“องอาจ” จี้ กกต. สอบเกณฑ์คนแพร่ต้อนรับ”บิ๊กตู่” แนะจับตากำหนดการลงพื้นที่นายกฯ 7 วันก่อนเลือกตั้ง แอบแฝงหาเสียง ไล่ไปเตือน พปชร. เลิกประชานิยมสุดขั้ว ซัด ออกนโยบายเพิ่มค่าแรงไม่ดูตาม้าตาเรือ
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงกรณีปรากฏข่าวเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ว่ามีการสั่งการให้นายอำเภอเกณฑ์คนไปฟัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ปราศรัยที่ จ.แพร่ ว่า ขณะนี้ผู้ว่าราชการทุกภาคส่วน ต้องระมัดระวังในการดำเนินการใดที่ใช้งบประมาณและทรัพย์สินราชการเอื้อประโยชน์ให้พรรคใดพรรคหนึ่ง โดยเฉพาะเอื้อ พล.อ.ประยุทธ์ หนึ่งในแคนดิเดตนายกฯของพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ต้องระมัดระวัง ไม่ให้เกิดการเอาเปรียบกันทางการเมือง ถ้าไม่ใช่แคนดิเดตนายกฯ ข้าราชการจะดำเนินการอย่างไรคงไม่ได้มีผลเสียหาย แต่เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯ อาจทำให้เกิดมีผลประโยชน์ทับซ้อนเกิดขึ้น แม้อ้างว่าไปราชการ ก็ถือว่าเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น เรื่องนี้อยากเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เข้าไปตรวจสอบว่า การเกณฑ์คนลักษณะดังกล่าวทำได้หรือไม่ โดยเฉพาะ 7 วันหลังจากนี้ก่อนถึงวันลงคะแนน พบว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้มีกำหนดการไปตรวจราชการเกือบทุกวันในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย เป็นการส่อเจตนาของการแอบแฝงหาเสียงหรือไม่ กกต.ต้องไปตรวจสอบ เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างสุจริตและเที่ยงธรรม
นายองอาจยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ออกมาเขียนสารเตือนพรรคการเมืองต่างๆ ให้ระมัดระวังการหาเสียงที่ใช้งบจำนวนมาก คิดว่านายกฯควรเตือนพรรคพลังประชารัฐ ที่เอาชื่อท่านไปเป็นแคนดิเดตนายกฯ ก่อนพรรคการเมืองอื่นจะดีกว่า เพราะพรรคพลังประชารัฐมักออกนโยบายประชานิยมสุดขั้ว เกทับบลั๊ฟแหลก เพิ่มจำนวนเงินในนโยบาย อาทิ การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ขณะที่พรรคการเมืองอื่นนำเสนอนโยบายซึ่งสามารถปฏิบัติได้จริง เช่น ประชาธิปัตย์เสนอประกันรายได้ของผู้ใช้แรงงานประมาณวันละ 400 บาท แต่พลังประชารัฐมาเกทับเพิ่มเป็น 425 บาท เป็นต้น เป็นประชานิยมสุดขั้ว อาจจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ วินัยการเงินการคลัง ภาวะเงินเฟ้อ ข้าวของราคาแพงขึ้นมาโดยทันที
“การมุ่งหวังได้คะแนนเสียงเฉพาะหน้า โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายใดๆ เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง นายกฯควรรีบไปเตือนพลังประชารัฐ ว่าระยะเวลาที่เหลือ 7 วันนับจากนี้ ไม่ควรออกนโยบายประชานิยมสุดขั้ว กระทบต่อประเทศชาติโดยรวมอีก โดยเฉพาะนโยบายการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ จะกระทบอย่างมากต่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม อีกทั้งยังกระทบต่อการตัดสินใจย้ายฐานการผลิตจากประเทศไทยไปประเทศอื่นอีกด้วย” นายองอาจกล่าว