ตามที่หลายฝ่ายเข้ายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ตรวจสอบสถานะการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
โดยต่อมานายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ป.ป.ช.เคยมีมติเมื่อปี 2557 ว่า คสช.เป็นตำแหน่งพิเศษ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ จึงไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน ดังนั้น นายกรัฐมนตรีซึ่งมีตำแหน่งหัวหน้าคสช.อยู่ด้วย จึงมิใช่เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ไม่ขาดคุณสมบัติในการถูกเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีตามบัญชีของพรรคการเมือง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (15)
จากการเปิดเผยของ นายวิษณู ทำให้เป้นที่วิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก ล่าสุด ยังมีอาจารย์คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อ.เข็มทอง ต้นสกุลรุ่งเรือง ได้โพสต์ เฟซบุ๊กส่วนตัว ตั้งค่าสาธารณะ ระบุว่า
“ปัญหาของวิษณุ เครืองาม”
อันที่จริง มีนักกฎหมายหลายคนเข้าไปร่วมงานกับ คสช. แต่ผมพบว่า วิษณุเป็นคนที่มีปัญหาที่สุด
สิ่งที่นักกฎหมายหลายๆท่านทำนั้น จะดีจะร้ายก็ยังพออยู่ในจักรวาลเดียวกับนักนิติศาสตร์ นักกฎหมายทั้งหลายบ้าง ยังใช้ตรรกะเดียวกันในการคุยกัน ยังใช้ตรรกะเดียวกันในการร่างกฎหมาย ในการตีความ ถึงจะต่างมุมมองออกไปแต่ก็ยังอยู่ในขอบเขตที่พอจะคุ้นชิน ยังอยู่ในระบบเดียวกัน
แต่วิษณุเป็นอะไรที่หลุดโลกมากจริงๆ ถ้าเอาสิ่งที่วิษณุให้สัมภาษณ์มาเทียบกัน ผมเข้าใจว่า มันน่าจะไม่มีอะไรสอดคล้องกันเลย ขัดแย้งกันเองในตัวเต็มไปหมด เอาแค่สถานะของ คสช. ก็ลื่นไหลไปตามบริบทที่วิษณุจะต้องตอบในขณะนั้นๆ เอาแต่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่นายตัวเอง
สิ่งที่นักกฎหมายทุกคนเข้าไปทำให้ คสช นั้น สร้างความเสียหายแก่วิชานิติศาสตร์ไม่มากก็น้อย แต่ถ้าตีความกฎหมายแบบที่วิษณุให้สัมภาษณ์อยู่ทุกวันนี้ ก็ไม่ต้องเรียนนิติศาสตร์กัน เสียหายพังพินาศไปหมด
ดูอย่าง อาจารย์บวรศักดิ์ หรือมีชัย จะร้ายจะดี รัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกที่ร่างออกมาก็ยังพอให้ตีความ ถกเถียงกันได้
ผมพบว่าผมไม่สามารถตีความการให้สัมภาษณ์วิษณุได้เลย เพราะมันไม่มีความเป็นกฎหมายอยู่เลย หรือถ้ามี ก็คงเป็นกฎหมายคนละจักรวาลกัน
จะเรียกว่ากฎหมายก็ไม่ถนัดปากนัก แต่จะเรียกอะไรแทน ผมก็ไม่ทราบ
ขอบคุณเฟซบุ๊ก
Khemthong Tonsakulrungruang
