เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 มีนาคม นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้ง ประจำปี 2562 สนามบินนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้จัดขึ้นเพื่อบรรเทาสถานการณ์ภัยแล้งในปี 2562 ซึ่งมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรง ทั้งในด้านการขาดแคลนน้ำของพื้นที่การเกษตร อ่างเก็บน้ำต่างๆ จากข้อมูลภาพรวมสถานการณ์น้ำประเทศไทยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ทั่วทุกภาคของประเทศไทยขณะนี้มีปริมาณน้ำน้อย ถึงปกติ มีอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่า 30% ของปริมาณน้ำใช้ หลายอ่างทั่วประเทศ ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำให้เตรียมความพร้อมและวางแผนสำหรับการดูแลพื้นที่การเกษตรและประชาชนให้ทั่วถึง พร้อมทั้งการบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองในอากาศซึ่งเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญตามนโยบายรัฐบาล ที่กำชับให้ทุกหน่วยงานมุ่งดำเนินงานเชิงรุกในการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรและประชาชน
ด้านนายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตรเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้แก่เกษตรกรและผู้ใช้น้ำทั่วประเทศรวมถึงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้กับ ระบบบริหารจัดการน้ำของประเทศโดยน้อมนำศาสตร์พระราชาตำราฝนหลวงพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระบิดาแห่งฝนหลวงเป็นแนวทางในการดำเนินงานแก้ไขปัญหากับพี่น้องประชาชน สำหรับในปี 2562 มีแผนปฏิบัติการประจำปีตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมถึง 31 ตุลาคม 2562 ซึ่งได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงประจำ 5 ภูมิภาค ดำเนินการจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 12 หน่วยปฏิบัติการ เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือให้ครอบคลุม 25 ลุ่มน้ำหลักในพื้นที่ 77 จังหวัด ทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม ได้เกิดเหตุระทึกขวัญขึ้นขณะคณะของนายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเดินทางมาโดยเครื่องบิน CN 235 หมายเลข 2221 ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร นำคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตร และสื่อมวลชน จำนวน 26 คน เพื่อมาเปิดงานปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้งประจำปี 2562 ณ สนามบินจังหวัดนครสวรรค์ โดยออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร ดอนเมือง ตั้งแต่ช่วงเวลา 08.00 น.
ขณะนักบินจะนำเครื่องลงจอดเจ้าหน้าที่หอบังคับการบินแจ้งว่าเครื่องบินรัฐมนตรีมีปัญหาเกิดระบบไฟฟ้าขัดข้อง สร้างความปั่นป่วนทันที และนักบินพยายามบินต่ำวนอยู่ 3 รอบ เพื่อส่งส่งสัญญาณให้หอบังคับการบินทราบว่าเครื่องกำลังมีปัญหา และติดต่อหอบังคับการบินทางโทรศัพท์ตลอดเวลา สร้างความแตกตื่นให้กับจ้าหน้าที่ด้านล่าง เตรียมรอรับต้องประสานรถพยาบาล รถดับเพลิง เตรียมความพร้อมเต็มที่
ในที่สุดนักบินก็ตัดสินใจประสานภาคพื้นให้ส่องกล้องดูว่าล้อเครื่องบินกางหรือไม่ ก่อนที่จะลงจอดอย่างปลอดภัย แม้ว่าล้อเครื่องบินจะระเบิด จนมีควันพวยพุ่ง กลิ่นเหม็นไหม้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องบินลำดังกล่าวไปจอดในโรงซ่อมเพื่อตรวจสอบละเอียด
ด้านนายกฤษฎากล่าวว่า การเดินทางครั้งนี้เพื่อมาปฏิบัติการตามโครงการฝนหลวง ซึ่งเป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากพระราชดำริส่วนพระองค์ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เพื่อสร้างฝนเทียมสำหรับบรรเทาปัญหาความแห้งแล้งขาดแคลนน้ำ จึงเชื่อเพราะพระบารมีของพระองค์ท่าน จึงส่งผลให้ทุกคนปลอดภัย เพราะสามารถปล่อยทีมปฏิบัติการฝนหลวงได้สำเร็จ และวันนี้ปล่อยไป 11 ชุด หากเดือนเมษายนนี้ แล้งหนักขึ้น จะเพิ่มเป็น 20 ชุด เพื่อปฏิบัติการฝนหลวง จากนั้นคณะได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงตามกำหนดการเดิม และเดินทางไปตรวจราชการที่อำเภอลาดยาวจังหวัดนครสวรรค์ต่อทันที
ด้านนายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรก็กำลังใจเข้มแข็งดี และบอกว่าเข้าใจในเหตุการณ์ครั้งนี้ เชื่อว่าพระบารมีของในหลวงรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 จะคุ้มครองเจ้าหน้าที่ฝนหลวงทุกท่านให้ปลอดภัย แม้ว่าจะเกิดอุบัติเหตุยางเครื่องบินแตกก็ตาม
ด้าน ร.ท.บัญชา พารี หัวหน้าบินกรมฝนหลวง เปิดเผยว่า ระบบไฟฟ้าล้มเหลวทั้งระบบทำให้เครื่องวัดระบบทุกส่วน เช่น ความเร็ว ความสูง กำลังเครื่องยนต์ ระบบไฮโดรลิค ระบบเพิ่มแรงยก ไม่สามารถทำงานได้เลย นักบินทราบว่าระบบล้มเหลวจากระบบการสื่อสารไม่ทำงาน จอมอนิเตอร์ ท่าทางทิศทาง ความเร็ว ความสูงดับหมด
“นักบินจึงต้องทำตามขั้นตอนการบินฉุกเฉิน คือการต่ำและแจ้งหอบังคับการบินทราบ เพื่อช่วยตรวจสอบระบบการกางล้อให้ด้วย เพราะว่านักบินบินด้วยระบบแมนนวล ไม่รู้หรือวัดอะไรได้เลย นักบินจึงบินวนรอบแรกเพื่อให้หอบังคับการบินทราบ และกางล้อให้หอบังคับการบินส่องกล้องดูและยืนยันกลับไปว่าล้อกางแน่นอนหรือไม่“ ร.ท.บัญชากล่าว และว่า ส่วนการบินรอบที่ 3 เมื่อกางล้อเรียบร้อยแล้วหอบังคับการบินยืนยัน ก็พยายามนำเครื่องลงแต่ก็เกิดปัญหาขณะบินลง เพราะเครื่องวัดความเร็ว เครื่องวัดกำลังเครื่องยนต์สูญเสียอีก ไม่ทราบเลยว่ากำลังเครื่องยนต์เร็วเท่าไร ระยะความสูง ความเร็ว ไม่รู้เลย เกิดความเสี่ยงมาก เพราะต้องใช้ประสบการณ์ความชำนาญบิน ในที่สุดก็ตัดสินใจลงจอดแต่เกิดปัญหาอีก เพราะว่าระบบเบรกไม่ทำงานเลยเนื่องด้วยระบบกลไกไม่ทำงาน ไม่สามารถเบรกหยุดเครื่องบินได้ เมื่อล้อเตะพื้นระบบไฟฟ้าไม่ทำงาน ทำให้ระบบเบรกเอบีเอสไม่ทำงานเต็มรูปแบบ ทำให้การพยายามจะหยุดเครื่องเกิดล้อล็อกทันทีและส่งผลให้เกิดยางแตก แต่ก็เกิดข้อดีเพราะว่าเมื่อยางแตกทำให้เกิดแรงหน่วงเครื่องยนต์บินจึงหยุดจอดได้ปลอดภัย
นักบินกล่าวต่อด้วยว่า ขณะนี้ได้ตรวจสอบระบบเครื่องภายนอกไม่เกิดความเสียหาย แต่จะต้องตรวจสอบระบบไฟฟ้าว่าสาเหตุใดที่ทำไห้ระบบไฟฟ้าที่เลี้ยงและปั่นไม่เชื่อมต่อระบบภายในเครื่องบิน จะต้องสอบสวนขั้นตอนทางนิรภัยเพื่อรายงานผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป
นอกจากนี้ทางกรมฝนหลวงได้จัดเครื่องบินแบบคาซ่าจำนวน 2 ลำ ของกระทรวงเกษตรฯ พาคณะรัฐมนตรีว่าการฯเดินทางกลับ กทม.ในช่วงบ่ายหลังตรวจราชการเสร็จสิ้นต่อไป
