เมื่อวันที่ 6 มีนาคม คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา แกนนำพรรคเพื่อไทย นายวิชัย สามิตร นายพิษณุ หัตถสงเคราะห์ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และนายสยาม หัตถสงเคราะห์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 หมายเลข 5 นายไชยา พรหมา ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 หมายเลข 9 นายณัฐวุฒิ กองจันทร์ดี ส.ส.เขต 3 หมายเลข 4 ลงพื้นที่บ้านป่าแดงงาม ต.กุดแห่ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู เยี่ยมชมฟาร์มน้องต้น ของนายต้นตระกาน สุวรรณศรี ซึ่งเป็น เกษตรกรตัวอย่างที่ใช้เทคโนโลยีทางการเกษตร ทดแทนการใช้สารเคมีในการทำไร่อ้อย ซึ่งปัญหาหนึ่งของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภูที่ผ่านมาได้มีการใช้สารเคมีในการกำจัดวัชพืชกันเป็นส่วนมาก และใช้ในปริมาณที่สูง แต่เกษตรกรรายดังกล่าวได้ใช้เครื่องจักรกลในการทำการเกษตรแบบใหม่ซึ่งไม่ต้องใช้สารเคมี
จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์ พร้อมคณะได้ทดลองขึ้นรถไถซึ่งเป็นรถพรวนดินในไร่อ้อยของฟาร์มดังกล่าว และได้พูดคุยกับชาวบ้านขอให้เลิกใช้สารเคมีในการทำการเกษตร โดยใช้เครื่องมือทดแทนเพื่อจะไม่ได้รับผลกระทบจากสารเคมี อันจะส่งผลร้ายต่อชีวิตและร่างกาย ซึ่งการมาครั้งนี้ในการติดตามปัญหาสารเคมี เป็นการมาครั้งที่สอง หลังจากเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมาก็ได้มาพบกับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบไปแล้วครั้งหนึ่่ง
คุณหญิงสุดารัตน์ได้กล่าวกับชาวบ้านว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้มาเพื่อพบและสอบถามปัญหาของชาวบ้านที่ปลูกอ้อย แม้ว่าก่อนหน้านี้จะได้มาในพื้นที่นี้แล้วแต่ไม่ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกันมาก วันนี้ได้มาเห็นพื้นที่ปลูกอ้อยและเห็นวิธีการใช้เทคโนโลยีมาทดแทนการใช้สารเคมี โดยเฉพาะสารพาราควอต จึงอยากให้ชาวบ้านที่ทำไร่อ้อยได้นำเอาวิธีการทำไร่อ้อยใช้แทนการซื้อยาฆ่าหญ้า เพราะผลกระทบของสารเคมีทำให้ชาวบ้านเป็นทุกข์ ขณะเดียวกันก็ไม่คุ้มค่าเพราะขายแล้วขาดทุน แต่ทุกข์ใหญ่ที่ชาวบ้านพบเจอคือต้องเสียสุขภาพจากการใช้ยาฆ่าหญ้า หลายคนติดเชื้อในกระแสเลือด ต้องตัดขาทิ้ง ทำให้เป็นคนพิการ ยิ่งทำยิ่งจนและยิ่งเจ๊ง จากประเด็นสารเคมีตกค้างในพืชผลทางการเกษตรและแหล่งน้ำ ซึ่งเป็นปัญหาของจังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งเป็นจังหวัดที่ประชากรมีรายได้ต่ำที่สุดในประเทศ คุณภาพชีวิตของเกษตรกรตกต่ำและย่ำแย่ ประเด็นสำคัญมาจากความยากจน หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลต้องแก้ไขปัญหาสินค้าทางการเกษตรให้ได้ภายใน 6 เดือน และจะเอาหนองบัวลำภูเป็นต้นแบบ “หนองบัวลำภูโมเดล” ในการแก้ไขสารเคมีตกค้างในระดับประเทศต่อไป
“การมาของพรรคเพื่อไทยในวันนี้ มีแนวคิดและนโยบายส่งเสริมให้ชาวสวนไม่ใช้ยาพิษ แต่จะให้เกษตรกรรวมกลุ่มจัดเครื่องมือพรวนดิน ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะสนับสนุนให้เงินกู้เพื่อไปซื้อเครื่องมือทดแทนการใช้สารเคมีพาราควอต และหากพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งจะทำให้ราคาอ้อยมีราคาไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทต่อตัน เพื่อให้ประชาชนไม่ต้องมาเสี่ยงตายจากสารเคมี และยืนยันจะไม่ให้ราคาอ้อยต่ำกว่า 1,000 บาทต่อตัน”
จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์ได้เดินทางไปพบกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการใช้สารเคมี และพระภิกษุสงฆ์ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาจากการใช้สารเคมีของเกษตรกรที่ฉีดพ่นในไร่อ้อยแล้วออกบิณฑบาตไม่ใส่รองเท้า และได้รับผลกระทบจากสารเคมีในไร่นาและหนองน้ำ จนต้องตัดอวัยวะเท้าและขาทิ้ง ซึ่งได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันระหว่างเกษตรกร พระภิกษุสงฆ์ และผู้ได้รับผลกระทบ 63 คน จากพื้นที่อำเภอนากลาง อำเภอนาวัง และสุวรรณคูหา มาให้ข้อมูลผลกระทบที่เกิดขึ้นกับตัวเองและครอบครัว และพรรคเพื่อไทยได้พยายามในการแก้ปัญหาในเรื่องนี้
“อยากขอฝากให้ชาวหนองบัวลำภูเลือกพรรคเพื่อไทยทั้ง 3 เขต เพื่อที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับชาวหนองบัวลำภู ซึ่งวันนี้ต้องแก้อย่างเร่งด่วน โดยใช้หนองบัวลำภูโมเดล ต้องพลิกหน้าดินผ่านกองทุนปรับเปลี่ยนหน้าดินเพื่อไม่ให้เกษตรกรไม่ใช้สารเคมี โดยจะให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางผลิตพืชผลการเกษตรเพื่อทำอาหารสุขภาพเพื่อป้อนคนทั้งโลก ตลาดอาหารสุขภาพใน 4 ปีข้างหน้าต้องอยู่ที่ประเทศไทย โดยจะหารายได้ 1.4 ล้านล้านบาทเข้าประเทศ พร้อมทั้งนโยบายของการปรับเปลี่ยนให้สินค้าเกษตรเป็นอาหารสุขภาพ และลดผู้ป่วยมะเร็ง ยกระดับสินค้าเกษตรให้ผลิตน้อยแต่มีรายได้สูง”
