การไปปรากฏตัวในท่ามกลางนักเรียน ณ หอประชุมธงชัย ซิวปรี ชา โรงเรียนกำเนิดวิทย์ อ.วังจันทร์ จ.ระยอง เป็นภาพที่น่ารักยิ่ง ไม่ว่าจะมองจากด้านนักเรียน หรือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
จากบทเพลง “ขีดเส้นใต้” ต่อเนื่องไปยังเพลง “ปาฎิหาริย์” จาก เสียงของ กบ ทรงสิทธิ์
ไม่ว่าจะเป็นท่าโยกตัว ไม่ว่าจะเป็นการปรบมือ
ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนของโรงเรียนกำเนิดวิทย์ ล้วนสร้างความรู้สึกเป็นกันเองและสร้างความประทับใจ
หากว่ากิจกรรมนี้มาจากความต้องการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือความต้องการของนักเรียนเอง
มิได้มุ่งเพื่อให้เหมือนกับภาพของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
การไปยังโรงเรียนกำเนิดวิทย์มีอยู่ใน “วาระ” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน การพบกับนักเรียนก็อยู่ในวาระอย่างเด่นชัด
หรือแม้กระทั่งการตระเตรียมให้ กบ ทรงสิทธิ์ เป็นส่วนหนึ่งในการร้องเพลงก็น่าจะเป็น “วาระ”
แต่การที่ปรากฏเป็น “ข่าว” ในลักษณะที่มีการแนะนำต่อทีม งานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ว่า ให้ไปนั่งในท่ามกลางนัก เรียนเพื่อสร้างความเป็นกันเอง
“เชื่อว่าภาพที่ออกมาจะได้ใจคนรุ่นใหม่สู้กับภาพที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่หาเสียงกับคนรุ่นใหม่ได้อย่างแน่นอน”
หลังจากได้รับการแนะนำด้วยความปรารถนาดี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงเดินขึ้นไปนั่งท่ามกลางกลุ่มนักเรียนและขอให้ กบ ทรงสิทธิ์ ร้องเพลง”ขีดเส้นใต้”
แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ร่วมปรบมือและร้องเพลง โยกตัวทำสัญลักษณ์มือ ไอ เลิฟ ยู ให้นักเรียน
จุดต่างอย่างสำคัญระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ นาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อยู่ตรงที่ ฝ่ายหนึ่งเข้าหานักเรียน แต่อีกฝ่าย หนึ่งนักเรียนเข้าหา
ตรงนี้จึงทำให้ฐานที่มาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่เหมือนกัน
เมื่อเป้าหมายและทิศทางแตกต่างกัน ภาพที่ปรากฏจึงแตกต่างกันไปด้วย
ปรอทอันชี้อุณหภูมิความสุข ความอิ่มเอิบ จึงไม่เท่ากัน
