เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ตลาดนัดรถไฟ เขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอดิศร เพียงเกษ ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย (พท.) ลำดับที่ 23 ได้เดินทางไปปราศรัยหาเสียงให้นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 หมายเลข 1 จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายอดิศรให้สัมภาษณ์ ว่า ส่วนตัวไม่ได้แปลกใจกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ไม่ต้องแสดงวิสัยทัศน์ หรือออกมาดีเบตทางการเมือง เหมือนกับผู้เสนอตัวจากพรรคการเมืองอื่น ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ถูกมองว่าเป็นผู้นำที่มาจากเผด็จการ อาจไม่คุ้นเคยกับวิถีทางของระบอบประชาธิปไตย ทั้งที่ว่าที่ผู้นำทั่วโลกไม่มีใครออกมาปฏิเสธการแสดงวิสัยทัศน์ หรือการดีเบต ฉะนั้น การเรียกร้องให้แสดงความกล้าหาญก็คงไม่เกิดประโยชน์
“พล.อ.ประยุทธ์คงมองว่าไม่จำเป็น เพราะมี ส.ว.250 เสียง ที่แต่งตั้งเองรอยกมือสนับสนุน เหมือนการวิ่งแข่งขันระยะทาง 750 เมตร แต่ พล.อ.ประยุทธ์ไปยืนล้ำหน้าอยู่ที่ระยะ 250 เมตรแล้ว ส่วนการหารือ กกต.เพื่อให้วินิจฉัยว่า พล.อ.ประยุทธ์ทำอะไรได้บ้าง ก็ไม่คาดหวัง ขณะที่ กกต.กำหนดกติกาหาเสียงหยุมหยิมเกินไป เหมือนการจำกัดสิทธิของประชาชน ที่สำคัญ กกต.ควรออกมาปรามการแสดงความเห็นของ ผบ.ทบ.ในฐานะข้าราชการ เพื่อให้วางตัวเป็นกลาง เนื่องจาก ผบ.ทบ.ยังมีตำแหน่งเป็นเลขาธิการ คสช. แต่ส่วนตัวเชื่อว่ายังมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคมนี้ แม้ว่าจะมีกระแสการทำรัฐประหาร และขอวิงวอนผู้มีอำนาจ อย่าทำบาดแผลความขัดแย้งของประเทศให้ลึกมากไปกว่านี้” นายอดิศร กล่าว
นายอดิศรกล่าวอีกว่า สำหรับปฏิกิริยาของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กับการเคลื่อนไหวทางการเมืองช่วงที่ผ่านมา ค่อนข้างเงียบผิดปกติ มองว่าอาจมีลักษณะคล้ายกับการตอบแทนบุญคุณ เพราะในอดีต ปชป.เคยไปจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร และการทำรัฐประหารเมื่อปี 2557 ไม่มั่นใจว่า ปชป.ไปกวักมือเรียกทหารออกมาหรือไม่จากการบอยคอตการเลือกตั้ง วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 และหลังการเลือกตั้วันที่ 24 มีนาคม ประเมินว่า ปชป.ซึ่งจะมีจำนวน ส.ส.เป็นอันดับ 2 มีแนวโน้มจะตั้งรัฐบาลร่วมกับ พปชร.และ ปชป.จะไม่มีข้อต่อรอง ให้กระทรวงไหนก็เอาหมด หัวหน้าพรรคอาจเป็นรองนายกฯ
“ส่วนพรรคภูมิใจไทย พรรคการเมืองที่สุพรรณบุรี ก็แก้ผ้าออกมาจากบ้าน แสดงให้เห็นชัดเจนว่าฝ่ายไหนได้ตั้งรัฐบาล ก็จะขอมีเอี่ยวด้วยในฐานะพรรคขนาดกลาง” นายอดิศร กล่าว
