หาดใหญ่โพลเผย ชาวใต้ เห็นว่า’พปชร.’มีโอกาสเป็นแกนจัดตั้งรัฐบาลมากสุด

หาดใหญ่โพลเผยโค้งสุดท้าย 14 จว.ใต้ส่วนใหญ่เห็นว่า’พปชร’มีโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมากสุด ต่างจากก่อนหน้าที่เห็นว่าพท.มีโอกาสมากกว่า

รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลาเมื่อวันที่ 15 มีนาคมนี้ว่า หาดใหญ่โพล โดยสำนักวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ สำรวจความคิดเห็นของประชาชนชาวใต้”คิดอย่างไรกับการเมืองก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม 2562 “กลุ่มตัวอย่างในการสำรวจครั้งนี้เป็นประชาชนใน 14 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 400 คน เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม จำนวน 100 คน และด้วยวิธีแบบสอบถามออนไลน์ จำนวน 300 คน ระหว่างวันที่ 1 – 12 มีนาคม 2562 กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง (ร้อยละ 52.50) อายุในช่วง 26-35 ปี (ร้อยละ 43.00) รองลงมา ช่วงอายุ 36-45 ปี (ร้อยละ 37.00) และช่วงอายุ 18-25 ปี (ร้อยละ 12.50) ตามลำดับ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นพนักงานบริษัท/ลูกจ้าง (ร้อยละ 37.25) รองลงมา มีอาชีพประกอบธุรกิจส่วนตัว/ค้าขาย ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ และนักเรียน/นักศึกษา คิดเป็นร้อยละ 20.00 ,15.75 และ 11.00 ตามลำดับ

รองศาสตราจารย์ทัศนีย์ ประธาน ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ เปิดเผยผล การสำรวจหาดใหญ่โพล พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 85.00 เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยและพรรคไทยรักษาชาติมีการฮั้วการทางการเมืองในการเลือกตั้งครั้งนี้ นอกจากนี้ประชาชนร้อยละ 57.00 ไม่เชื่อว่าหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ มีการเจตนาปลอมประวัติในการรับสมัครรับเลือกตั้ง และร้อยละ 40.00 เชื่อว่าหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ มีการเจตนาปลอมประวัติในการรับสมัครรับเลือกตั้ง และร้อยละ 3.00 ที่ไม่แน่ใจเกี่ยวกับการปลอมประวัติของหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่

“ประชาชนร้อยละ 45.50 เห็นว่าพรรคพลังประชารัฐ มีโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มากที่สุด ซึ่งแตกต่างจากผลการสำรวจครั้งที่ผ่านมา ที่ประชาชนเห็นว่า พรรคเพื่อไทย มีโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มากที่สุด”

Advertisement

ประชาชนร้อยละ 43.50 พิจารณาเลือก สส. จากนโยบายของพรรคการเมือง มากที่สุด รองลงมา คือ คุณภาพของผู้สมัคร และ พรรคการเมืองที่สังกัด คิดเป็นร้อยละ 34.25 และ 16.25 ตามลำดับ ทั้งนี้ประชาชนร้อยละ 38.25 เห็นว่าพรรคพลังประชารัฐมีแนวนโยบายประชานิยมในการหาเสียงเลือกตั้ง มากที่สุด รองลงมา คือ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคอนาคตใหม่ และพรรคเพื่อไทย คิดเป็นร้อยละ 13.25 11.75 และ 11.50 ตามลำดับ

ประชาชนร้อยละ 59.50 เห็นว่า วิธีการหาเสียงของพรรคการเมืองมีความเหมาะสม ร้อยละ 40.50 ที่เห็นว่า การหาเสียงของพรรคการเมืองไม่มีความเหมาะสม นอกจากนี้ประชาชนร้อยละ 50.75 เห็นว่า การลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีในช่วงเลือกตั้งไม่เหมาะสม มีเพียงร้อยละ 24.25 ที่เห็นว่าการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีในช่วงเลือกตั้งมีความเหมาะสม และร้อยละ 25.00 ไม่แน่ใจในประเด็นดังกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image