•…ยังต้องโฟกัสที่การเลือกตั้ง ซึ่งเพิ่งปิดรับสมัคร ส.ส.ไปเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน สรุปแล้วมีผู้สมัคร 11,128 คน จาก 80 พรรค มี 72 พรรคการเมืองยื่นสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ จำนวน 2,718 คน วันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ กกต.จะประกาศรายชื่อ แจ้งเป็นผู้มีสิทธิสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ และ “รับรอง” ผู้ที่ได้รับเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรค ว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่
•…พรรคไทยรักษาชาติ เรียกเสียงฮือฮาเมื่อเสนอพระนาม “ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ” เป็นแคนดิเดต “นายกฯ” ของพรรค อย่างไรก็ตาม ต่อมามี “พระราชโองการ” ในรัชกาลที่ 10 ทรงพระกรุณาฯให้แนวทางในเรื่อง “สถาบันพระมหากษัตริย์” และ “พระบรมราชวงศ์” ที่ต้องอยู่เหนือ “การเมือง” แม้ว่า “ทูลกระหม่อมหญิงฯ” ได้ทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์แล้วก็ตาม
•…พระราชโองการระบุว่า การนำสมาชิกชั้นสูงใน “พระบรมราชวงศ์” มาเกี่ยวข้องกับระบบการเมือง เป็นการขัดต่อ “โบราณราชประเพณี ขนบธรรมเนียม และวัฒนธรรมของชาติ” เป็นการกระทำที่ “มิบังควรไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง” และยังขัดต่อ “เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ” และ “ประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” ก็จะเป็น “แนวทาง” สำหรับ “พรรคไทยรักษาชาติ” และเป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับระบอบประชาธิปไตยไทยต่อไป
•…พรรคไทยรักษาชาติเองแถลง “น้อมรับพระราชโองการ” และซาบซึ้งใน “พระเมตตา” ของ “ทูลกระหม่อมหญิงฯ” หลังจากนี้ก็จะต้องมาดูว่า “ผลทางกฎหมาย” จะเป็นอย่างไร ที่ชัดๆ ก็คงมีเรื่องที่ ไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป ยื่นให้ กกต. สั่งพรรค ทษช. ถอดพระนาม โดยระบุว่าขัด “ระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. 2561 ข้อ 17” ซึ่งกำหนดไว้ว่า “ห้ามผู้สมัครพรรคการเมืองหรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับหาเสียงเลือกตั้ง”
•…ส่วนพรรคอื่นๆ คงเดินหน้าหาเสียงกันต่อไป ที่ต้องเร่งเครื่องเป็นพิเศษคือ “พรรคพลังประชารัฐ” ที่ตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตอบรับเป็น “นายกฯ” ในบัญชีรายชื่อของพรรคแล้ว แต่ได้ข่าวลึก ยังต้องทำงานหนักในเรื่อง “คะแนนนิยม” กันอีกพอควร ขณะที่คู่แข่งอย่าง “เพื่อไทย” แชมป์เก่า ที่มีทีมแคนดิเดตนายกฯ 3 ชื่อระดับ “มวยหลัก” นำทีมมาโดย “เจ๊หน่อย สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์-ชัชชาติ สิทธิพันธุ์-ชัยเกษม นิติสิริ” ลุยตั้งเวที เยี่ยมเยือนฐานเสียงเดิมๆ อย่างคึกคัก แต่ละเวทีมี “ผู้ฟัง-แฟนคลับ” มาร่วมรับฟังและสนับสนุนคึกคัก
•…นี่ก็เดินหน้ากันเงียบๆ “250 ส.ว.” ชุดพิเศษ ที่แยกเป็น 2 ชุด 50 คนแรก มาจาก กกต.เปิดรับสมัครให้เลือกกันเอง เหลือ 200 คน แล้วส่ง คสช.จิ้มเหลือ 50 ข่าวว่าชื่อ 200 คนเสร็จเรียบร้อย ส่วนอีก 200 ให้ตั้ง “คณะ กก.สรรหา ส.ว.” จำนวน 9-12 คน มาสรรหาผู้มี “คุณสมบัติ” จำนวน 400 คน ส่งให้ คสช.เลือกเหลือ 194 คน บวกกับผู้เป็น ส.ว.โดยตำแหน่ง 6 คน ได้แก่ “ปลัด กห.-ผบ.สูงสุด-ผบ.3 ทัพ และ ผบ.ตร.” รายชื่อทั้งหมด 600 ชื่อนี้ ต้องเสร็จและส่ง คสช. อย่างน้อย 15 วันก่อนวันเลือกตั้ง 24 มี.ค. ตกประมาณวันที่ 7-8 มี.ค. ชื่อต้องถึง คสช.แล้ว คสช.ต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 3 วันก่อนเลือกตั้ง 24 มี.ค. แล้วนำทูลเกล้าฯ เพื่อโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง
•…ชุดแรก 200 คนที่จะต้องคัดให้เหลือ 50 คน ข่าวว่าใช้งบจัดการไป “1,300 ล้าน” ส่วนชุดหลังจะใช้เท่าไหร่ยังไม่แจ้ง แต่ไม่น่าจะเยอะ เพราะเป็นการทำงานของ “คณะกรรมการ” แต่ปัญหาคือ “คณะกรรมการ” ชุดที่ว่านี้ ยังไม่เห็นข่าวว่ามีการแต่งตั้ง ถึงกระนั้นก็พอคาดเดาวาดภาพได้ว่า “กรรมการ” น่าจะเป็นใคร แล้ว “ใคร” จะมาเป็น “250 ส.ว.” โดยเฉพาะในส่วนของ “194 ส.ว.” น่าจะเป็นเครือข่าย อดีตข้าราชการ อดีตทหาร ที่ใกล้ชิด กกต.มาก่อนนั่นเอง
•…เชิญปะทะวงสะวิง กอล์ฟการกุศล ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ ที่สนามสุวรรณภูมิ กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับถนนสุวินทวงศ์ หนองจอก กทม. โดยชมรมกอล์ฟศิษย์เก่าเบญจมราชูทิศ
กาแฟป่า