‘ชัชชาติ’ เซตทีม ‘อเวนเจอร์ กทม.’ ลุยขึ้นรถเมล์-ต่อรถไฟฟ้า สำรวจปัญหาเศรษฐกิจ-คมนาคมของคนกรุง พร้อมขอ กกต.จัดการ ลต.ให้บริสุทธิ์-ยุติธรรม-ชัดเจน เรียกความเชื่อมั่นจาก ปชช.กลับคืนมา
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 มีนาคม ที่อู่รถเมล์บางเขน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วยนายอนุสรณ์ ปั้นทอง ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 12 นายการุณ โหสกุล ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 13 นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 9 นายประพนธ์ เนตรรังษี เขต 6 ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ สุรนาทยุทธ์ เขต 7 และนายพงษ์พันธ์ ยอดเมืองเจริญ เขต 30
เริ่มจากเดินจากปั๊มน้ำมันไปขึ้นรถเมล์ที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ เขตการเดินรถที่ 1 โดยนายชัชชาติได้ทักทายนายท่า พนักงานขับรถเมล์ กระเป๋ารถเมล์ ซึ่งเคยเป็นลูกน้องเก่า ก่อนจะเดินต่อมาขึ้นรถเมล์ร้อนสาย 34 เพื่อเดินทางไปขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอสที่สถานีหมอชิต จากนั้นขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอสมาลงสถานีสยาม ก่อนจะขึ้นรถเพื่อไปขึ้นเครื่องไปหาเสียงต่อที่จังหวัดชัยภูมิ
โดยนายชัชชาติ บอก “นี่คือทีมอเวนเจอร์ กทม.” และ “กทม.ลุย!” และได้แวะสอบถามเรื่องการเดินทางโดยขนส่งสาธารณะ การใช้บัตรสวัสดิการในการขึ้นขนส่งสาธารณะ และเรื่องเศรษฐกิจปัญหาปากท้องกับประชาชนตลอดทาง ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนให้ความสนใจ และขอถ่ายภาพคู่กับนายชัชชาติจำนวนมาก โดยระหว่างขึ้นรถเมล์ประชาชนที่อยู่บนรถบอกกับนายชัชชาติว่า “อยากให้เป็นนายกฯจังเลย อยากให้ได้” “อยากให้ได้ประชาธิปไตยคืนมาจังเลย เบื่อแล้วเผด็จการ”
จากนั้นเวลา 11.30 น. นายชัชชาติให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงพื้นที่ว่า ปัจจุบันเรามีปัญหาเรื่องค่าโดยสารราคาแพง สุดท้ายจะมีเพียงคนบางกลุ่มที่นั่งได้ และรถไฟฟ้ามีเจ้าของหลายคนทั้ง รฟท. รฟม. บางสายให้สัมปทานเอกชนด้วย ดังนั้น อนาคตระบบการคิดค่าตั๋วจะมีปัญหา และประชาชนจะเป็นคนเสียโอกาส นโยบายของพรรค พท. คือจะรวมการบริหารจัดการให้เป็นหนึ่งเดียวให้ได้แม้จะไม่ง่าย เราต้องรีบดูรายละเอียดตรงนี้ ต่อมาคือ รถเมล์ ที่จะเป็นคำตอบในการเดินทางของ กทม. เพราะเป็นเส้นเลือดฝอย แต่รถเมล์มีปัญหาที่ช้า เราต้องทำให้เร็วขึ้น และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้ม เพิ่มจำนวนคัน แต่ลดขนาดรถให้เข้าถึงประชาชน นอกจากนี้ เราต้องผลักดันให้มีตั๋วรวมใช้ใบเดียวขึ้นรถไฟฟ้า รถเมล์ ฯลฯ ได้ เป็นตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ ไม่อย่างนั้นประชาชนจะเสียทั้งเวลา และเสียเงิน
เมื่อถามถึงปัญหาที่เกิดในการเลือกตั้งล่วงหน้า นายชัชชาติกล่าวว่า เป็นปัญหาที่เห็นชัด โดยเฉพาะเรื่องบัตรเลือกตั้งที่ในแต่ละหน่วยมี 350 เขต การให้บัตรแต่ละเขตมีปัญหา กกต.ต้องออกมาชี้แจงให้ชัดเจนด้วยว่ารายละเอียดแต่ละขั้นตอนเป็นอย่างไร การส่งบัตรไปยังไปรษณีย์เป็นอย่างไร เพราะมีคนสงสัยว่าต้องเอามารวมก่อน แล้วเอาไปส่งไปรษณีย์ หรือส่งไปที่ไปรษณีย์ทีเดียว กกต.ควรรับฟังข้อคิดเห็น แล้วจัดแถลงให้ชัดเจนทีเดียว ความมั่นใจเป็นเรื่องสำคัญ ของจริงคืออาทิตย์หน้า ถ้าไม่พร้อมจะเกิดความสับสน เอาการเลือกตั้งล่วงหน้านี้เป็นบทเรียน แล้วเอาความมั่นใจจากประชาชนกลับคืนมา เพราะประชาชนเกิดเครื่องหมายคำถามกับ กกต.เป็นอย่างมาก กกต.ต้องพิสูจน์ตัวเองทำให้รู้สึกว่า จัดการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างโปร่งใส เพราะผลการเลือกตั้งจะส่งผลต่อทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ฯลฯ อย่างไรก็ตาม อาจมีการฟ้องร้อง กกต.ในอนาคตหลังการเลือกตั้งได้ เพราะก็เคยเกิดขึ้นแล้วในอดีต ก็ขอให้ กกต.จัดการเลือกตั้งอย่างสุจริต ยุติธรรม
