“ชูศักดิ์” ชี้การแต่งตั้ง ส.ว.อาจไม่ชอบด้วยรธน. เนื่องจากจะต้องเปิดเผยกรรมการสรรหา และสมาชิกคสช. หรือ ครม. จะเป็นกรรมการไม่ได้ เพราะไม่เป็นกลางทางการเมือง
เมื่อวันที่ 3 มีนาคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า จากการเปิดเผยว่า คสช.แต่งตั้งให้พล.อ.ประวิตร รองนายกและรองหัวหน้าคสช.เป็นประธานกรรมการสรรหาวุฒิสมาชิกเพื่อคัดเลือกบุคคลให้ได้ไม่เกินสี่ร้อยคนแล้วให้คสช.เลือกให้เหลือ 194 คนนั้น โดยขณะนี้ไม่ทราบว่ากรรมการสรรหาเป็นใครบ้าง รองนายกฝ่ายกฎหมายบอกเปิดเผยไม่ได้ กลัวจะมีการวิ่งเต้น ตนเห็นว่าการสรรหาแบบนี้ดูไม่ชอบมาพากล ไม่เปิดเผยปิดลับ หมิ่นเหม่ว่าจะขัดรัฐธรรมนูญ และอาจเป็นเหตุให้มีการฟ้องร้องต่อศาลให้เป็นโมฆะได้
ตามรัฐธรรมนูญม.269(1) บอกให้คสช.แต่งตั้งกรรมการสรรหาวุฒิสมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่าเก้าคนไม่เกิน 12 คน โดยกรรมการสรรหาจะต้องตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์ด้านต่างๆและมีความเป็นกลางทางการเมือง ตนจึงสงสัยที่ไม่ยอมเปิดเผยกรรมการสรรหาโดยอ้างว่าไม่ต้องการให้มีการวิ่งเต้นนั้น แท้จริงแล้วน่าจะมีปัญหาว่าการแต่งตั้งกรรมการสรรหานั้น มีการแต่งตั้งจากบุคคลที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิมีความเป็นกลางทางการเมืองหรือไม่เสียมากกว่าหรือไม่ ใช้วิชาเบี่ยงเบน แบบที่เนติบริกรชอบใช้หรือไม่
นายชูศักดิ์ กล่าวอีกว่า เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญดูจะชัดเจนว่าให้ตั้งคนอื่น ไม่ใช่มาตั้งคสช.ด้วยกันเอง ชัดเจนมากคือการตั้งรองนายกเเละมีตำแหน่งเป็นรองกรรมการคสช.เป็นประธานกรรมการสรรหา และอาจมีกรรมการคสช.อื่นๆอีก มีคำถามว่าเมื่อหัวหน้าคสช.เป็นแคนดิเดตของพรรคการเมืองไปเสียแล้วท่านจะบอกได้อย่างไรว่าท่านมีความเป็นกลางทางการเมือง ไม่นับว่าท่านเป็นผู้ทรงคุณวุฒิหรือไม่ ไม่นับพฤติกรรมในอดีตจนถึงปัจจุบันที่คสช.กลายมาเป็นผู้เล่นมิใช่กรรมการ เป็นที่ทราบกันดีว่าวุฒิสภา 250 คนตามบทเฉพาะกาลเป็นคณะบุคคลที่จะมาเลือกนายกรัฐมนตรีร่วมกับสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเข้าใจกันได้ว่าต้องการจะสืบทอดอำนาจการแต่งตั้งวุฒิสมาชิกจึงชัดเจนว่าถ้าทำกันแบบนี้ก็คือการตอบสนองต่อการสืบทอดอำนาจ ทำกันแบบงุบงิบ เป็นลับๆทั้งๆที่เขาไม่ได้บอกให้ลับและควรจะเปิดเผยโปร่งใสที่สุด เรื่องนึ้จึงหน้าติดตามและพรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้เปิดเผยรายชือกรรมการสรรหาให้ประชาชนทราบโดยเร็ว
