‘ภราดรภาพ’ ยกทีมสมัคร ส.ส.กทม. ชี้ ส่งครบทุกเขต หวังเก็บเรียบ

เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพ (ไทย-ญี่ปุ่น) สถานที่รับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ในพื้นที่ กทม. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา แต่ยังมีว่าที่ ส.ส.ทยอยเดินทางมาลงสมัครพร้อมรับหมายเลข

ผู้สมัครจากพรรคภราดรภาพ รวมกลุ่มมาร่วมสมัครทั้งสิ้น 17 คน 17 เขต จากที่เมื่อวานนี้ได้สมัครไปแล้ว 5 เขต โดยนายพิเชษฐ์ ไทยนิยม ผู้สมัครเขต 30 หนองแขม หมายเลข 17 กล่าวว่า ทางพรรคได้ส่งผู้สมัครครบทั้ง 30 เขตใน กทม. แต่ที่ไม่ได้มาในวันแรกเพราะคาดว่าคนจะแน่น เนื่องจากคนที่มาวันแรกเพราะต้องการเลขตัวเดียวซึ่งต้องใช้การจับสลาก มีโอกาสทั้งได้และไม่ได้ ซึ่งเราไม่ได้คาดหมายที่จะได้เลขตัวเดียว เพียงแต่ขอให้ได้ลงสมัครและได้ตัวเลขในการสมัครก็พอแล้ว เพราะตัวเลขสำหรับเราไม่ได้มีความสำคัญอะไรมาก เลขคู่สำหรับตนก็เป็นเลขเดี่ยวได้

“ตอนนี้ยื่นหมดแล้ว และได้เลขผู้สมัครครบทุกคนแล้ว โดยที่ไม่ใช่เลขเดียวกัน แต่มีซ้ำกันบ้างในบางเขต เลขที่ได้ค่อนข้างพอใจ ปล่อยไปตามดวง แม้จะได้เลขอยู่ท้ายๆ แต่ก็ไม่หนักใจเพราะเราเด่นด้วยโลโก้พรรค ดังนั้น การลงคะแนนก็ต้องดูที่สัญลักษณ์กับพรรคเป็นหลัก พยายามทำให้ทุกคนจดจำโลโก้พรรคและให้ตัวเลขเป็นเพียงส่วนประกอบ อย่างไรก็ตาม พรรคภราดรภาพได้ส่งผู้สมัครครบทั้ง 30 เขต ซึ่งแม้กระทั่งพรรคใหญ่บางพรรคเองก็ยังส่งไม่ครบ โดยทั่วประเทศทางพรรคส่งผู้สมัครกว่า 200 คน เรามีความพร้อมและมีการเตรียมตัวมาแล้ว แม้ว่าก่อนหน้านี้อาจจะไม่เห็นเราในสื่อ แต่ปัจจุบันก็จะได้เห็นมากขึ้น ที่ผ่านมาตั้งแต่ก่อนปีใหม่และหลังปีใหม่ เราได้ทำการพบปะพี่น้องแล้ว โดยเฉพาะเขตหนองจอก บางแค และหนองแขม หลังจากนี้ไปก็จะได้สตาร์ตเต็มตัว ส่วนใหญ่แล้วผู้สมัครที่เป็นอดีต ส.ส.ปัจจุบันก็จะไปลงปาร์ตี้ลิสต์ ส่วนที่ลงพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นหน้าใหม่ เราทำการบ้านอย่างหนัก และลงพื้นที่หนักเช่นกัน หวังว่าประชาชนจะเปิดโอกาสให้ผู้สมัครหน้าใหม่ พรรคใหม่ที่ไม่ได้มีความขัดแย้งหรือเกี่ยวข้องกับฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ใน กทม.เราคาดหวังทั้ง 30 เขต แต่ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนว่าจะให้โอกาสหรือไม่ ที่วางไว้หลักๆ คือหนองแขม และเขตที่ตนลงอยู่เขต 30 บางกอกน้อย เรามีตังเก็งอยู่พอสมควร ทุกคนสู้หมด”

นายพิเชษฐ์กล่าวว่า การหาเสียงปัจจุบันหลักๆ คือเรื่องมลพิษ และลดความขัดแย้ง โดยปัญหาใหญ่คือมลพิษ เรื่องฝุ่นที่เพิ่มขึ้นตลอดในปีนี้และปีต่อไป ซึ่งปัจจุบันอาจจะยังไม่ส่งผล แต่จะส่งผลกระทบในระยะยาว และนโยบายทางด้านเศรษฐกิจก็จะเน้นเศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง โดยความเข้มแข็งต้องมาจากการร่วมมือกันภายในของชุมชน อย่างโลโก้ของพรรคก็เป็นการร่วมมือ ต้องปราศจากความขัดแย้งก่อน แล้วจับมือไปด้วยกัน ชุมชนต้องเข้มแข็ง เมื่อชุมชนเข้มแข็งก็จะสร้างเศรษฐกิจชุมชนให้ดีขึ้น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image