09:00 INDEX ดัชนี ชี้สถานะ พรรคการเมือง ปราศรัยใหญ่ ห้วงโค้งสุดท้าย

การปราศรัย”ใหญ่”ไม่ว่าจะเป็นของพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นของ พรรคอนาคตใหม่ ไม่ว่าจะเป็นของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็นของพรรคพลังประชารัฐ

ได้รับความสนใจเป็นอย่างสูงในทางการเมือง

ไม่เพียงแต่จะมองผ่าน “ปริมาณ” การเข้าร่วม ไม่เพียงแต่จะ มองผ่าน “คุณภาพ” ที่สำแดงออกผ่านการบริหารจัดการและบทสรุปในช่วงโค้งสุดท้าย

เพราะกำหนดในวันศุกร์ที่ 22 มีนาคมเหมือนกัน เพราะกำหนดใน กทม.เหมือนกัน เพียงแต่คนละสถานที่เท่านั้น

Advertisement

คำถามมิได้อยู่ที่ว่าแต่ละพรรคจะปราศรัยอย่างไร

หากแต่ยังอยู่ที่ว่าทำไมมีเพียง พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ

ไม่จำเป็นต้องเป็น”เกจิ”ในทางการเมืองก็สามารถตอบได้ว่าทำไม ต้องเป็นพรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคพลังประชารัฐ

ทำไมจึงไม่เป็นพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา

หากใครที่ติดตามการจัดเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรครวมพลัง ประชาชาติไทยที่นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ณ สวนเบญจสิริ เมื่อวันที่ 18 มีนาคมก็จะได้คำตอบ

เพราะมีแต่พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ เท่านั้นที่อยู่ยอดบนสุด

พรรคเพื่อไทยแทบไม่ต้องพูดถึงเพราะอยู่อันดับ 1 มาโดยตลอด ที่น่าสนใจกลับเป็นพรรคอนาคตใหม่ พรรคประชาธิปัตย์กับพรรคพลังประชารัฐต่างหากที่แย่งชิงตำแหน่งที่ 2

คำตอบว่าพรรคอนาคตใหม่หรือพรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคพลังประชารัฐจะได้ที่ 2 อยู่ในวันที่ 24 มีนาคม

ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นก็คือ การเคลื่อนไหวหาเสียงนับแต่เดือนธันวาคม 2561 เรื่อยมาจนถึงวันที่ 22 มีนานคม ได้จัดแบ่งขั้วใน ทางการเมืองออกเป็น 2 ขั้วโดยปริยาย

ขั้ว 1 พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ อีกขั้ว 1 คือ พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่

2 ขั้วนี้แตกต่างกันอย่างไร ประชาชนล้วนมี”คำตอบ”

คำตอบว่าขั้วใดเอนไปทาง “คสช.” คำตอบว่าขั้วใดปฏิเสธบท บาทและความหมายของ”คสช.”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image