เปิดคลิป ‘บิ๊กตู่’ ปราศรัยอ้อนคน 3 จว.ใต้ บอกคิดถึงมาก พร้อมพูดยาวี ‘อย่าลืมเรา’


เปิดคลิป ‘บิ๊กตู่’ ปราศรัยอ้อนคน 3 จว.ใต้ บอกคิดถึงมาก พร้อมพูดยาวี ‘อย่าลืมเรา’

เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 17 มีนาคม ที่สนามกีฬา อบจ.นราธิวาส จ.นราธิวาส แกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำโดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง ร่วมปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัคร 11 เขต จาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีประชาชนเข้าร่วมฟังอย่างเนืองแน่น

โดยนายอุตตมขึ้นกล่าวปราศรัยขอบคุณพี่น้องชาว 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่มารับฟังกันมาก พรรคพลังประชารัฐแม้เป็นพรรคน้องใหม่ แต่วันนี้แสดงให้เห็นว่าได้รับความจริงใจและเป็นที่รู้จัก ซึ่งห้วงเวลานี้ที่ใกล้ถึงวันเลือกตั้ง ถือว่ามีความสำคัญ เป็นการกำหนดอนาคตประเทศไทย เนื่องจาก 10 ปีที่ผ่านมาเกิดความขัดแย้ง เอาประชาชนมาเป็นตัวประกัน ดังนั้น พรรคพลังประชารัฐจึงเสนอตัวเข้ามาเป็นทางเลือกให้กับประชาชนที่จะก้าวข้ามความขัดแย้งไม่กลับไปวังวนเดิมอีก การเมืองต้องไม่อยู่เหนือกว่าประชาชน และถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ อีกทั้งขณะนี้เป็นที่จับตาของนานาชาติว่าคนไทยจะเลือกอนาคตอย่างไร

นายอุตตมยังระบุว่า ปัจจุบันพี่น้องคนไทยยังมีความยากจนและมีความเหลื่อมล้ำ ดังนั้น คนไทยต้องรวยด้วยความสงบ ความสุข และรวยด้วยความหวัง พรรคพลังประชารัฐไม่มีข้อขัดแย้งกับใครแต่จะนำพาความสงบมาให้ประเทศจะต้องมีความสุขที่ยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ พร้อมกันนี้ได้นำเสนอนโยบาย บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่จะเพิ่มสิทธิบัตร ให้ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อช่วยเหลือประชาชนในการจับจ่ายใช้สอย รวมถึงนโยบายมารดาประชารัฐ ที่จะให้การดูแลตั้งแต่ตั้งครรภ์จนถึงคลอดและดูแลต่อไปอีก 6 ปี นอกจากนี้ เด็กจะต้องมีทักษะ ด้วยการสร้างระบบการศึกษาใหม่ ในเชิงปฏิบัติเพื่อที่สามารถสร้างโอกาสในอนาคต และมีงานทำ ขณะเดียวกันก็จะมีนโยบายผู้สูงวัยที่จะปรับเบี้ยผู้สูงอายุและทุกพื้นที่จะให้มีโรงเรียนผู้สูงวัย เพื่อให้มีโอกาสพบปะกัน ไม่รู้สึกเหงาหรือถูกทอดทิ้ง ซึ่งจะมีบุคลากรเข้าไปดูแลใกล้ชิด

Advertisement

นายอุตตมกล่าวว่า ส่วนการเกษตรต้องเป็นเกษตรที่ยั่งยืน ซึ่งพรรคจะดูแลตั้งแต่เริ่มการเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว การเพิ่มมูลค่าด้วยการแปรรูป และดูแลการตลาด เช่น ยางพารา ควรจะมีราคาเป้าหมายอยู่ที่ 65 บาท รวมไปถึงแนวทางการเกษตรก็จะต้องสอดรับกับการท่องเที่ยวและวิถีชีวิต โดยเฉพาะในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ย้ำว่า ทุกอย่างจะทำอย่างต่อเนื่อง และทำทันที หากได้รับความไว้วางใจเข้าไปทำงานเพราะหลายนโยบายได้เริ่มทำแล้ว พร้อมขอพี่น้อง 3 จังหวัดใต้ได้สนับสนุนผู้แทนทั้ง 11 เขต ได้มีโอกาสเข้าไปพิสูจน์ตัวเองและมีผู้นำอย่างพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา นำพาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้ง

จากนั้นได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคพลังประชารัฐ ผ่านจอขนาดใหญ่บนเวที ที่ฝากมาถึงพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีเนื้อหาว่า “ดีใจที่ได้มีโอกาสมาพูดคุยกับพี่น้องประชาชนในวันนี้ ก่อนอื่นอยากจะบอกว่า คิดถึง คิดถึงมากด้วยทุกคน อยากจะมาพบปะพูดคุยด้วยตัวเอง ถึงแม้จะมาไม่ได้แต่เราก็ยังสามารถสื่อสารกันได้ ผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพราะหากสื่อสารเข้าใจกันแล้วเราก็จะเดินหน้ากันไปด้วยความเข้าใจ ผมขอขอบคุณ พรรคพลังประชารัฐที่ให้เกียรติ ให้ความไว้วางใจ เสนอชื่อผมเป็นนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 มีนาคมนี้

ขอให้คำมั่น และขอให้เชื่อมั่นในตัวผม ว่าจะไม่ทำให้พี่น้องประชาชนผิดหวัง ผมจะทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุด ในการสานต่อนโยบายดีๆ และแผนการปฏิรูปที่เริ่มทำไปแล้วทั้ง 11 ด้านตลอดเวลา 5 ปีที่ผ่านมา และจะจัดทำนโยบายใหม่ๆ เพื่อนำพาประเทศชาติไปสู่ความสงบสุข ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นยิ่งๆ ขึ้นไปทุกภาคส่วน

Advertisement

สิ่งสำคัญเร่งด่วนที่ผมต้องทำให้เสร็จจากที่ได้เริ่มไว้แล้ว และทำต่อไปอีก ก็คือการแก้ไขปัญหาที่หลงเหลืออยู่ ตลอดจนวางอนาคตให้มั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนต่อไป เช่น สิ่งแรกที่เราจะนำกลับคืนมาคือความรักความสามัคคี ความปรองดอง กลับคืนสู่สังคมไทยประเทศไทย ทั้งนี้ เพื่อจะนำพาบ้านเมืองของเราเดินไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ที่จะรองรับกับภัยคุกคามทั้งรูปแบบเก่าและรูปแบบใหม่ ความทุกข์ของพี่น้องที่เป็นฐานรากของประเทศ ก็เป็นความทุกข์ใจของผมเช่นเดียวกัน ผมจึงมายืนอยู่ที่นี่ เราต้องมีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ทั้งท่องเที่ยวเมืองหลัก เมืองรองและท่องเที่ยวชุมชน โฮมสเตย์ ท่องเที่ยวทางน้ำ ทางบก และจะต้องมีการเชื่อมโยงให้เป็น Package ไปด้วยกัน ให้คนได้มีโอกาสท่องเที่ยวหลายๆ อย่างหลายๆ พื้นที่ ในทริปเดียวกัน ซึ่งเราต้องช่วยกันทั้งผู้ประกอบการ รัฐบาล ข้าราชการ ทั้งส่วนกลาง ส่วนท้องถิ่น และส่วนภูมิภาค นอกจากนี้ เรามี 10 เขตเศรษฐกิจพิเศษอยู่แล้วตามชายแดนหลายจังหวัด เราจะได้เชื่อมโยงสิ่งเหล่านี้เข้ากับ eec วันนี้ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีแล้วสำหรับ eec เชื่อมโยงจากสงขลาไป ที่เรียกว่า eec สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน วันข้างหน้า ก็ต้องมี wec, nec มีทุกภาค เพราะเราเป็นประเทศที่อยู่ตรงกลางอาเซียน

ต้องลดความรุนแรงในสังคมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้สงบสุข สันติสุขให้ได้ โดยใช้มาตรการทุกมาตรการ โดยไม่ได้มุ่งเน้นการใช้อำนาจทางการทหารอย่างเดียว เพราะถ้าเราใช้มาตรการทางทหารเหตุการณ์จะลุกลามบานปลาย จึงต้องมีทั้งในเรื่องของการพูดคุย เรื่องการพัฒนา ซึ่งเราเน้นเรื่องการพัฒนามากที่สุด ดังนั้น สิ่งที่จะทำให้เกิดการพัฒนามากที่สุด คือการสร้างความปลอดภัยให้ได้ คนในพื้นที่ต้องดูแล ไม่งั้นนักลงทุนจะไม่กล้าไป วันนี้ผมเห็นมีนักลุงทุนมากมายลงมาในพื้นที่ขณะนี้ ส่วนปัญหายาเสพติดที่กำลังแพร่หลาย ผมก็พยายามทำอย่างเต็มที่ สถิติการจับกุมในคดีมากมาย มากกว่าที่ผ่านมาเยอะ แต่ยังไงก็ยังไม่หมด ตราบใดที่ยังมีผู้เสพอยู่ และเราต้องลดปริมาณให้ได้ ในเรื่องของการจับกุมดำเนินคดีถือเป็นขั้นตอนที่สอง สิ่งแรกคือการป้องกันและป้องปราม อันที่สองคือปราบปราม และอันที่สามคือฟื้นฟู ผู้เสพคือผู้ป่วยต้องได้รับโอกาส ผ่านการฝึกอาชีพ เพื่อจะคืนสู่สังคมประกอบสัมมาอาชีพ หันหลังให้กับยาบ้า ยานรก ชุมชนต้องเข้มแข็ง ร่วมกันต่อต้านยาเสพติด สังคมต้องช่วยกันสอดส่อง วันนี้เรามีความร่วมมือจากเพื่อนบ้านมากมาย ป้องกันการลักลอบนำเข้ายาเสพติด สารตั้งต้น ตามแนวชายแดน คนไทยจะต้องปลอดภัย คนใกล้ชิดในบ้านจะต้องห่างไกลยาเสพติด ทุกๆ เรื่องทุกมาตรการ เราจำเป็นต้องดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอน ต่อเนื่องมีนโยบาย มียุทธศาสตร์ มีแผนงาน มีงบประมาณรองรับ ถ้าเราได้ทำต่อร่วมกัน ทุกอย่างก็จะสมบูรณ์ใช่ไหมครับ

วันนี้ทุกอย่างกำลังผลิดอกออกผล เหมือนเราปลูกต้นไม้มาแล้ว ปลูกไม้ผลมาแล้ว หลังเจริญเติบโตมา 5 ปี ผมมั่นใจนะครับ หากทุกท่านให้โอกาสผม มอบความไว้วางใจให้กับผมเหมือนที่ผ่านมา หรืออาจจะมากกว่านั้น ร่วมกันปลูกฝังอุดมการณ์ความรักชาติ รักประชาชน ยึดมั่นในสถาบันหลักของประเทศ จะส่งเสริมผลักดัน สร้างพลังแรงศรัทธา ให้ผมและพรรคพลังประชารัฐ ตลอดจนพี่น้องประชาชนทุกคน ได้ร่วมมือร่วมแรงเป็นกำลังใจให้กัน สร้างสรรค์สิ่งที่ถูก กำจัดสิ่งที่ผิด ด้วยความเข้าใจและร่วมกันนำพาชาติบ้านเมือง ไปสู่ความเจริญ ไปสู่สิ่งที่ดีกว่า มีความรักใคร่ มีความสามัคคีปรองดอง มีความสุขทุกคนถ้วนหน้า อย่างมั่นคงมั่งคั่งยั่งยืน ตือรีมอกาเสะ ยาแงลูปอ ปีเละกีตอ (ขอบคุณ อย่าลืมเรา)” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ขณะที่นายอนุชากล่าวว่า ตนเองได้เคยถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี จนวันนี้เพิ่งได้ลงเลือกตั้งใหม่ ตนจึงไม่อยากเห็นคนไทยสู้รบกัน จึงได้เข้าร่วมอุดมการณ์ด้วยกันในนามพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งพรรคได้มีปณิธานแน่วแน่ว่าประเทศไทยต้องรวยด้วยพลังประชารัฐมีเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ดีขึ้น และพร้อมที่จะดูแลเกษตรกร ชาวประมง ดูแลพี่น้องที่ทำธุรกิจพื้นบ้าน ดังนั้น คนไทยทุกคนต้องร่วมอุดมการณ์ร่วมกันเพื่อให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นในอนาคต พร้อมย้ำว่าหากพรรคพลังประชารัฐได้เป็นแกนนำรัฐบาลแล้วไม่สามารถทำให้พี่น้องประชาชนลืมตาอ้าปากได้ ตนจะเลิกเล่นการเมืองและขอสัญญากับพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนใต้และคนไทยทั้งประเทศ จะร่วมอุดมการณ์สร้างความเจริญให้ประเทศ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image