‘พิชัย’ เข้าพบอัยการพรุ่งนี้ตามนัด พร้อมจี้ บก.ปอท. อย่าตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และสมาชิกกลุ่มก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า วันที่ 12 มีนาคมนี้ เวลา 10.00 น. ตนพร้อมด้วยนายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ทนายความ จะเข้าพบอัยการพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก บก.ปอท. ตามที่ได้นัดหมายไว้ ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากสำนักงานอัยการ เพราะข้อกล่าวหาตนนั้น น่าจะเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้ตนหยุดวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลทางเศรษฐกิจที่ประชาชนลำบากกันอย่างมากมาตลอด 4 ปีกว่า ซึ่งข้อกล่าวหาเป็นเรื่องภาพปกนิตยสารไทม์ที่มีข้อเขียนทำนองไม่มีการขาย ก็หาซื้อไม่ได้จริง และไม่ได้กล่าวถึง คสช. อีกทั้งไม่ได้สร้างความตื่นตระหนกแต่อย่างไร หากเปรียบเทียบกับสิ่งที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ที่ได้มีการปิดทีวีหลายช่องและหลายครั้ง ปิดหลายรายการทีวี ดังนั้น การที่ไม่มีนิตยสารต่างประเทศที่มีรูปหน้า พล.อ.ประยุทธ์ขายจึงเป็นเรื่องเล็กมากเมื่อเทียบกับการปิดหลายช่องทีวี และหลายรายการทีวี อีกทั้งปิดกั้นเสรีภาพด้านอื่น แม้กระทั่งการชูสามนิ้ว การกินแซนด์วิช การถือหนังสือ ก็ยังมีการจับกุมเยาวชน ซึ่งเป็นเรื่องที่ร้ายแรงสร้างความตระหนกกันมากกว่าอย่างเทียบไม่ได้ นอกจากนี้ อีกภาพที่มีข้อมูลการดูด ส.ส. ก็เป็นข้อมูลสาธารณะที่ประชาชนทราบกันดีทั่วไปอยู่แล้ว ไม่ใช่เป็นข้อมูลใหม่แต่อย่างใด และก็ไม่ได้บอกว่าใครเป็นคนดูด ส.ส. อีกทั้งเป็นข้อมูลจากการเสวนาทางวิชาการ ซึ่งประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ผู้จัดเสวนาก็ได้ออกมายืนยันและแสดงความไม่พอใจกับรัฐบาลและ คสช. ที่เกิดเรื่องนี้ แถมยังเรียกร้องให้ บก.ปอท. อย่าตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง

“จะเห็นได้ว่าตลอด 4 ปีกว่านี้ รัฐบาลและ คสช. ได้ปิดกั้นเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นมาโดยตลอด มีการจับกุมและเรียกปรับทัศนคติประชาชนจำนวนมาก และก็ยังทำอยู่จนถึงปัจจุบันที่ได้ดำเนินคดีกับนักการเมืองที่มีความเห็นต่าง และพยายามเป็นปากเสียงแทนประชาชน หากรัฐบาลและ คสช. ยังสืบทอดอำนาจหลังการเลือกตั้ง พฤติกรรมดังกล่าวก็จะยังคงเป็นอยู่ ดังนั้น อยากให้ประชาชนร่วมกันโหวตเพื่อหยุดการสืบทอดอำนาจ เพื่อยุติการใช้กฎหมายเพื่อปิดกั้นความคิดเห็นและการกลั่นแกล้งทางการเมือง โดยเฉพาะรัฐบาลก็เพิ่งออก พ.ร.บ.ไซเบอร์ ซึ่งอาจถูกนำมาตีความใช้กลั่นแกล้งเพิ่มเติม เหมือน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ที่เคยบอกว่าจะไม่นำมากลั่นแกล้งทางการเมือง ดังนั้น พฤติกรรมการปิดกั้นเสรีภาพในอดีตจนถึงปัจจุบันได้ทำให้คะแนนความนิยม พล.อ.ประยุทธ์ตกต่ำลงอย่างมาก รองมาจากปัญหาความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจของประชาชน” นายพิชัยกล่าว

///////

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image