พรรคการเมือง ย้ำ ‘ศิลปวัฒนธรรม’ เป็นเรื่องพลวัต รัฐควรส่งเสริม หนุนตั้งกองทุนสนับสนุนศิลปิน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร จัดเสวนาสาธารณะ “พรรคการเมืองกับนโยบายศิลปวัฒนธรรม” โดยตัวแทนจากพรรคการเมืองต่างๆ

นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า พรรคเรามีนโยบายด้านศิลปวัฒนธรรม โดยมุ่งมั่นส่งเสริมการเรียนรู้ นำหลักธรรมทางศาสนามาใช้ในการดำเนินชีวิตอย่างสันติสุข มุ่งมั่นอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย โดยนำศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นและภูมิปัญญา ศึกษาค้นคว้าวิจัยฟื้นฟูพัฒนาและเผยแพร่ให้เกิดความรู้ความเข้าใจในประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมของชาติ ส่งเสริมให้คนนำศิลปวัฒนธรรมมาประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิต และจะนำไปสู่การเกิดศิลปวัฒนธรรมโดยธรรมชาติ เพื่อพัฒนาเป็นวัฒนธรรมที่ดีของชาติ

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่มีการออกแบบนโยบายเรื่องศิลปวัฒนธรรม โดยตั้งประเด็นจากปัญหาในเรื่องเหล่านี้ก่อน ปัญหาแรกที่พบคือเรื่องวัฒนธรรมไทยกับความหมายสากลของวัฒนธรรม ทั้งนี้ เรื่องวัฒนธรรมสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา พรรคจะดำเนินการสร้าง Community Art Space ในทุกๆ จังหวัด ซึ่งประกอบด้วย โรงภาพยนตร์ โรงละครเวที สถานที่แสดงดนตรี พร้อมลดการกระจายอำนาจทางวัฒนธรรมที่ถูกผูกขาด จัดตั้งกองทุนสนับสนุนศิลปิน ให้ทุนในการสร้างผลงาน ก่อตั้งสภาศิลปวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ปรับภาษีมูลค่าเพิ่มที่เป็นอัตราเฉพาะในสินค้าทางวัฒนธรรม เช่น แผ่นเสียง ซีดี ดีวีดี ตั๋วหนัง อย่างไรก็ตาม พรรคอนาคตใหม่เชื่อมั่นว่าวัฒนธรรมเป็นเครื่องมือในการเปลี่ยนแปลงความคิดคน ถ้าหากให้ประเทศไทยเป็นประเทศประชาธิปไตย ยึดมั่นในสิทธิมนุษยชนด้วยความแตกต่างหลากหลาย ต้องใช้วัฒนธรรมเป็นเครื่องมือในการสนับสนุนเรื่องเหล่านี้

นายพาลินี งามพริ้ง แคนดิเดตชิงนายกรัฐมนตรี พรรคมหาชน กล่าวว่า ประเทศไทยต้องวิเคราะห์ก่อนว่าทำไมเรื่องศิลปวัฒนธรรมถึงเป็นเรื่องที่มาทีหลังตลอดเวลา ตนคิดว่ามีสาเหตุจาก 1.เรื่องทัศนคติของสังคมที่มุ่งเน้นเรื่องอำนาจนิยม วัตถุนิยม การจำกัดความคิด จำกัดสิทธิ และตีตราผู้อื่น 2.สถานการณ์ของประเทศ เนื่องจากเป็นอำนาจนิยม ทุกคนอยากมีอำนาจ ดังนั้น ต้องมีการต่อสู้ในการเข้าไปมีอำนาจ ซึ่งการต่อสู้ดังกล่าวไม่ได้ทำให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจ ศิลปวัฒนธรรม หรือการกีฬา 3.ปัญหาด้านการตลาด เพราะส่วนใหญ่มองแต่เรื่องการท่องเที่ยว โดยตลาดของศิลปะนับเป็นเรื่องสำคัญ ในแง่ของการทำงานเชิงศิลปะของทุกคน ทุกประเทศ ย่อมมีอยู่แล้ว เพียงแต่จะเจริญรุ่งเรืองหรือไม่ขึ้นอยู่กับการตลาด สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เมืองไทยขาดไป อีกทั้งการตลาดของการท่องเที่ยวที่ใช้อยู่นั้นมีการจำกัดของการลื่นไหล หรือการพัฒนาของศิลปะร่วมสมัย เพราะส่วนใหญ่นำวัฒนธรรมขึ้นมาเผยแพร่ แต่เป็นวัฒนธรรมที่หยุดอยู่กับที่

Advertisement

นายองอาจ คล้ามไพบูรณ์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าถ้าพรรคการเมืองได้ผู้นำที่มีความเข้าใจเรื่องศิลปวัฒนธรรมซึ่งเป็นเรื่องพลวัต เสมือนกับสังคมที่ไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่ ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ที่สำคัญคือศิลปวัฒนธรรมเป็นเรื่องที่อยู่กับชีวิตมนุษย์ อยู่กับคน กับชุมชนทั่วประเทศ ซึ่งเรามีทุนวัฒนธรรมอยู่แล้ว ดังนั้น รัฐมีหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนทุกวิถีทาง เพียงแต่เข้าใจเรื่องนี้ หรือเห็นความสำคัญของศิลปวัฒนธรรมมากน้อยแค่ไหน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image