09.00 INDEX “พลังดูด” กับ “ประชาธิปัตย์” “โอกาส”ใหม่ “พลังประชารัฐ”
การปราศรัย”ใหญ่”ครั้งแรกของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ได้เห็นความพร้อมในทาง“เทคโนโลยี” ที่มีการถ่ายทอดสดไปยัง 7 จุดพร้อมกันทั่วประเทศ
หากแต่ยังทำให้แฟนานุแฟนของพรรคประชาธิปัตย์รับรู้ข้อเท็จจริงจากผลสะเทือนแห่ง”พลังดูด”
ปรากฏว่ามีมากถึง 17 คน
บางส่วนไปอยู่พรรครวมพลังประชาชาติไทย บางส่วนไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ
“บางคนมีพร้อมทุกอย่างก็ยังไป” นายชวน หลีกภัย สรุป
หากพิจารณาจาก “สถานะ” ที่หลายคนจากพรรคประชาธิ ปัตย์ได้รับเมื่อย้ายเข้าไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ
ก็ต้องตั้งคำถามถึง “อุดมคติ”และ”ความพร้อม”
ตัวอย่างง่ายที่สุดก็จากกรณีของ นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ และ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
ถามว่าสถานะในพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างไร
สูงสุดที่ นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ ได้รับเมื่ออยู่พรรคประชาธิ ปัตย์ คือ ตำแหน่ง”ผู้อำนวยการพรรค”
สูงสุดที่ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ได้รับคือ ส.ส.
แต่พลันที่เข้ามาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ ก็ได้เป็นรองหัวหน้าพรรค และได้เข้าไปอยู่หมายเลข 1 ในระบบบัญชีรายชื่อ
เหนือกว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
เช่นเดียวกับ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ได้เข้าไปอยู่หมายเลข 3 ในระบบบัญชีรายชื่อ เหนือกว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ด้วยซ้ำไป
หากยังอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่า นายณัฎฐพล ทีปสุ วรรณ ไม่ว่า นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ก็ไม่มีทางเป็น 1 ใน 10
นี่คือสถานะและความเปลี่ยนแปลงที่สัมผัสแตะต้องได้
อาจเป็นเพราะพรรคพลังประชารัฐเพิ่งก่อรูปขึ้นจากสถานการณ์ รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
ย่อมเป็นโอกาสให้กับคนที่มาจาก”ประชาธิปัตย์”
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ก่อรูปมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2489 ย่อมมีปราการของคนรุ่นก่อนขวางอยู่อย่างมหึมามโหฬาร
แม้มี “อุดมคติ” ก็สร้าง”โอกาส”ได้ยากลำบาก
