‘ชัชชาติ’ ลุยหลักสี่ หาเสียงโค้งสุดท้าย โชว์วิชั่นพัฒนาชุมชนเมือง-แซวคุณป้าชื่อ ‘ตู่’ พักผ่อนเยอะๆ

‘ชัชชาติ’ หาเสียงโค้งสุดท้าย ชี้ ปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายจะชี้ว่า อนาคตกับพรรค พท.จะเป็นอย่างไร พร้อมแซวคุณป้าชื่อ ‘ตู่’ ให้พักผ่อนเยอะๆ

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย (พท.) ลงพื้นที่เขตหลักสี่ช่วยนายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขต 9 เบอร์ 2 หาเสียง โดยเริ่มจากการเดินตลาดเคหะท่าทราย ตักบาตร ทักทายพ่อค้าแม่ค้าและวินมอเตอร์ไซค์มีประชาชนในพื้นที่ต้อนรับและมาขอถ่ายรูป โดยแม่ค้าในตลาดกล่าวว่า “เป็นรัฐบาลอีกรอบรวยแน่ ตอนนี้ไม่ไหว” นอกจากนี้ นายชัชชาติยังได้แวะพูดคุยถามไถ่ปัญหากับแม่ค้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ระหว่างทางมีคุณป้าชื่อ ‘ตู่’ เข้ามาทักทาย เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีอะไรจะพูดกับพี่ตู่ไหม นายชัชชาติตอบติดตลกว่า “พักผ่อนเยอะๆ นะ”

นายชัชชาติกล่าวว่า ชุมชนท่าทรายเป็นชุมชนที่เข้มแข็งและอบอุ่นน่ารักเป็นส่วนสำคัญของการกระจายอำนาจ ชุมชนมีความเข้มแข็งและรู้ปัญหาดีกว่าส่วนกลาง ดังนั้น ต่อไปหากใช้รูปแบบการกระจายอำนาจและให้ชุมชนบริหารจัดการกันเอง เช่น กองทุน SML ทำให้ชุมชนยิ่งเข้มแข็ง รู้ความต้องการของชุมชนเอง และเป็นการฝึกประชาธิปไตยขั้นพื้นฐานให้คนมาคุยกันตรวจสอบกัน ทำชุมชนเล็กๆ เป็นหน่วยเล็กสุดให้เข้มแข็งแล้วประเทศจะเข้มแข็งขึ้น ดังนั้น กองทุน SML ที่เคยทำมาในอดีตก็เป็นตัวอย่างที่ดีที่ชุมชนตอบโจทย์ตัวเองได้ ส่วนปัญหาที่พบเจอในการพูดคุยกับประชาชนวันนี้ เช่น การผูกขาดลอตเตอรี่ แม่ค้าอยากได้โควต้าเพิ่มเนื่องจากรับมาจากยี่ปั๊วในราคา 83 บาททำให้ขายในราคา 80 บาทไม่ได้ ซึ่งตนคิดว่านโยบายหวยบำเหน็จจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับพ่อค้าแม่ค้า ขายร่วมกับสลากกินแบ่งรัฐบาล ขณะเดียวกันจะช่วยแก้ปัญหาผู้สูงอายุจนก่อนรวยเพราะไม่มีเงินออม แต่คนจะอยู่ได้ต้องมีเงินอย่างน้อย 50% ของเงินเดือนสุดท้าย แต่ทุกวันนี้มีแค่ข้าราชการ ส่วนประกันสังคมเองก็ให้เงินแค่ 24% ปัจจุบันมีคนร่วมกองทุนการออมแห่งชาติ 5 แสนคนจากเป้าหมาย 25 ล้านคน ดังนั้น หวยบำเหน็จจะตอบโจทย์เรื่องการออมและสังคมผู้สูงวัยของประเทศไทย ให้มีแรงจูงใจในการออม แม้รางวัล อาจจะไม่เยอะเท่ากับสลากกินแบ่งรัฐบาลแต่จะได้เงินต้นคืนในรูปแบบของการออม

นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่าในชุมชนมีผู้สูงอายุเยอะ แต่ยังมีสุขภาพแข็งแรงสดชื่น ส่วนหนึ่งคิดว่าอาจจะเป็นเพราะชุมชนมีสวนสาธารณะและพื้นที่ออกกำลังกาย ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ พรรค พท.มีโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคระยะ 2 ที่มีหัวใจคือการดูแลป้องกันให้สุขภาพแข็งแรงขึ้น การมีสวนสาธารณะ มีที่ออกกำลังกาย การให้ความรู้เรื่องการกินทำให้ผู้สูงอายุเข้าใจในการดูแลสุขภาพ ช่วยลดภาระในการดูแลและทำให้สังคมผู้สูงอายุมีความเข้มแข็งและมีสุขภาพที่ดี แทนที่จะต้องไปรักษาตอนหลัง อีกทั้งยังกระจายหน่วยพยาบาลกระจายลงไปให้ถึงเส้นเลือดฝอยของไทย ตามนโยบายไทยเท่าเทียม ทุกคนต้องเข้าถึงสิทธิที่เท่าเทียมกันด้วยระยะเวลาที่เร็ว โรงพยาบาลอาจจะเป็นโซน ลงทะเบียนได้หลายโรงพยาบาล คือเอาประชาชนเป็นที่ตั้งและตอบโจทย์ตรงนั้น ใช้แอพพลิเคชั่นในการตรวจชีพจรวัดความดันและส่งไปที่ส่วนกลาง บุคลากรอาจจะไม่ต้องลงไปเอง แต่ให้คนในหมู่บ้านหรือ อสม. ลงไปเยี่ยมและเอาเทคโนโลยีไปใช้ถ่ายข้อมูลเข้ามาคลังข้องมูลกลางในโรงพยาบาลที่ลงทะเบียนไว้ แล้วบุคลากรเฝ้าติดตามผลตรวจสุขภาพของประชาชนว่าระดับน้ำตาลในเลือด ชีพจร หรือความดัน ฯลฯ เป็นอย่างไร จะทำให้แก้ปัญหาได้ตรงและรวดเร็วขึ้น เห็นความต่อเนื่องและแพทย์สามารถดูประวัติย้อนหลังได้ ซึ่งแอพพลิเคชั่นพวกนี้มีใช้ในต่างประเทศอยู่แล้ว และจะนำมาประยุกต์ใช้ทั้งสาธารณสุขและมิติอื่นๆ และหากทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ จะทำให้ข้อมูลเชื่อมโยงสื่อสารกันง่าย เพราะปัจจุบันโรงพยาบาลยังมีฐานข้อมูลที่ต่างกันอยู่ ถ้าทำให้ฐานข้อมูลให้เป็นอันเดียวกัน การให้บริการก็จะสะดวกขึ้น คนไข้เปลี่ยนโรงพยาบาลหรือเปลี่ยนภูมิลำเนาก็จะมีข้อมูล และรวมเป็นฐานข้อมูลใหญ่ของประเทศเพื่อวิเคราะห์ปัญหาสุขภาพของคนในประเทศได้ดีขึ้น การเปลี่ยนระบบข้อมูลเป็นดิจิทัลยังจะช่วยลดค่าขนส่ง กด Enter ครั้งเดียวก็สามารถส่งต่อข้อมูลไปทั่วประเทศทั่วโลก

Advertisement

นายชัชชาติกล่าวถึงการปราศรัยใหญ่ในวันพรุ่งนี้ (22 มีนาคม) ว่าจะเป็นการสรุปว่าในอนาคตพรรคจะเป็นอย่างไร พรรค พท.เรามีผลงานที่ประจักษ์และเป็นผู้บริหารมืออาชีพที่เข้าใจอนาคต เข้าใจประชาชน และเข้าใจวิธีทำ เน้นผลลัพธ์ซึ่งนี่คือจุดแข็งของพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่มีแต่ความฝัน แล้วทำให้เป็นจริงไม่ได้ และที่สำคัญคือการทำงานเป็นทีม ที่จะร่วมมือกันสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ส่วนสถานที่จัดปราศรัยแม้จะจุคนได้ 3,000-4,000 คน แต่จะมีการเผยแพร่ออกไปทั่วประเทศด้วยอินเตอร์เน็ตและการสื่อสารวิธีอื่น ซึ่งอาจจะมีคนได้ดูเป็นล้าน ดังนั้น ตำแหน่งที่จัดจะใกล้กับใครก็ไม่สำคัญแต่หัวใจคือการกระจายไปทั่วประเทศ

หลังจากนั้นนายชัชชาติขึ้นรถแห่มาที่ตลาดเคหะทุ่งสองห้อง และเดินทักทายประชาชนในตลาด โดยมีประชาชนมาต้อนรับและตะโกน “เพื่อไทยสู้ๆ” และ “เพื่อไทย กระเป๋าตุง” ตลอดเส้นทาง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image