บทนำ : ไร้วี่แววปรองดอง

เหตุผลสำคัญเหตุผลหนึ่งที่ คสช.ยึดอำนาจคือประเทศไทยขัดแย้งอย่างหนักกระทั่งต้องเข้ามาเป็นคนกลางบริหารประเทศ โดยภารกิจแรกๆ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ดำเนินการคือจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาเพื่อสร้างความปรองดองภายในประเทศ มีโครงการ มีผู้ดูแลการปฏิบัติ และกระจายการปฏิบัติไปทั่วทุกพื้นที่ มีการเปิดเวทีจัดประชุมหารือกัน และนำเสนอแนวทางเพื่อนำไปสู่การปรองดอง แม้ในระยะหลังๆ เมื่อ คสช.ตั้งรัฐบาลและมี พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ก็ยังผลักดันเรื่องปรองดองสมานฉันท์อยู่อย่างต่อเนื่องจนกระทั่งปัจจุบัน

การศึกษาเรื่องความขัดแย้งและการซักถามเหตุและผลของความขัดแย้งมีข้อสรุปร่วมกันว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาจากความเหลื่อมล้ำ ทั้งความเหลื่อมล้ำทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม โดยมีข้อเสนอให้มีการแก้ไขหลายอย่าง แม้กระทั่งการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคมนี้ หัวข้อสำคัญหนึ่งที่มีการซักถามพรรคการเมืองที่เข้าสู่สนามเลือกตั้งก็คือจะทำอย่างไรกับปัญหาความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้น แต่ขณะที่การหาเสียงกำลังจะเริ่มขึ้น ดูเหมือนว่าความขัดแย้งทางความคิดของคนไทยเริ่มกลับมาอีกครั้ง และทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยล่าสุดเมื่อ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับกระทรวงกลาโหม ทำให้สถานการณ์มีแนวโน้มที่จะแย่ลง

ก่อนหน้านี้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยได้ออกหาเสียง และให้สัมภาษณ์ถึงแนวนโยบายของพรรค ตอนหนึ่งคือการผลักดันให้ตั้งกองทุนเพื่อสร้างนักธุรกิจรุ่นใหม่หรือเถ้าแก่น้อย โดยตัดงบประมาณของกระทรวงกลาโหมออก 10 เปอร์เซ็นต์หรือประมาณ 20,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังเสนอให้เปลี่ยนแปลงเรื่องการเกณฑ์ทหาร ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องดังกล่าวกับ พล.อ.อภิรัชต์ ผบ.ทบ. ได้บอกให้ไปฟังเพลง “หนักแผ่นดิน” ซึ่งเป็นเพลงปลุกใจ ซึ่งบทเพลงดังกล่าวมีบทบาทสำคัญก่อนเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อปี 2519

ขณะที่ภาคประชาชนมีความเห็นขัดแย้งกันรุนแรง สะท้อนออกมาจากการเสนอความคิดเห็นในสังคมออนไลน์ ส่วนรัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ได้กลายเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ซึ่งกลายเป็นคู่แข่งกับพรรคการเมืองในสนามเลือกตั้ง กลายเป็นว่าขณะนี้ไทยเริ่มไม่มีกรรมการที่คอยดูแลประเทศ แนวโน้มความรุนแรงที่เริ่มและขยายตัวเช่นนี้จึงเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง ดังนั้น ทั้งภาครัฐและภาคประชาชนควรจะประคับประคองมิให้ความขัดแย้งขยายบานปลายกลายเป็นความรุนแรง มิเช่นนั้นสถานการณ์ประเทศจะกลับไปสู่วงจรเดิมที่มีแต่ความมืดมิด ไร้วี่แววที่จะได้เห็นความปรองดอง ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่คนไทยไม่ต้องการให้เกิดขึ้นซ้ำ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image