“ภูมิใจไทย”ลั่น ยึดกติกา-มารยาทการเมือง ส.ส.เกินกึ่งหนึ่งของสภาต้องเลือกนายกฯ

“อนุทิน” ย้ำ “ภูมิใจไทย” ยึดกติกา-มารยาทการเมือง ส.ส.เกินกึ่งหนึ่งของสภาต้องเลือกนายกฯ-รัฐบาลเทิดทูนสถาบัน ยัน ไม่เคยทำข้อตกลงกับใครก่อนเลือกตั้ง ขอสงวนท่าที ไม่พูดเรื่องตั้งรัฐบาล จนกว่ากกต.ประกาศผล วอน เจ้าหน้าที่อย่าใช้อำนาจพิเศษจากคสช.-รัฐ เอื้อบางพรรค ด้าน “ศักดิ์สยาม” ระบุ ไม่เอาอำนาจนอกระบบแทรกแซงเลือกตั้ง

เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 22 มีนาคม ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) พร้อมด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค และ นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรค ร่วมแถลงข่าวถึงความพร้อมของพรรคในการเลือกตั้ง โดยนายอนุทินกล่าวว่า ที่ผ่านมา พรรค ภท.ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี โดยพบว่าประชาชนมีความต้องการ 2 เรื่องหลัก คือ ไม่ต้องการให้พรรคสร้างความแตกแยก และพรรคต้องดูแลปัญหาปากท้องเป็นอย่างแรก ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของพรรคที่ประกาศตั้งแต่เริ่มต้นว่าเราต้องการลดอำนาจรัฐ เพื่อปากท้องประชาชน นอกจากนี้ ตนขอให้สัญญาว่าผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทุกคน ได้รับการปลูกฝังให้รณรงค์หาเสียงเลือกตั้งด้วยความสุจริต ยึดถือหลักกฎหมาย และพร้อมยอมรับผลการเลือกตั้ง

“ ไม่ว่าเราได้รับการเลือกตั้งมาจำนวนเท่าใด สิ่งที่พรรคจะยึดถือ คือผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต้องมีเสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส. พรรคไม่ต้องการให้เกิดปัญหารัฐบาลเสียงข้างน้อย เพียงเพื่อขอให้ได้ผู้นำประเทศก่อน เราจะเคารพกติกามารยาททางการเมือง ยืนยันพรรคจะไม่นำประเทศไทยเข้าสู่ความขัดแย้ง รัฐบาลต้องมีเสถียรภาพ เพื่อแก้ปัญหาปากท้อง ต้องตั้งใจพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวหน้า และผู้ที่ประกอบในรัฐบาลต้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ยิ่งชีวิต นี่คือจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยภายหลังการเลือกตั้ง” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทินกล่าวว่า พรรค ภท.ยืนยัน เราไม่ได้จับมือหรือทำข้อตกลงกับใครหรือกลุ่มหรือพรรคการเมืองใดเพื่อกำหนดการเมืองหลังการเลือกตั้ง ไม่เคยทำ และไม่คิดจะทำ โดยหลังจากนี้ จะขอสงวนท่าที ไม่พูดถึงการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง จนกว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จะประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แล้วจึงค่อยกำหนดแนวทางรวมถึงแสดงท่าทีของพรรคอีกครั้ง ดังนั้น ขอให้เชื่อมั่นว่าจะไม่มีอิทธิพลใดๆ มากำหนดพรรคได้ นอกจากเสียงของประชาชน ทั้งนี้ ตนในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. ขอวิงวอนให้ผู้มีอำนาจในการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ ดำเนินการให้เป็นไปโดยบริสุทธิ์ยุติธรรม โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจพิเศษที่มาจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ซึ่งไม่ควรจะใช้ เพราะจะถึงการเลือกตั้งแล้ว

Advertisement

“วันนี้มีหลายพรรคการเมืองที่พร้อมเข้าสู่การแข่งขันและยอมรับผล หากการแข่งขันนั้นเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ไม่มีการช่วยเหลือจากภาครัฐ สิ่งนี้สำคัญมาก ที่ผ่านมา ประเทศมีความขัดแย้ง มีการไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งเพราะอ้างว่ามีการใช้อำนาจรัฐ เอื้อให้พรรคการเมืองที่ยังมีอำนาจในรัฐบาล แต่วันนี้ น่าจะเป็นจุดที่ทำให้ทุกฝ่ายออกมายอมรับผล เพราะรัฐบาลไม่มีพรรคการเมือง และเป็นกลาง ผลการเลือกตั้งจะได้ชัดเจน ไม่ต้องมีใครเรียกร้องหรือโวยวาย อย่างไรก็ตาม มีหลายกรณีที่ชัดเจนว่ามีการเอื้อประโยชน์ให้พรรคบางพรรค ซึ่งเราไม่ได้หวั่นไหวหรือย่อท้อ เพราะไม่ได้ทำในสิ่งที่มีความพยายามจะกล่าวหา และหากมีการสอบสวนแล้ว ขออย่าพยายามตัดตอน หากพรรคใดทำผิด ต้องเอาให้เต็มที่ หากพบว่ามีการปั้นน้ำเป็นตัว สร้างเรื่อง ขอร้อง อย่าบอกว่าให้หยุด ถ้าทำผิดก็ขอให้กล้ารับผิดอย่างลูกผู้ชาย” นายอนุทินกล่าว

ด้านนายศักดิ์สยามกล่าวว่า นับจากนี้ถึงวันเลือกตั้ง พรรคภท.จะไม่จัดปราศรัยใหญ่อีก เพราะที่ผ่านมานับแต่มีพระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ฎ.) ให้มีการเลือกตั้ง เราได้พบปะพี่น้องประชาชนและนำเสนอนโยบายที่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาปากท้องอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เรามีข้อห่วงใยเรื่องการปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งพรรค ภท.เคยทักท้วงไปยัง กกต.ในเรื่องการนำเสนอนโยบายของพรรคการเมืองต่อประชาชน ที่จะต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. 2561 โดยพรรคตั้งข้อสังเกตว่า ขณะนี้ กกต.ได้มีเอกสารแนะนำนโยบายพรรคและผู้สมัครแจกไปยังประชาชน ตนจึงขอให้สื่อมวลชนช่วยตรวจสอบว่า ในเอกสารนั้น ได้ระบุนโยบายตามที่พรรคการเมืองยื่นจดแจ้งไว้ต่อกกต.หรือไม่ เพราะหากไม่เป็นเช่นนั้น จะถือว่าขัดต่อกฎหมาย นอกจากนี้ พรรคยังเป็นห่วงเรื่องการเสนอนโยบายของพรรคการเมือง ซึ่งมีลักษณะประชานิยม ลดแลกแจกแถม และไม่มีการวิจัยศึกษาถึงผลกระทบต่อประชาชน เราไม่ต้องการให้ประเทศเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ จึงเรียกร้องให้ กกต.ช่วยตรวจสอบนโยบายของพรรคการเมืองให้เป็นไปตามข้อกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งด้วย ในส่วนจุดยืนทางการเมืองนั้น พรรคยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พรรคมีบุคลากรที่มีความสามารถและความพร้อมในการบริหารประเทศ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เราเสนอชื่อหัวหน้าพรรค คือนายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว

“ถ้าพรรคภูมิใจไทยได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนมาเป็นอันดับ 1 นายกรัฐมนตรีต้องชื่ออนุทินเท่านั้น แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น เรายินดีให้พรรคที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 เป็นผู้ตั้งรัฐบาล อีกทั้งยืนยัน จะไม่ทำอะไรที่ขัดแย้งกับหลักการประชาธิปไตย และเห็นว่าการที่พรรคการเมืองส่วนใหญ่มีหลักการและเป้าหมายร่วมกันที่จะไม่ให้มีอำนาจนอกระบบเข้ามาแทรกแซงหรือครอบงำทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง ถือเป็นสิ่งที่ดี เราต้องการให้การเลือกตั้งครั้งนี้ดำเนินการตามกรอบกฎหมายและเกิดประโยชน์สูงสุด และในวันที่ 24 มีนาคม หวังว่าคนไทยจะไปใช้สิทธิกันให้มากที่สุด เพื่อแสดงถึงฉันทามติของประชาชนและกำหนดอนาคตประเทศไทย” นายศักดิ์สยามกล่าว

Advertisement

เมื่อถามว่า ขณะนี้ประเมินว่าจะได้ ส.ส.จำนวนเท่าไหร่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรามีความพร้อมเนื่องจากส่งส.ส.ครบทั้ง 350 เขต ซึ่งแต่ละคนมีคะแนนส่วนตัวมากพอสมควร จึงคาดหวังว่าจะได้จำนวนส.ส.มาก ส่วนจำนวนที่แน่นอน ขอให้รออีก 48 ชั่วโมง หรือช่วงค่ำวันที่ 24 มีนาคมนี้ ก็จะรู้กันแล้ว

เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) มีจุดยืนให้พรรคการเมืองต่างๆรวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่ต้องให้พรรคที่ได้เสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลก่อน พรรคภท.มีความเห็นอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า ถือเป็นความคิดของแต่ละพรรค โดยพรรคภท.จะรักษาขนมธรรมเนียมทางการเมืองให้ได้มากที่สุด ที่สำคัญ เราจะสนับสนุนผู้นำรัฐบาลที่มีความมั่นคง ไม่ใช่ว่าสนับสนุนเข้าไปแล้วทำงานไม่ได้

“พรรคอันดับหนึ่งต้องจัดตั้งรัฐบาลก่อนอยู่แล้ว ถ้ารวบรวมไม่ได้ก็เป็นพรรคอันดับสอง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้วในประวัติศาสตร์ แต่หากพรรคภูมิใจไทยได้อันดับหนึ่ง ผมก็ต้องไปเดินรวบรวม และกราบทุกท่าน ที่สนับสนุนให้เราเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เพราะเมื่อมาถึงอันดับหนึ่งได้แล้วก็ต้องพยายามจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ แต่ผมไม่เชื่อว่า หากใครได้อันดับสาม อันดับสี่ ยกตัวอย่างผม หากได้อันดับสี่ มาขอจัดรัฐบาลเป็นนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าไม่มีใครเขายอมให้เป็น ผมเชื่อว่าสุดท้ายแล้วต้องดูผลการเลือกตั้งของทุกพรรคก่อน ซึ่งผมและคณะกรรมการบริหารพรรค เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องยากในการตัดสินใจ ในการแปรเจตนารมณ์ของประชาชน ที่เลือกพรรคภูมิใจไทยเข้ามาเพื่อให้เราทำอะไร ซึ่งเราไม่มีทางสวนความต้องการของประชาชนแน่นอน” หัวหน้าพรรค ภท.กล่าว

เมื่อถามว่า ที่ระบุว่าจะคุยเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลภายหลังการประกาศผล ส.ส.อย่างเป็นทางการ แสดงว่าปิดประตูเจรจาการจัดตั้งรัฐบาลหลังวันที่ 24 มีนาคมใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ก็คงเป็นเช่นนั้น เพราะยังไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไร ต้องดูความชัดเจนทุกอย่างแล้วค่อยมาคุยกันรอบเดียวให้จบ ไม่ต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่สื่อไม่ต้องกังวล หลังปิดหีบเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม สามารถตามหาตัวตนได้เพราะอยู่แถวๆ นี้

เมื่อถามว่า หากแกนนำพรรคอื่นจะตามหานายอนุทิน ได้หรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ทุกคนมีเบอร์โทรศัพท์ตนอยู่แล้ว ไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่า ส.ว.สรรหา ควรเลือกนายกฯอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า หากผลการเลือกตั้งออกมา แสดงให้เห็นว่าประชาชนต้องการอะไร คิดว่า ส.ว.คงไม่สวนความคิดเห็นของประชาชน แต่หากเกิดเหตุการณ์ส.ว.ไม่โหวตตามเสียงของประชาชน ก็ถึงเวลาที่ผู้แทนปวงชนชาวไทยต้องรักษาศักดิ์ศรีของการเป็นผู้แทน ต้องเอานายกฯตามกระบวนการมาก่อนให้ได้ แม้พรรคภท.จะเป็นฝ่ายค้าน ก็จะโหวตสนับสนุนให้นายกฯมาจากสภาผู้แทนราษฎรก่อน เพื่อรักษาระบบ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image