เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 17 กุมภาพันธ์ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงพื้นที่คลองลาดพร้าว พร้อมผู้สมัคร ส.ส.กทม.จำนวน 5 เขต ได้แก่ น.ส.อรพินทร์ เพชรทัต ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 5 นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 8 นายสิระ เจนจาคะ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 9 นายอิทธิพันธ์ เศรษฐยุกานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 11 ภญ.นพวรรณ หัวใจมั่น ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 12 ลงพื้นที่ชุมชนหลังวัดลาดพร้าว
จากนั้น นายกอบศักดิ์ และคณะได้ลงเรือที่ศูนย์สุขภาพชุมชนสามัคคีร่วมใจ เขตบางเขน โดยมีประชาชนในพื้นที่ออกมารอให้การต้อนรับพร้อมตะโกน “พลังประชารัฐ สู้ๆ ” ทำให้บรรยากาศในพื้นที่เป็นไปด้วยความคึกคัก ขณะเดียวกัน ยังมีประชาชนมอบดอกกุหลาบให้กับนายกอบศักดิ์ พร้อมผู้สมัคร ส.ส.ที่ร่วมลงพื้นที่ด้วยกัน
โดยนายกอบศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเองพาว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงพื้นที่ ซึ่งมาด้วยกันเป็นทีม เพื่อให้เห็นถึงความต้องใจของพรรคที่ต้องการพัฒนาและขับเคลื่อนคลองสวย น้ำใส โดยจะพัฒนาริมคลองลาดพร้าวให้ดียิ่งขี้น คืนคลองสวย น้ำใส ให้ประชาชนลาดพร้าวทั้งเส้น หากคลองสวย น้ำใส กลับคืนมา ก็จะมีการคมนาคมเส้นทางใหม่ และไม่ไปติดขัดจราจรบนถนน ตลอดจนทำให้บ้านเรือนริมคลองสวยงาม ส่งผลไปยังเศรษฐกิจชุมชนที่อาจพัฒนาเป็น “ตลาดน้ำคลองบางบัว”และชุมชนท่องเที่ยว ที่สามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชาวต่างชาติที่ชอบท่องเที่ยวริมคลอง ซึ่งเป็นแนวทางที่ยังสามารถพัฒนาได้
จากนั้นนายกอบศักดิ์ และคณะได้ลงเรือต้นแบบพลังงานไฟฟ้า ขับโดยนายชวน ชูจันทร์ กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ เป็นคนขับ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพื่อรับฟังปัญหา ที่ชุมชนก้าวหน้า ย่านหลักสี่ ต่อไป
นายกอบศักดิ์ กล่าวถึงรังสิตโพลที่ผลสำรวจล่าสุดพบว่าพรรคการเมืองที่จะได้คะแนนสูงสุด คือพรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 21.5 ว่า เป็นครั้งแรกที่พรรคพลังประชารัฐ เป็นเบอร์ 1 ในโพล ซึ่งเกิดจากความขยันของผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ที่ลงพื้นที่เป็นประจำ ทำให้เข้าถึงประชาชน ได้รับความเชื่อใจและเชื่อมั่น ตลอจนแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของพรรค โดยยืนยันว่า พรรคจะทำต่อไป เพราะยังมีอีกหลายโพลที่จะต้องต่อสู้และยังมีเวลา 35 วันที่ ต้องต่อสู้มากกว่านี้ เพื่อให้ ชนะใจประชาชน และเพื่อให้กรุงเทพมหานครเกิดความเปลี่ยนแปลง สร้างความหวังให้คนกรุงเทพฯ โดยเน้นสาระและทำงานได้จริง
นายกอบศักดิ์ กล่าวถึงความไม่ชัดเจนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ซึ่งเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรค ยังไม่สามารถมาช่วยพรรคหาเสียงได้ว่า ไม่เป็นไร เพราะการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบรับมาเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรค ก็ช่วยได้มาก และทุกครั้งที่มีโพล จะเห็นได้ว่าพล.อ.ประยุทธ์ยังเป็น 1 ในดวงใจของทุกคน ส่วนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ช่วยหาเสียงได้แค่ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับ กกต. และพรรคก็พร้อมรับฟัง กกต. ในการทำตามกติกาทุกอย่าง หาก กกต.ให้ พล.อ.ประยุทธ์ มาช่วยหาเสียงได้ พรรคก็ดีใจ แต่หาก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถมาช่วยหาเสียงได้ เราก็จะเดินหน้าหาเสียงต่อ โดยยืนยันว่า เราไม่ใช่รัฐบาลปัจจุบัน แต่เป็นพรรคใหม่ ที่จะเดินหน้านโยบายที่ถูกใจประชาชนต่อไป เช่น บัตรประชารัฐ ธนาคารชุมชน ป่าชุมชน และอีกหลายเรื่องที่เป็นนโยบายที่ดีของรัฐบาลนี้ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐจะทำทุกอย่างเพื่อตอบโจทย์ประชาชนให้ได้ แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะลงมาช่วยหาเสียงไม่ได้แต่ก็ยังมีกำลังใจสู้เต็มที่
