“อุตตม” ควง “อนุชา”หาเสียงสงขลา ชี้ถึงเวลาเปลี่ยนภาคใต้จมกับสิ่งเดิมมากว่า 10 ปี

“อุตตม” ควง “อนุชา”หาเสียง จ.สงขลา ชี้ถึงเวลาเปลี่ยนภาคใต้ หลังจมกับสิ่งเดิมมากว่า 10 ปี ยันจะสืบทอดผู้นำที่ทำได้จริงอย่าง “ลุงตู่” เหน็บใครไม่จับมือกับ พปชร.ก็อย่าจับ เพราะมั่นใจได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแน่นอน

เมื่อวันที่ 12 มีนาคม  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง และ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ประธานศุนย์ประสานงานพรรคฯภาคใต้ ปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ท่ามกลางประชาชนที่มาร่วมรับฟังและให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก

นายอุตตม ปราศรัยว่า การต้อนรับจากพี่น้องประชาชนในภาคใต้อย่างอบอุ่น ถือเป็นกำลังใจให้พรรคพลังประชารัฐในช่วงโค้งสุดท้าย เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่พวกเราจะร่วมกันกำหนดอนาคตของเราเอง กำหนดอนาคตประเทศที่เป็นที่รักของเรา  ตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา พี่น้องก็เห็นว่าประเทศต้องประสบกับอะไรบ้าง เราลำบากอย่างไร คนไทยต้องเสียเลือดเนื้อ แต่วันนี้ประเทศสงบสุขมา 4-5 ปีแล้ว ดังนั้นเลือกตั้งครั้งนี้ เราต้องเลือกว่าจะเอาอย่างไร เอาความสงบสุขและไม่กลับไปที่เก่า

“มีพรรคการเมืองพรรคเดิม หัวหน้าพรรคเขาออกมาบอกทำนองว่า ไม่เอาสืบทอดอำนาจ  ไม่เอาลุงตู่ ไม่ทำงานกับพรรคพลังประชารัฐ ผมเรียนตรงๆว่า พรรคพลังประชารัฐจะสืบถอด สิ่งที่สืบทอดคือความสงบสุข ซึ่งนาทีนี้ สถานการณ์แบบนี้  ใครจะเป็นผู้นำในการพาประเทศไปสู่ความสงบ ใครที่ทำแบบนี้ได้ ถ้าไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะฉะนั้น พรรคเราจะสืบทอด และเลือกแล้วว่า จะสืบทอดผู้รักษาความสงบ และนำพาคนไทยไปสู่อนาคตที่มีความหวัง มีความสุข ดังนั้น ใครว่าเราสืบถอดแล้วจะไม่ทำงานด้วยก็ตามสะดวก เพราะเรายึดคนไทยเป็นหลักๆไม่ใช่ทำเพื่อพรรคการเมืองใดเป็นหลัก ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่า ใครจะว่าไง เพราะพรรคพลังประชารัฐจะมารับใช้พี่น้องประชาชน”นายอุตตมกล่าว

Advertisement

นายอุตตม กล่าวด้วยว่า พรรคพลังประชารัฐเกิดจากผู้ร่วมอุดมการณ์หลากหลายภาคส่วน ที่มาด้วยใจที่กล้าหาญ เพื่อมุ่งเปลี่ยนแปลงประเทศ แล้วพี่น้องภาคใต้ ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลงแล้วหรือไม่ หลังสัมผัสกับสิ่งเดิมๆ มาเป็น 10 ปี จึงต้องกล้าเปลี่ยนหน่อย และขอโอกาสให้พรรคพลังประชารัฐมารับใช้พี่น้องประชาชน  เรามาด้วยคนจริง นโยบายทำได้จริง และทำทันทีที่ได้เป็นรัฐบาล จึงขอแรงสนับสนันให้เลือกผู้สมัครของพรรคทุกจังหวัดในภาคใต้ เข้าไปทำงานให้พี่น้องในรัฐสภาหลัง 24 มี.ค.

“ผมเชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแน่นอน และมี ลุงตู่ เป็นนายกรัฐมนตรี  วันนี้หากใครถามเรื่องสืบ บอกไปเลยว่าใช่ เพราะเราสืบทอดโอกาสใหม่ เราสืบถอดผู้นำที่ทำได้จริงอย่างลุงตู่ ใครไม่อยากแตะมือกับเราไม่เป็นไร เพราะมือเรามีไว้แตะกับประชาชน ที่สำคัญวันนี้ไม่ใช่เวลาจะมาพูดว่าจะแตะหรือไม่แตะกับใคร  ให้รอหลัง 24 มี.ค.ก็จะรู้เองว่าใครจะเจรจากับใคร” นายอุตตมกล่าว

Advertisement

นายอุตตม กล่าวว่า พรรคเรามีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ มีนโยบายไม่ขายฝัน ทำได้จริง เพราะหลายเรื่อง เราต่อยอดจากนโยบายรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งเมื่อพรรคได้รับความไว้วางใจเราจะมุ่งแก้ปัญหาที่สั่งสม  ปฏิรูประบบเศรษฐกิจของประเทศ ให้เติบโตจากเศรษฐกิจฐานรากที่คลอบคลุมพี่น้องส่วนใหญ่ของประเทศ  ขยายสิทธิและเพิ่มเงินในบัตรประชารัฐ พักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปี แล้วเสริมทักษะอาชีพ ก่อนจะตั้งกองทุนให้กู้ใหม่  นอกจากนี้ยังมีนโยบายมารดาประชารัฐ ที่ดูแลเด็กตั้งแต่จนถึง 6 ปี ถือเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต พรรคพลังประชารัฐจะดูแลเรื่องราคายางพารา ให้อยู่ที่กิโลกรัมละ 65 บาท  ผักดันเรื่องของการท่องเที่ยว ที่ยึดโยงกับวิถีชุมชน และการเกษตร เพราะเราตั้งใจสร้างภาคใต้ให้เป็นด้ามขวานทอง 4.0

ด้านนายอนุชา ปราศรัยโดยย้ำพรรคพลังประชารัฐจะพาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้ง และพาการเมืองให้พ้นจากสงครามสีเสื้อ ไปสู่ความสงบ เพื่อสร้างอนาคตที่ดีให้กับประชาชน และประเทศไทยพ้นจากกับดักความยากจน ซึ่งพรรคพลังประชารัฐสัญญาจะทำให้เป็นจริง โดยพรรคพลังประชารัฐคือจุดร่วมคนที่จะพาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้ง และทำนโยบายที่ช่วยเหลือประชาชนให้พ้นจากความยากจนได้จริง

นายอนุชา กล่าวด้วยว่า สิ่งที่รัฐบาลทำให้เป็นจริงเมื่อเข้าบริหารผ่านมา 2-3 ปี ให้ประชาชนมีรายได้ คือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยมีเงินประทังชีวิต แต่พรรคพลังประชารัฐต้องการสร้างอนาคตให้ประชาชน ผ่านการเติมเงินให้เกษตรกรฐานราก ซึ่งเป็นวัฎจักรเริ่มต้นของการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ที่เป็นประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ ไม่ใช่คนร่ำรวย ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐจะทำให้เกษตรกรมีเงิน ผ่านนโยบายต่างๆ เช่น ช่วยค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ 2,000บาท ช่วยค่าปลูกไร่ละ 1,500 บาท โดยไม่เกิน 20 ไร่ ทั้งนี้เป้าหมายสำคัญคือ เพื่อไม่ให้เกษตรกรโดนดูถูกอีก

นายอนุชา ยังประกาศ จะเลิกเล่นการเมืองบนเวทีปราศรัยด้วยว่า หากพรรคพลังประชารัฐได้เป็นรัฐบาล  และภายใน 4 ปีหากพรรคพลังประชารัฐไม่สามารถทำให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้ ตนจะเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต เพราะนี่คือสัญญา คนอย่างผมนักการเมืองรู้ดี พูดคำไหนคำนั้น ไม่เคยมีชื่อเสียเรื่องคำพูด ผมรับรองได้ว่าเป็นจริง และเป็นอุดมการณ์ของพรรค ขอให้มั่นใจว่าพวกผมจะทำตามสัญญา หากพี่น้องยึดมั่นในอุดมการณ์ทำเพื่อประเทศ เพื่อลูกหลานของเราไม่ใช่เพื่อพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น ผมขอฝากประชาชนด้วยความระลึกในบุญคุณของแผ่นดิน ผมเกิดมาเพราะมีหนี้บุญคุณของแผ่นดินที่ต้องชดใช้ และผมจะชดใช้อย่างเต็มความสามารถกับพรรคพลังประชารัฐ และจะนำพาความผาสุก ความรุ่งเรือง และโอกาสมาสู่บ้านเมืองของเรา

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image