หมายเหตุ – สมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของพรรคพลังประชารัฐ
(พปชร.) ประเมินสถานการณ์ 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562
สถานการณ์ 2 สัปดาห์สุดท้าย ผมเข้าใจว่าพรรค พปชร.น่าจะต้องมีแม่เหล็กที่ทำให้ประชาชนตัดสินใจเด็ดขาดว่าเสียงที่ลอยๆ อยู่ ตัดสินใจเลือกพรรค พปชร. แม่เหล็กตัวนี้จะเป็นใคร อย่างไร หรือ จะมีสมาชิกใหม่ๆ เข้ามาอีก แต่วันนี้ในขณะที่พรรคยังไม่มีแม่เหล็กเสียงก็ต้านพรรคการเมืองเก่าที่ใช้วาทกรรมหรือวิวาทะต่างๆ พรรค พปชร.อาจโชคดีที่การเลือกตั้งใช้เวลาที่ยาวนาน พรรคอื่นจึงใช้ของที่สต๊อกไว้ออกมาใช้ก่อนเวลา เช่น พรรคเทพพรรคมาร ฝ่ายประชาธิปไตยและเผด็จการ ใช้ก่อนเวลาที่เขาควรจะใช้ เมื่อประชาชนฟังบ่อยเลยจืด เกิดความเคยชินจะเอามาใช้ช่วงใกล้ลงคะแนนไม่ได้ ประกอบกับระยะเวลาที่ยาวนานก่อนเลือกตั้งทำให้ประชาชนเข้าใจนโยบายพรรค พปชร.ชัดเจน
พรรค พปชร.ได้ใช้ของที่รัฐบาลทำมา มาปรับแต่งต่อยอด มีข้อมูลตัวเลข ทำให้พรรค พปชร.ตัดสินใจไม่ยากกับการเสนอนโยบาย อธิบายให้พี่น้องประชาชนเข้าใจได้ง่าย ดังนั้น หากเราจะทำเศรษฐกิจให้ดีแต่ไม่ทำพื้นฐานให้แข็งแกร่งเช่นราคาข้าว บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พักชำระหนี้ หรือเอกสารสิทธิสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เมื่อพื้นฐานทำให้เต็มที่เมื่อเศรษฐกิจโลกดีก็จะหนุนให้เดินไปได้ถึงสองเท่า
⦁มีไม้เด็ดหรือไม้ตายก่อนวันเลือกตั้งอย่างไร
ยังมี พรรคการเมืองเก่าต้องหันมาลอกนโยบายพรรค พปชร.แน่ เช่น ข้าว บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้ 500 บาท พรรคที่ลอกอาจจะให้ 800 บาท เกทับ อย่างราคาข้าว พรรค พปชร.มีค่าเกี่ยวข้าวให้ 2,000 บาทต่อไร่ เฉลี่ยแล้วคือกิโลกรัมละ 3.33 บาท ถ้าเป็นภาคอีสาน ทำนาได้ 40 ถังต่อไร่ ให้ค่าเกี่ยว 2,000 บาท หารเท่ากับกิโลกรัมละ 5 บาท ดังนั้น พรรณนาโวหาร เจอคณิตศาสตร์ตัวจริงมันสู้ไม่ได้ แต่ผู้สมัคร ส.ส.พรรค พปชร.ต้องเดินอธิบายความให้ประชาชนได้ฟังจนเข้าใจ สิ่งที่รัฐบาลทำเขาเชื่ออยู่แล้วว่าทำได้ เพราะรัฐบาลมีเงินหาเงินได้เยอะถ้ารัฐบาลจนจะหาเงินมาช่วยค่าเกี่ยวข้าว 18,000 บาทได้อย่างไร ตัวเลขชี้แล้วว่า สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กู้เงินน้อย แม้แต่งบประมาณกระทรวงกลาโหมรัฐบาลนี้ก็ไม่ได้มีงบมากกว่ารัฐบาลสมัยอื่น ผมไม่ได้เป็นโฆษกกระทรวงกลาโหม แต่ผมพูดเพื่อความเป็นธรรม เพื่อความสบายใจของผู้ที่จะมาสนับสนุน
⦁ปรับแผนหาเสียงอย่างไรเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ขึ้นเวทีปราศรัย
พล.อ.ประยุทธ์ไม่ออกมาหาเสียง พรรค พปชร.ก็พอเลี้ยงตัวเองได้อยู่แล้ว แต่ถ้าออกมาก็ยิ่งดีใหญ่เพื่อความมั่นคงในจำนวน ส.ส.ที่จะได้ แต่ก็ขึ้นอยู่ระเบียบกฎเกณฑ์กฎหมาย แต่เชื่อว่าสิ่งใดที่ พล.อ.ประยุทธ์ทำได้ท่านจะทำ
คนกินเหล้า กับคนเฝ้าเรือ คนเฝ้าเรือก็หงุดหงิดตายว่าเมื่อไรจะได้ออกไปกินเหล้ากับเขาบ้าง ให้นอนเฝ้าเรืออย่างเดียว ดังนั้น ถ้านายกฯออกไปได้ท่านออกแน่ แต่ก็ขึ้นอยู่กับระเบียบ ถ้าออกมาทำความเข้าใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ประชาชนตบมือเมื่อพระเอกขี่ม้าขาวออกมา ดังนั้น วันนี้ผมมองว่า หากเป็นมวยวันนี้ยก 3 แล้ว วันที่ พล.อ.ประยุทธ์เข้ามาคือยกที่ 1 เพื่อทำให้เกิดความสงบ นักกีฬาสีทำให้วุ่นวาย ยกที่ 2 ปรับ ครม.เอาทหารออก เอาสมคิดและทีมงานเข้า ยกที่ 3 ยังไม่ถึงชนบทจึงนำทีมงานออกเยี่ยมประชาชนตั้งช่วงปี 60 ผมก็พบพล.อ.ประยุทธ์ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 60 ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ยังไม่เจออีกเลย แต่รู้ว่าแนวทางช่วยภาคเกษตร นโยบายต่างๆ ขยับขยายเดินหน้า
⦁ประเมินพรรค พปชร.จะได้กี่ที่นั่งในการเลือกตั้ง 24 มีนาคม
เดิมทีผมเห็นผู้บริหารหลายท่านพูดว่าได้ 150 ส.ส. แต่ล่าสุดที่ผมได้สัมผัส ตัวเลขและดูจากการสำรวจ พรรค พปชร.ที่มีโอกาสได้เป็น ส.ส. ลำดับที่ 1-2-3 เกาะกลุ่มเบียดๆ รวมทั้งหมด 200 กว่าคน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะได้หมดทั้ง 200 กว่าคน เพราะพรรคอื่นก็เบียดๆ กันอยู่ แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง คือ 1.ตัวผู้สมัคร ท้อถอย มีญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงเยอะไหม ต้องทำงานอย่างเต็มที่ 2.นโยบายที่มีอยู่ดีกว่าทุกพรรค เข้าถึงทำความเข้าใจให้ประชาชนมากน้อยแค่ไหน มีนโยบายใหม่ช่วยเรียกคะแนนโค้งสุดท้าย มีความน่าประทับใจแค่ไหน 3.พรรคคู่แข่งมีกำลังสนับสนุนแค่ไหน ถ้าเขามีเราไม่มีอาจเหลือ ส.ส.100 ที่นั่ง หรือถ้ามีเหมือนกันก็ได้ถึง 150 ที่นั่ง และถ้า พล.อ.ประยุทธ์มีโอกาสพูดคุยถึงเส้นทางการเมืองก็มีโอกาสได้เยอะขึ้น อาจจะมากกว่า 200 ที่นั่ง แลนด์สไลด์
แต่ ส.ส.ก็ไม่ทุกคนที่ได้ทำตามแบบปัจจัยที่ผมพูด หาก ส.ส.เก่าคิดว่าตัวเองแน่ก็ไม่ทำ ไม่พยายามขายความจริงขี้เกียจคิดว่าตัวเองแน่ แบบนั้นสอบตก แต่คนใหม่ๆ ที่เข้ามาตามเป็นอันดับ 3 แต่ได้รับการสนับสนุนไหม ถ้าไม่ได้ก็คงไล่ไม่ทัน แต่ก็ยังไม่มีอะไรที่แน่นอน”
⦁ที่ประเมินมีโอกาสอาจได้ถึง 200 ที่นั่งพอเจาะเป็นรายภาคได้อย่างไร
ภาคเหนือเดิมว่าได้เยอะ แต่จากการประเมินอาจไม่เท่าเดิม ภาคอีสานเดิมไม่ค่อยดีแต่วันนี้มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคอีสาน ที่เก่งทุ่มเทเต็มคะแนนก็ขึ้นมา แต่ยังเหลือเวลาอีก 2 สัปดาห์ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ออกมาพูดคุยกับประชาชนได้กระแสที่ขึ้นๆ ลงๆ จะนิ่ง และจะขึ้นอย่างเดียว
⦁หากจบการเลือกตั้งพรรค พปชร.ไม่ได้ตามเป้าที่หวังจะทำอย่างไร มีแผนสำรองหรือไม่
ผมมั่นใจว่านโยบายพรรค พปชร.ดีมาก อย่างน้อยน่าจะยังจัดตั้งรัฐบาลได้ และเป็นแกนนำอยู่ แต่จะได้ที่ 1 หรือไม่ยังตอบไม่ได้ อยู่ที่ปัจจัยต่างๆ แต่ถามว่ามีโอกาสเป็นที่ 1 ได้หรือไม่ตอบเลยว่าได้
⦁มีสถานการณ์หรือพรรคใดที่เป็นตัวแปรบ้าง
ตัวแปรคือความเข้าใจที่พี่น้องประชาชนเข้าใจในนโยบายถ่องแท้หรือไม่ ผู้สมัคร ส.ส.ขยันเข้าพื้นที่หรือไม่ หากชี้แจงให้เกิดความเข้าใจได้ ยิ่งนโยบายต่อเนื่องจากรัฐบาลที่ทำได้เพียงแต่เติมให้มากขึ้นเท่านั้น
⦁หากพรรค พปชร.ไม่ได้เป็นแกนนำพรรคที่จะเข้ามาร่วมจะดัน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯหรือไม่
พรรค พปชร.จะดัน พล.อ.ประยุทธ์เต็มที่แต่พรรคอื่นจะช่วยหรือไม่ ไม่ทราบ พรรคอื่นอาจจะช่วยหรือไม่ช่วยขึ้นอยู่ในอนาคต แต่ก็น่าเป็นห่วงหากพรรค พปชร.ไม่ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งคงขึ้นอยู่กับปัจจัยข้างต้น คือ ความสามารถของผู้สมัคร เพื่อนฝูงญาติพี่น้อง นโยบายบายผลงาน และการสนับสนุนของพรรค แต่วันนี้จะทำอย่างไรไม่ให้พรรคอื่นก๊อบปี้นโยบายพรรค พปชร. เช่นเรื่องข้าวพรรคคู่แข่งหมดทางเดินหมดประตูสู้ เขาจึงมาก๊อบปี้และไม่มีข้อพิสูจน์เพราะเป็นวาทกรรมลอยๆ พี่น้องอาจจะเชื่อ เพราะนำนิยายเก่ามาเล่าให้ฟัง
⦁วิเคราะห์การเมืองหลังวันที่ 24 มีนาคม
หลังวันที่ 24 มีนาคม พรรคการเมืองจะเริ่มปรับกระบวนการแนวคิด พล.อ.ประยุทธ์ มีโอกาสเป็นนายกฯ พรรคเล็กพรรคน้อยจะต่อสายมาพูดคุยว่าพร้อมสนับสนุน เพราะไม่สามารถเสนอนายกฯหรือจัดตั้งรัฐบาลได้เขาก็จะมาร่วม พรรคไหนไม่ซ้ายสุดขวาสุดคงจะเริ่มคุยกันเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ ไม่มีรัฐบาลไหนตั้งรัฐบาลด้วยเสียงข้างน้อย มีครั้งเดียวคือสมัย ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช
วันที่ 24 มีนาคม เป็นวันเลือกตั้ง ขอให้ประชาชนได้ศึกษาเข้าใจนโยบายแต่ละพรรคการเมือง ผมมั่นใจว่านโยบายพรรค พปชร.ดีที่สุด สามารถปฏิบัติได้ อยากให้เข้าใจ พล.อ.ประยุทธ์ โดยให้นึกถึงวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ที่ พล.อ.ประยุทธ์เข้ามาแก้ปัญหาคนเสื้อเหลืองคนเสื้อแดงเพราะอะไร แล้วประชาชนจะมีความสุขตัดสินใจได้การเลือกตั้งจะเลือกพรรคใด สำหรับบิ๊กเซอร์ไพรส์ก่อนวันที่ 24 มีนาคม อย่างที่บอก อีกคนกินเหล้าอีกคนเฝ้าเรือ ผมเหมือนทหารราบ แต่คนที่เฝ้าเรือวันนี้ก็อยากออกไปกินเหล้าเหมือนกัน ออกไปทำงานดูจากปริมาณผู้สมัครยังปริ่มๆ กันอยู่ ดังนั้น บิ๊กเซอร์ไพรส์อาจมีบิ๊กๆ ลาออกจากรัฐบาลช่วยกันอีก
นัฐวัฒน์ ดวงแก้ว