สถานีคิดเลขที่ 12 : ถามป๊อป

แน่นอน
หลัง ป๊อป ปองกูล นักร้องดัง สารภาพเรื่อง “คบซ้อน”
เจอปฏิกิริยาด้านลบถล่มใส่อย่างหนัก ซึ่งคงใช้เวลาอีกตามสมควร จึงจะยืนหยัดขึ้นได้อีกครั้ง
แต่สิ่งที่ “โล่ง’ ดังยกภูเขาออกจากอก สำหรับป๊อป ปองกูล ในทันที
คือไม่ต้อง “สร้างเรื่อง” เพื่อโกหกใครอีกแล้ว
ป๊อปยกตัวอย่างดี โดยบอกว่าตอนที่ “คบซ้อน”
เขาเจอทางเลี้ยวอยู่เรื่อยๆ
“..เวลาเจอทางเลี้ยว ก็เลี้ยวผิดทุกครั้ง เคยคิดว่าจะถอยกลับ แต่ผมก็ขี้ขลาด ถอยหลังกลับไปได้เสียที เลี้ยวผิดซ้ำๆ จนผมหลงทาง ผมทำให้เรื่องใหญ่จนไม่สามารถหยุดได้…”

ใช่เลย เวลาเราเริ่มต้นโกหก เราก็ต้องโกหกไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ความจริงปรากฏ
ถือเป็นความทุกข์ทรมานอย่างยิ่ง
เชื่อว่าหลายคนมีและผ่านประสบการณ์แบบนี้มาแล้ว
มองเข้าไปสนามการเมือง
แน่นอน คงมีคนที่มีชะตากรรมเดียวกันกับป๊อปไม่น้อย
อาจไม่ใช่เรื่องโกหก แต่เป็นเรื่อง “จำเป็น” ที่ต้องจับปลามือเดียวหลายตัว ด้วยเชื่อว่านั่นจะเป็นประโยชน์ทางการเมืองต่อตนมากที่สุด
แต่มันก็ผิดธรรมชาติ เพราะคนคนเดียวจะสวมหมวกทีเดียว 3 ใบไม่ได้

ไม่ต้องอ้อมค้อมก็กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังคงนั่งตำแหน่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ นั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
และนั่งในตำแหน่งผู้ถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ
แม้จะอ้างว่ารัฐธรรมนูญไม่ได้ห้ามไว้
แต่ภายใต้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เหมือนจะมีความสุขมากมาย เวลาออกไปเยี่ยมเยียนราษฎรไม่เว้นแต่ละวัน
ซึ่งแน่นอน “ความถี่ยิบของการเยี่ยมเยียน” มันไม่ปกติ
แต่ก็ต้องคอยอธิบายอยู่ทุกวันเหมือนกันว่า เป็นการทำหน้าที่ตามปกติ ไม่ใช่หาเสียงช่วยใครไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

เราไม่รู้ว่า “ในใจของ พล.อ.ประยุทธ์” คิดอะไรอยู่
ถ้าเชื่อตามสิ่งที่พูดออกมาก็คงไม่เป็นไร
แต่ถ้าไม่เชื่อ–ก็คงทุกข์ไม่เบากับการต้องหาเรื่องมาอธิบายคนที่มาซักไซร้ โดยเฉพาะผู้สื่อข่าวในตอนหลัง ที่เจอนายกรัฐมนตรีบ่นว่า ทำไมคำถามตอนหลังถึงโหดร้ายนัก
จริงๆ ก็คงไม่ได้ทาพริก ทาเกลือเพิ่ม แต่คำถามอันอาจไปสะเทือนอะไรในใจหรือเปล่า
อันนี้ไม่ทราบ

Advertisement

ขณะเดียวกัน การยืนกรานว่า หมวกที่สวมอยู่ 3 ใบ ไม่มีปัญหา โดยเฉพาะสถานะความเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ซึ่ง 2 ตำแหน่งคือ นายกฯและผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ อาจไม่มีปัญหา เพราะมีข้ออ้างไปได้
แต่ตำแหน่งหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาตินี่สิ
มันล่อแหลม เพราะมีผู้ร้องเรียนให้ กกต.สอบแล้ว
แม้จะมีเนติบริกรมาให้คำอธิบายว่าไม่ใช่ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐ
และคงมีปาฏิหาริย์อีกมากมายมาช่วย
แต่ในใจก็คงไม่เป็นสุขเท่าไหร่
เพราะล่าสุด เฟซบุ๊กส่วนตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีคนตาดีไปเห็นว่า ได้ระบุใน “สถานะ” ว่าเป็น “เจ้าหน้าที่รัฐ”
ได้มีการเปลี่ยนแปลงสถานะเป็น “บุคคลสาธารณะ” เรียบร้อย

หากไปถามว่าทำไมถึงเปลี่ยน
คำตอบก็คงออกมาว่า “กรอกผิด”
ฟังขึ้นหรือไม่ไม่รู้ แต่คิดถึงกรณีที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กรอกประวัติผิด ที่แม้จะอธิบายเหมือนกัน
แต่ก็มีคนพยายามเอาเป็นเอาตายถึงขั้นจะยุบพรรค
ซึ่งก็คงต่างจากกรณีนี้ ที่เชื่อว่าคงจะมีคนมาช่วยทำให้จบเร็วที่สุดและทำหน้าตายว่าไม่มีอะไร
แต่ในใจคิดอย่างไร
คงต้องไปถาม “ป๊อป คนคบซ้อน”

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image