“บิ๊กตู่” โชว์วิชั่น มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน มั่นใจ “ไม่ฉลาดน้อย” และไม่ต้องดีเบต บอก น่าจะเรียนวิทย์ จะได้ไม่ต้องเป็นนายกฯ
เมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 27 กุมภาพันธ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พร้อมคณะได้แก่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเศรษฐกิจเพื่อสังคม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วงว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วงว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางมายังสถาบันวิทยสิริเมธีและโรงเรียนกำเนิดวิทย์ พื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ อ.วังจันทร์ จ.ระยอง เพื่อตรวจราชการด้านการศึกษา โดยเมื่อมาถึง พล.อ.ประยุทธ์ ได้เยี่ยมชมทัศนียภาพพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์เพื่อเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ที่หอชมวิว ตำบลป่ายุบใน ก่อนจะเดินทางมาที่อาคารเรียนรวมวิทยสิริเมธี เพื่อตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าการดำเนินงานของสถาบันวิทยสิริเมธี โดยมีนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ศ.ดร.จำรัส ลิ้มตระกูล อธิการบดีสถาบันวิทยสิริเมธี นายราเชนทร์ โกศัลวิตร ผู้อำนวยการโรงเรียนกำเนิดวิทย์ รวมถึงนายสุรศักดิ์ เจริญ ศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ให้การต้อนรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถือเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าของโรงเรียนกำเนิดวิทย์ โดยครั้งแรกเดินทางมาเมื่อวันที่ 20 กรกฏาคม 2558 อย่างไรก็ตาม การตรวจราชการครั้งนี้ โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้ใช้รถตู้โตโยต้าอัลพาร์ด สีขาว ทะเบียน ฏก.9559 กรุงเทพมหานคร
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับผู้บริหารและนักศึกษาว่า พวกเราทุกคนถือเป็นหัวกะทิ แต่กว่าจะได้หัวกะทินั้นจะต้องมีต้นมะพร้าวที่ดี แต่ปัญหาของต้นมะพร้าวคือ มีด้วงมาชอนไชจนตายจำนวนมาก เราต้องเสียเวลาและเสียเงินในการกำจัดด้วงมะพร้าว เช่นเดียวกับรัฐบาล วันนี้โดนเจาะทุกวัน ทั้งเรื่องความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมและประชาธิปไตย จึงต้องแก้ไขปัญหานี้ให้ได้ หลายอย่างต้องมีภูมิคุ้มกันที่ดี เชื่อว่าสถาบันการศึกษาโดยเฉพาะสถาบันแห่งนี้ จะสร้างคนเก่งและคนดีขึ้นมา แก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปฏิรูปการศึกษา เราเลือกเกิดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นคนรวยหรือคนจน แต่การศึกษาจะช่วยแก้ไขปัญหาทุกอย่างนี้ได้ ต้องสร้างหลักคิดที่ถูกต้อง สร้างคนดีคนเก่งในสังคม ให้มีคุณธรรมจริยธรรม มีจิตสำนึก จิตอาสา เพราะยุคใหม่ของเมืองไทย ต้องการคนแบบนี้
“การพูดในวันนี้ของผม ผมคิดว่าดีกว่าและเป็นประโยชน์กว่าที่จะไปดีเบต ผมแสดงวิสัยทัศน์ในการทำงานมา 5 ปียังไม่พออีกหรือ วิสัยทัศน์ของผมคือ ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ทั้ง 3 อย่างนี้ทำให้เกิดหลายร้อยกิจกรรมขึ้นมา เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย หากสนใจสามารถเปิดดูได้ในเว็บไซต์ของรัฐบาล ทั้งในส่วนของยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บท ที่โครงการต่างๆทำอย่างสอดคล้องกับงบประมาณรายรับรายจ่ายของประเทศ ทุกคนต้องเข้าใจว่ายุทธศาสตร์ชาติ คือกรอบการทำงานของรัฐบาล รวมทั้งส่วนราชการต่างๆ แต่อนาคตยังสามารถปรับเปลี่ยนได้เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป ไม่ใช่เรื่องยากที่จะปรับเปลี่ยน การเขียนยุทธศาสตร์ชาติไม่ใช่การล็อกสเปก รัฐบาลทำเช่นนั้นไม่ได้ เราเปิดกว้างในทุกเรื่อง ผมยังอิจฉาทุกคนที่ได้เรียนในโรงเรียนกำเนิดวิทย์และสถาบันแห่งนี้ ถ้าผมและ รมว.มหาดไทย อยู่ในยุคนี้ ก็จะขอมาเรียนที่โรงเรียนและสถาบันนี้ ผมจะได้ไม่ต้องมาเป็นนายกฯอย่างในวันนี้อย่างไรล่ะ ผมจะตั้งใจเรียนให้ดี สอบเข้าให้ได้ จะได้มาเป็นวิศวกร นักวิจัย ซึ่งน่าสนใจและเป็นประโยชน์”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วิสัยทัศน์ของรัฐบาลนี้ คือต้องการสร้างให้ทุกครอบครัวมีความอบอุ่น มีรายได้จากการประกอบอาชีพ ตนจะไม่แก้ไขปัญหาที่ปลายทางเพียงอย่างเดียว ซึ่งการจะทำทุกอย่างต้องมีก้าวแรกเสมอ สิ่งที่พูดในวันนี้เป็นการแสดงวิสัยทัศน์ให้ทุกคนเห็นว่า ตนใช้ได้อยู่หรือไม่ แล้วก็มองดูตัวเองว่า ก็ไม่ได้ฉลาดน้อยไปสักเท่าไหร่ การทำงานก็ไม่ได้แตกต่างไปจากสมัยที่รับราชการ เพียงแต่ต้องดูแลในภาพกว้างขึ้น เพราะประเทศไทยมีคน 70 กว่าล้านคน จะให้ถูกใจทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้
“คนจะรัก คนจะชอบ คนจะชัง ถือเป็นเรื่องธรรมดา บางครั้งผมมีอารมณ์เสียบ้างก็ต้องขอโทษ เราต้องให้ความสำคัญกับการศึกษา โดยไม่มุ่งเน้นการให้เงินเพียงอย่างเดียว เพราะเงินไม่ใช่การตอบสนองทุกอย่าง จึงต้องหาวิธีการที่เหมาะสม เราต้องสร้างให้คนคิดเป็นและคิดถึงประโยชน์ส่วนรวม วันนี้เรามีวาทกรรมว่าจะต้องทำให้คนรวยขึ้น แต่วันนี้เราต้องเลือกผู้นำที่ดี แต่ขอให้รู้ว่ากว่าจะได้ผู้นำที่ดีอย่างไอสไตล์ เจ้าตัวก็เกือบตาย ขอทุกคนอย่าลืมประวัติศาสตร์และความมั่นคงของประเทศชาติ เพราะเหล่านี้ทำให้เราเป็นประเทศไทยในวันนี้ เราคิดใหม่ทำใหม่ได้ แต่ต้องไม่ลืมอดีต” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้สิ่งที่อยากจะฝากไว้คือทำอย่างไรให้คนในชาติเกิดความรัก ความสามัคคีให้ได้ โดยพวกเราทั้งนักเรียน ผู้ปกครอง พ่อแม่ ครอบครัว เพื่อนบ้าน ต้องเข้าใจตรงกันว่า ประเทศชาติ ประกอบด้วยคนหลายแบบ ตนเองเป็นทหารเก่ามา แต่เลยเวลานั้นมาแล้ว ถ้าย้อนกลับไปก็ต้องย้อนไปทั้งหมด วันนี้มีการพูดหลายอย่าง ตนไม่ตอบโต้อะไรทั้งสิ้น เพราะเลยเวลานั้นมาแล้ว วันนี้จะทำอะไร อนาคตจะทำอะไร แล้วใครจะมาทำต่อก็ว่ากันไป ตนไม่ได้ว่าอะไร
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้เรื่องความมั่นคง ขอให้ลืมบทบาทความเป็นทหารของตนไปก่อน เราต้องใช้ทหารเฝ้าชายแดน ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางทะเล ต้องใช้คนเฝ้าตรวจ แต่ถ้าลดคนมากๆเวลาเกิดภัยพิบัติใครจะมาช่วยประชาชน แต่ทหารเรียกได้ 24 ชั่วโมง เป็นการลงทุนที่ไม่มีมูลค่า ไม่ควรพูดคำว่ากำไรหรือขาดทุน เพราะจะทำให้ความมั่นคงอันตราย ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เคยสอนตนมาในสิ่งที่ดีๆ แต่สิ่งที่ไม่ดีตนอาจจะเป็นเอง วันนี้ตนไม่ได้คิดเพื่อตัวเอง คิดเพื่อคนอื่นทั้งหมด ไม่เคยคิดที่จะเป็นวันนี้ แม้กระทั่งผบ. เป็นแม่ทัพ ก็ไม่ได้คิด แต่ก็เป็นการทำงานมาทั้งนั้น
นายกฯ กล่าวว่า เราต้องเรียนรู้กฎหมายพื้นฐานว่าเป็นอย่างไร ทุกคนบอกว่าไม่รู้กฎหมายอ้างนู่นอ้างนี่ไปหมด ทุกคนจะไม่รู้กฎหมายไม่ได้ ซึ่งกฎหมายง่ายๆยังปฏิบัติกันยากเลย เห็นใจคนทำความผิดกันเยอะ คนไทยขี้ใจอ่อน แต่ถ้าเขาดีเราก็โอเคให้อภัย ดำเนินคดีแล้วก็จบ เอากลับสู่สังคม กลไกมีอยู่แล้ว
“วันนี้ผมยิ้ม ไม่ได้ดุ ไม่ได้เสแสร้ง ผมยิ้มแบบนี้ เขาบอกให้ผมเปลี่ยนแปลงตัวเองยิ้มสักหน่อย ยิ้มหวานๆทำหน้าคิกคุสักนิด อยู่ในกองทัพมา 40 กว่าปี ก็หน้าอย่างนี้ เพราะมีการปกครองบังคับบัญชา บางทีไม่ได้ดุไม่ได้โมโหใคร แต่แกล้งทำหน้าอย่างนั้นไป เขาจะได้ไม่เกเร วันนี้บางวันผมก็ใจดี บางวันผมก็เอาซะหน่อย ไม่อย่างนั้นก็เกเรกันไปเรื่อย ธรรมดาสังคมต้องมีคนนำทาง ผมไม่ใช่ผู้วิเศษวิโสอะไร ทุกคนเท่ากันหมด”
จากนั้นนายกฯ ได้ร่วมถ่ายภาพกับผู้บริหาร ครู และเซลฟี่ร่วมกับนักศึกษาอย่างอารมณ์ดี
