เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ นายธนิศ ชูเพ็ง ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเลือกตั้งเขต 3 พรรคอนาคตใหม่ จ.ตรัง เปิดเผยว่า กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตัวนายยศวัฒน์ ธีรัตม์วัฒนากุล ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 ตรัง พรรคอนาคตใหม่ ตนทราบข่าวล่วงหน้ามา 10 กว่าวันแล้ว และทราบมาว่ามีนักการเมืองจะเล่นการเมืองแบบสกปรกกับนายยศวัฒน์เรื่องคดีความที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งตนได้เรียกนายยศวัฒน์มาคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น นายยศวัฒน์แจ้งว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่นานมาแล้ว ได้เคลียร์กับคู่กรณีเรียบร้อยแล้ว เป็นคดีแพ่ง เพราะเป็นเรื่องระหว่างหุ้นส่วนทางธุรกิจ และทางหุ้นส่วนเองไม่ติดใจเอาความ มีหลักฐานเป็นเช็คเงินสดที่จ่ายให้กับคู่กรณีมายืนยันเรียบร้อย ทั้งนี้ ตนมีข้อสังเกตว่าตอนที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครในวันลงสมัครเลือกตั้ง ยืนยันว่าคุณสมบัติถูกต้องครบถ้วน แต่จู่ๆ มาเอาตัวไปดำเนินคดีที่ จ.ภูเก็ต ทั้งที่ไม่น่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น น่าจะเกิดก่อน หรือหลังการเลือกตั้ง หรือในวันประกาศรับรองผู้สมัครในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
“ขณะเดียวกันหลังจากได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง มีแนวโน้มกระแสการตอบรับของผู้สมัคร ส.ส.อนาคตใหม่ ติด 1 ใน 3 ของเขตที่ 3 การหาเสียง และการตอบรับดีมาก เน้นถึงตัวประชาชนขายนโยบายออกหาเสียงทุกวัน ซึ่งผมไม่แน่ใจว่ากรณีอย่างนี้ จะเป็นการสกัดเรื่องการเมืองหรือไม่ แต่มาถึงวันนี้ พรรคอนาคตใหม่เขต 3 สามารถติดอันดับ 1 ได้ ถ้าพี่น้องประชาชนให้โอกาส ให้ความหวังกับหัวหน้าพรรค ทั้งนี้ กระแสความต้องการเปลี่ยนของเขต 3 แรงมาก จะมองว่าเป็นการเมืองก็ดี แต่ทราบมาว่าเล่นการเมืองกับนายยศวัฒน์ ถึงแม้จะชนะเลือกตั้งก็ไม่ได้เป็น ส.ส.” นายธนิศ กล่าว
นายธนิศกล่าวอีกว่า วันเดียวกันนี้ พรรคอนาคตใหม่ส่งตัวแทนมาประกันตัวผู้สมัครของพรรคที่ศาล จ.ภูเก็ต จากกรณีที่เกิดขึ้น บอกทุกคนเป็นคดีแพ่งที่ยอมความกันได้ ไม่ทำให้ริดรอนเสถียรภาพตัวผู้สมัคร ส.ส.ตนในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ ยืนยันว่าทีมงานยังคงทำงานปกติทุกอย่าง รถหาเสียงทุกคันยังคงแห่เหมือนเดิม สมาชิกพรรคยังช่วยกันทำแผ่นพับหาเสียงเหมือนเดิมทุกวัน ชาวบ้านที่ทราบข่าวก็มีขวัญหายไปบ้าง เพราะโลกโซเซียลไปเร็ว แต่คนที่มองในแง่ดีจะมองว่าเป็นเรื่องทางการเมือง หรืออาจจะหมดสิทธิในการรับสมัคร เช่นเดียวกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ต้องรอลุ้นว่าศาลจะพิจารณาอย่างไร กกต.จะว่าอย่างไร
“ส่วนหนึ่งมองว่าถ้าเป็นการเมือง ไม่น่าเล่นสกปรกแบบนี้ ไม่น่าหยิบยกขึ้นมาเหมือนผู้ใหญ่มาเล่นกับเด็ก ดูแล้วไม่เหมาะสมทางประชาธิปไตยในการหาเสียงเลือกตั้ง อยากวิงวอนว่าถ้าเป็นเรื่องคดีแพ่งอย่าเอามาโยง มองว่าสาหัสสากรรจ์ ไม่น่านำมาขึ้นโรงขึ้นศาล ซึ่งต้องประกันตัวด้วยเงิน 2-3 แสนบาท สั่งลูกทีมอย่าหมดกำลังใจ สู้ต่อไป สู้เพื่อ จ.ตรัง สู้เพื่อการเปลี่ยนแปลง แต่ต้องเคารพดุลพินิจของศาล และ กกต.ว่าจะตัดสิทธิหรือไม่ ถ้าไม่เราจะเดินหน้าต่อ แต่ถ้าตัดสิทธิ เราจะเดินไปตามระบบประชาธิปไตย ผมยังไม่แน่ใจว่า 24 มีนาคมนี้ จะเกิดปัญหาอีกหรือไม่ อย่างไร เพราะการเมืองยังไม่นิ่ง แต่ที่แน่ๆ รู้ว่าที่สู้กันมี 2 ฝ่าย ฝ่ายเผด็จการเพื่อที่จะครองอำนาจต่อ และฝ่ายประชาธิปไตย โดยเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ประชาชนเป็นตัวเลือก” นายธนิศ กล่าว
นายธนิศกล่าวอีกว่า ตนแน่ใจว่าที่ผ่านมา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เป็นผู้ปั่นป่วนทำให้รัฐประหารครั้งนี้เกิดขึ้น ถ้าไม่มีนายสุเทพ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จ.ตรัง ไม่มี ปชป.เหตุการณ์รัฐประหารก็คงไม่เกิดขึ้น ฉะนั้น ขอให้พอซักทีกับการเอามวลชนทั้ง 2 ฝ่าย เข้าไปทะเลาะล้มหายตายจากโดยที่ไม่คำนึงถึงมนุษยธรรม หลายๆ เรื่องญาติผู้เสียชีวิตเสียความรู้สึก ให้เอาวิชาการ ผลงานมาสู้กัน หากนายยศวัฒน์โดนตัดสิทธิ พวกตนจะเดินไปตามระบอบประธิปไตย เรียกร้องให้พี่น้องประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เลือกคนที่เขาเห็นว่าพอจะช่วยเขาได้ และเลือกพรรคใดพรรคหนึ่ง โดยเลือกฝ่ายประชาธิปไตยแน่นอน ไม่เลือกเผด็จการ
