เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่หอประชุมโรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ นำคณะบริหารของพรรค อาทิ นายมุข สุไลมาน ดร.ณหทัย ทิวไผ่งาม รองหัวหน้าพรรค นายสุรพล นาควานิช นายฤทธิ์ ลือชา ลงพื้นที่พบปะประชาชนชาว อ.เชียงแสน อ.แม่สาย อ.ดอยหลวง และ อ.เชียงของ เพื่อปราศรัยหาเสียงช่วยเหลือ น.ส.สุนิศา แดนแก้วรัตน์ ผู้สมัครหมายเลข 6 พรรคประชาชาติ และผู้สมัครของพรรคในเขตเลือกตั้งอื่น โดยมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมฟังจำนวนกว่า 1,000 คน
นายมุขกล่าวว่า ไทยมีการแบ่งแยกชนชั้น คนรวยก็รวยมาก คนจนก็จนมาก ผูัมีอำนาจก็ใช้อำนาจกดขี่ประชาชนรากหญ้า ดังนั้น พรรคประชาชาติจึงต้องการแก้ไขปัญหาในจุดนี้ โดยหัวหน้าพรรคไม่น้อยหน้าคนอื่น แต่เป็นรัฐมนตรีคนเดียวที่ไม่เคยถูกอธิปรายไม่ไว้วางใจ แม้พรรคไม่มีทุนเยอะ แต่เป็นพรรคคนดี มือสะอาด ประชาชาติไม่เอาลุงตู่ ไม่เอาเผด็จการ แต่เอาประชาธิปไตย และเป็นพรรคที่เอาประชากรทุกเผ่าพันธุ์มาร่วมบริหารประเทศ
ดร.ณหทัยกล่าวว่า ประเทศไทยห่างหายประชาธิปไตยมากว่า 4 ปี วันนี้ประเทศไม่ต้องการนักการเมืองมือใหม่มาพัฒนา จึงอยากนำประสบการณ์ของหัวหน้าพรรคฯมาช่วยบริหารประเทศ โดยการรวมคนทุกเผ่ามาร่วมพัฒนา หัวใจของพรรคฯคือเคารพความแตกต่าง ดึงจุดเด่นของละชาติพันธุ์มาเป็นแนวทางพัฒนาประเทศ หนนุเทคโนโลยี จัดสรรครูคุณภาพทุกชุมชน โดยที่ประชาชนไม่จำเป็นต้องเป็นหนี้สินจากการเล่าเรียน ประเทศเพื่อบ้านมีความรุดหน้าด้านเศรษฐกิจ แต่ประเทศไทยกลับเดินถอยหลังเพราะยุทธศาสตร์ที่ไม่สอดคล้องกับประชาชน
น.ส.สุนิศากล่าวว่า เขตเลือกตั้งตนมี 3 อำเภอ 372 หมู่บ้าน ตั้งเป้าเข้าถึงพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ เพื่อพบปะให้มากที่สุดก่อนการเลือกตั้ง ตนทำงานมาหลากหลายอาชีพ ทั้งแอร์โฮสเตส พนักงานด้านสินเชื่อของธนาคาร ทำให้รู้ปัญหาหนี้สินของเกษตร จึงขันอาสาพี่น้องชนเผ่าเพื่อจะเข้าไปพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการช่วยเหลือด้านราคาพืชผลทางการเกษรที่ตกต่ำในปัจจุบัน
ขณะที่นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ตนเคยมาเชียงรายหลายครั้ง โดยเฉพาะเชียแสน แม่สาย และเชียงของ แม้จะเป็นคนใต้และนับถือศาสนาอิสลาม แต่ก็มาดำเนินการผลักดันและก่อสร้างสะพานมิตรภาพข้ามลำน้ำโขง ท่าเรือเชียงแสน พัฒนาสนามบินและสะพานแห่งที่ 2 ที่แม่สาย สมัยเป็นรัฐมนตรีคมนาคมและอยู่ในแวดวงการเมืองมาเกือบ 40 ปี ยังไม่เคยเห็นผู้แทนของประชาชนเป็นชนเผ่าแม้แต่คนเดียว การเลือกตั้งครั้งนี้จึงต้องการสร้างประวัติศาสตร์ โดยรวมเอาทุกชนชาติ ทุกศาสนามาอยู่ในพรรค เพื่อจะร่วมกันพัฒนาประเทศตามความต้องการของแต่ละชาติพันธุ์ ซึ่งมีความสามารถและความถนัดที่แตกต่างกันไป ซึ่งจะสอดคล้องกับนโยบายของพรรคที่จะพัฒนาด้านเศรษฐกิจ การศึกษา สาธารณสุข และสังคม ที่จะต้องดีในทุกด้าน
“มาถึงตอนนี้ ทางพรรคคาดว่าจะได้รับเลือกตั้งทั้งเขตการเลือกตั้งและระบบบัญชีรายชื่อทั่วประเทศมากกว่า 20 ที่นั่ง ไม่เฉพาะเพียงภาคใต้เท่านั้น ยังรวมถึงภาคเหนือและภาคอีสานด้วย” นายวันมูหะมัดนอร์กล่าว