| ผู้เขียน | การ์ตอง |
|---|
ท่ามกลางความเป็นไปทางการเมือง ที่มีเรื่องราวมากมายมากระตุ้นให้เกิดความตื่นตัวในขณะนี้
ในสังคมออนไลน์ โซเชียลเน็ตเวิร์ก ตามยุคสมัยที่ทุกคน ทุกองค์กร ทุกสิ่ง ทุกอย่าง สามารถสื่อความรู้สึก นึกคิดออกสู่สาธารณะได้ทันทีทันใด เป็น “เรียลไทม์” อย่างที่ว่ากัน
ในหลากหลายเรื่องราวชวนตื่นตาตื่นใจในความเป็นไปของการเมืองไทย มีหลายบุคคลที่เป็นจุดสนใจ ถูกนำมาพูดถึงและวิพากษ์วิจารณ์ในมุมที่น่าศึกษา
ในความน่าสนใจระดับที่ควรบันทึกความเป็นไปไว้คนหนึ่งในกลุ่มนี้คือ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์
สถานะของ “ดร.เอนก” ชั่วโมงนี้ คือ “ผู้นำพรรครวมพลังประชาชาติไทย” หรือที่ตัวเขาบอกเองว่า มี “ฐานจากมวลมหาประชาชนของ กปปส.” ภายใต้การชี้นำของ สุเทพ เทือกสุบรรณ หรือ “ลุงกำนัน” ในตำนาน
“เอนก” เป็นแกนก่อตั้งพรรคนี้ขึ้นมาด้วยเจตนาชัดเจนในเบื้องต้นว่า เป้าหมายอยู่ที่การสนับสนุนให้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สานต่ออำนาจ
จาก “ผู้นำนักศึกษายุค 14 ตุลาคม 2514” และกระทั่งเข้าป่าไปต่อสู้เพื่ออุดมการณ์หลังเหตุการณ์ ตุลา 16
เอนก เหล่าธรรมทัศน์ กลับออกมาสู่เมืองอีกครั้ง ในเส้นทางเหมือน “ผู้นำนักศึกษาร่วมชะตากรรมคนอื่นๆ” คือได้โอกาสในการศึกษาต่อต่างประเทศ และกลับมาเป็น “อาจารย์มหาวิทยาลัย”
ชื่อเสียงของ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ดูปราชญ์เปรื่องทีเดียว หลังเสนอแนวคิด “สองนคราประชาธิปไตย” ทำให้มีภาพของ “นักวิชาการ” ที่ “อ่านการเมืองขาด”
“สองนคราประชาธิปไตย” สะท้อนภาพการเมืองไทยในยุคหนึ่งได้ชัดเจน จนเป็น “ทฤษฎี” ที่นักวิเคราะห์การเมืองทั้งหลายนิยมนำมาใช้มอง และอ่านแนวโน้มการเมืองไทยมาระยะหนึ่ง
นั่นทำให้ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ได้รับการเชิญชวนให้ช่วยงานในด้านหาหนทางพัฒนาการเมืองให้ดีขึ้น หรือที่เรียกกันว่า “ปฏิรูปการเมือง” อยู่เสมอมา
แม้แต่การตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา ยังนิยมที่จะให้ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ มานั่งในฐานะกุนซือ ผู้เชี่ยวชาญในการชี้ทิศทางว่าจะยืนอยู่จุดไหน และบ่ายหน้าไปทางใดเพื่อไม่ให้พลาดเป้าในการเข้าร่วมในศูนย์อำนาจ
และครั้งนี้ก็เช่นกัน “พรรครวมพลังประชาชาติไทย” อันมี สุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศตระบัดสัตย์มาเดินนำคารวะแผ่นดินเพื่อฟื้นคะแนนนิยมจาก “มวลมหาประชาชน กปปส.” ก็มี เอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นกุนซือ
ทว่ายิ่งนับวัน เสียงจาก “สื่อสังคมออนไลน์” ยิ่งสะท้อนความเป็น เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ในมุมของ “พัฒนาการแห่งมนุษย์” ด้วยสาระที่ชวนติดตาม
จากคำ “ถ้ารู้ประชาธิปไตยเป็นแบบนี้จะไม่ร่วมเคลื่อนไหว 14 ตุลาฯ” มาถึง “ท่าทีในการดีเบตผู้นำพรรคการเมืองในการเลือกตั้ง” และล่าสุด “เปิดฉากวิพากษ์ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แบบถือเป็นเป้าหมายในการต่อสู้”
ทั้งหมดล้วนก่อคำถาม และการให้คำตอบกันกระหึ่มใน “โซเชียลเน็ตเวิร์ก” ว่าเกิดอะไรขึ้นกับ “นักทฤษฎีวิเคราะห์การเมืองผู้โด่งดังและได้รับการยอมรับ”
คำตอบหลากหลาย ทั้งด้วยอารมณ์และลงลึกในรายละเอียดความเป็น เอนก เหล่าธรรมทัศน์
ทั้งที่มองว่า “ความเป็นปกติของการดำรงอยู่ที่ขอแค่ที่ยืนสักแห่งในศูนย์กลางอำนาจพอจะแสวงผลประโยชน์บางอย่างได้”
และเลยไปถึง “ทฤษฎีการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์” ซึ่งที่สุดสรุปว่า นอกจาก “ความเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงในธรรมชาติ” อันเกิดจาก “อุกกาบาตยักษ์ชนโลก” แล้ว เหตุใหญ่เป็นเรื่อง “พันธุกรรมของไดโนเสาร์เองที่ไม่มีความสามารถที่จะปรับเปลี่ยนไปในทางสร้างพัฒนาการที่เท่าทัน เหมาะสมกับความเปลี่ยนแปลงของโลก”
มองกันไปถึงขั้นว่า อาจบางที “คุณค่าของทฤษฎีสองนคราประชาธิปไตย”
หมดราคาไปแล้ว
