‘สุวิทย์’ ลุยหาเสียงกระบี่ ขอโอกาส ‘อย่ายึดติดกับกลุ่มการเมืองเดิมๆ’
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่อาคารเอนกประสงค์ โรงเรียนเหนือคลองประชาบำรุง ต.เหนือคลอง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสันติ กีระนันท์ นางวลัยพร รัตนเศรษฐ และนายองอาจ ปัญญาชาติรักษ์ กรรมการบริหารพรรค พร้อมนายสมัชชา เอ่งฉ้วน หลานชายนายอาคม เอ่งฉ้วน ผู้สมัครพรรค พปชร.เขต 2 จ.กระบี่ นำคณะลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียงในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 2 โดยมีประชาชนกว่า 300 คน มารอต้อนรับ และฟังการปราศรัยย่อยของพรรค
นายสุวิทย์ กล่าวปราศรัยต่อประชาชนว่า จ.กระบี่ มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเป็นลำดับ 5 ของประเทศ นายกรัฐมนตรี จึงให้ความสำคัญ และใส่ใจกับ จ.กระบี่มาก ที่ผ่านมารัฐบาลมอบหมายให้ จ.กระบี่ เป็นเจ้าภาพงานใหญ่ระดับโลก คืองานไทยแลนด์เบียนนาเล่ 2018 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของ จ.กระบี่ ทำให้ที่ผ่านมา จ.กระบี่ มีรายได้จากการท่องเที่ยวโตมากถึง 9 หมื่นล้านบาท หาก พปชร.มาเป็นรัฐบาล จะผลักดันเรื่องการท่องเที่ยวให้เติบโตมากขึ้น ซึ่งจะทำให้รายได้การท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็น 2 แสนล้านบาทให้ได้
นายสุวิทย์กล่าวต่อว่า ก่อนนี้ พรรคเปิดตัวขึ้นท่วมกลางความขัดแย้งในสังคม ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินหน้าสร้างความสงบสุขให้กับประเทศไทย ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญที่พรรคจะสานต่อ เพื่อนำพาให้สังคมก้าวไปสู่ความสงบสุขอย่างแท้จริง รวมถึงนโยบายอีกหลายด้าน อาทิ การพักหนี้กองทุนหมู่บ้าน ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ ถือว่ามีศักยภาพสูงที่จะผลักดันเศรษฐกิจของประเทศ พรรคจึงกำหนดยุทธศาสตร์ ภาคใต้ ด้ามขวาน 4.0 ซึ่งในอนาคต ภาคใต้จะเป็นพื้นที่เชื่อมต่อ อาเซียน จึงมีศักยภาพด้านเศรษฐกิจสูง ประกอบกับจะผลักดันภาคใต้เป็นโครงการ “ไข่มุกอันดามัน” โดยมี จ.กระบี่ เป็นหนึ่งในพื้นที่ดำเนินการ เน้นการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งจะทำให้การท่องเที่ยวของ จ.กระบี่ กลายเป็นรายได้หลักของประเทศและชุมชน
นายสุวิทย์กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนเรื่องสินค้าเกษตร ทางพรรคเองก็มีหลักคิด มีนโยบาย โดยจะไม่มานั่งพูดว่าจะค้ำประกันราคาให้ได้เท่านั้น เท่านี้ แต่เป็นการทำงานที่เป็นนโยบายระยะยาว จึงอยากขอโอกาสให้ พปชร.เข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งพรรคประกาศชัดเจนหนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ นั่งเก้าอี้นายกฯต่อ เพื่อทำงานที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง โดยจะดึงศักยภาพของภาคใต้ออกมาใช้อย่างเต็มที่ แต่ทุกอย่างจะเกิดขึ้นได้ จ.กระบี่ ต้องมีตัวแทนของพรรค เข้าไปร่วมทำงานเพื่อขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ของพรรค ให้เดินหน้าได้ จึงอยากฝากชาวกระบี่ ให้โอกาสกับผู้สมัครของพรรค อย่ายึดติดกับกลุ่มการเมืองเดิมๆ เพราะหากยังยึดติด จะทำให้ภาคใต้ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ควรจะเป็น
ต่อมา ทีมหาเสียงของพรรค พปชร.เดินทางไปปราศรัย และพบปะกับประชาชนอีกกว่า 300 คน ที่ หอประชุม โรงเรียนคลองท่อมราษฏ์รังสรรค์ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ โดยกล่าวชูนโยบายของพรรคให้ประชาชนที่มารับฟังได้ทราบ โดยแกนนำพรรคมั่นใจว่าผู้สมัครของพรรคในเขตเลือกตั้งที่ 2 จะสามารถชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน
