายละเอียดในการส่งบัญชีรายชื่อของพรรคทษช. ว่า เราส่งบัญชีรายชื่อทั้งหมด 108 คน โดย 10 ลำดับแรกประกอบด้วย 1.ปรีชาพล พงษ์พานิช 2.นายจาตุรนต์ ฉายแสง 3.นายฤภพ ชินวัตร 4.นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด 5.นายมิตติ ติยะไพรัช 6.น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล 7.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ 8.นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ 9.นายพิชัย นริพทะพันธุ์ และ 10.นายพงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุล ทั้งนี้ เราคาดการณ์ว่าพรรคทษช.จะได้บัญชีรายชื่อประมาณ 50-60 คน ส่วนบัญชีแคนดิเดตนายกฯของพรรคนั้นยังไม่ถึงเวลา โดยเราจะยื่นเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม แต่ขอให้สบายใจว่ามีแน่นอนแต่จะอยู่ในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดคือไม่เกินวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งเป็นไปได้หมดทุกคนเพราะบุคลากรของพรรคทษช.มีจำนวนหลายท่านที่มีคุณสมบัติ และมีความรู้ความสามารถที่จะอยู่ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่า จะมีชื่อคนในตระกูลชินวัตรเป็นแคนดิเดตนายกฯด้วยหรือไม่ ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า ก็เป็นไปได้ เพราะอย่างนายฤภพก็เป็นรองหัวหน้าพรรค ถ้าสมาชิกเสนอกรรมการบริหารพรรคก็ต้องพิจารณา เรามีคำตอบให้แน่นอน

เมื่อถามว่า หากเซพตี้โซนจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคอยู่ที่ 50-60 คนแปลว่าพรรคจะได้ส.ส.เขตน้อยใช่หรือไม่ ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า เราส่งผู้สมัครในระบบเขตเลือกตั้งประมาณ 150 คน เราก็คาดหวังว่าเราจะได้ส.ส.เขตจำนวนมาก ซึ่ง 50-60 ที่นั่งที่ว่าหมายรวมถึงส.ส.เขตด้วย

Advertisement

เมื่อถามว่า มีอย่างน้อย 50 เขตที่ชนกับพรรคเพื่อไทย (พท.) ถ้าต้องพูดกับประชาชนความแตกต่างระหว่างสองพรรคคืออะไร นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ตนคิดว่าประชาชนจะพิจารณาเองว่าจะเลือกอย่างไรจึงจะเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายประชาธิปไตย ตนคิดว่าประชาชนจะสามารถทำความเข้าใจได้ในยะเวลาสั้นๆทั้งในกรณีที่ส่งซ้ำกันหรือส่งไม่ซ้ำกัน ทั้งนี้ ยืนยันว่า การส่งไม่ซ้ำกันของพรรคทษช. และพรรคพท.นั้น ได้เป็นการฮั้วกัน เพราะเป็นไปไม่ได้ จากแต่ละเขตมี 30-50 พรรค การที่ทษช. ไม่ส่งไม่ได้หมายความว่าคะแนนจะไปกองอยู่ที่พรรคพท.หมด ประชาชนจะใช้ดุลพินิจเองว่าจะเลือกเอง และสุดท้ายในสภาจะต้องมีการตกลงกันว่าจะให้แคนดิเดตนายกฯของพรรคไหนเป็นนายกฯ ฝ่ายประชาธิปไตยก็ต้องยกมือให้แคนดิเดตนายกฯเพียงคนเดียวจึงจะสามารถสู้กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ได้ แต่จะเป็นใครยังไม่มีการตกลงล่วงหน้า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image