24 มีนา วันเลือกตั้ง โชว์เจตนา คนไทย ชี้ชะตา ประเทศ

และแล้ววันเลือกตั้งก็มาถึง วันที่ 24 มีนาคม 2562 เป็นประวัติศาสตร์การเมืองอีกหน้าหนึ่ง
วันนี้กลายเป็นวันที่คนไทยรอคอย เพราะตั้งแต่ปี 2554 ประเทศไทยว่างเว้นการเลือกตั้ง ส.ส. แม้ในปี 2557 จะมีการจัดเลือกตั้งแต่ด้วยความรุนแรงที่เกิดขึ้น ทำให้ในที่สุดการเลือกตั้งกลายเป็นโมฆะ
ถือว่าไม่มี !
และด้วยความรุนแรงดังกล่าวได้กลายเป็นเงื่อนไขให้คณะนายทหารเข้ายึดอำนาจ การบริหารประเทศตกอยู่ภายใต้การควบคุมของ คสช.
หลังจากนั้นประเทศไทยก็ว่างเว้นการเลือกตั้ง แม้ คสช.จะสัญญาหลายครั้งว่าจะมีการเลือกตั้งโดยเร็ว แต่ในที่สุดสถานการณ์ก็เป็นเหตุให้เลื่อน
เลื่อนจนคนไทยเริ่มไม่มั่นใจว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นจริง
กระทั่งล่าสุดเมื่อมีการกำหนดวันเลือกตั้งคือวันที่ 24 มีนาคม ทุกฝ่ายจึงพยายามหยุดสร้างเงื่อนไข เกรงว่าจะเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีก
ในที่สุดวันที่ 24 มีนาคม วันเลือกตั้งก็มาถึง
และดูเหมือนว่าคนไทยก็สนใจ อยากจะไปใช้สิทธิกันเป็นจำนวนมาก

จากข้อมูลของกระทรวงมหาดไทย และ กกต.แจ้งว่าในการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม มีคนไทยที่มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนประมาณ 51,427,628 คน
หน่วยเลือกตั้งที่ กกต.จัดขึ้นเพื่อรองรับการเลือกตั้งครั้งนี้ มี 92,837 หน่วย
กกต.ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 80 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
และตั้งเป้าบัตรเสียไม่เกินร้อยละ 2
แม้ในวันที่ 24 มีนาคมจะเป็นวันเลือกตั้ง แต่ก่อนหน้านี้ กกต.ก็ได้จัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรสำหรับคนไทยที่อยู่ต่างประเทศ และจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกในการเดินทางกลับไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม
บัดนี้การเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรและการเลือกตั้งล่วงหน้าได้ผ่านพ้นไปแล้ว
การเลือกตั้งล่วงหน้ามีผู้ไปลงทะเบียนเพื่อขอใช้สิทธิประมาณ 2.6 ล้านคน เมื่อวันที่ 17 มีนาคมมีผู้ที่ลงทะเบียนไปใช้สิทธิจำนวน 86.98 กว่าเปอร์เซ็นต์
ขณะที่การเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรนั้น มีผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้ 119,232 ราย มีผู้ออกมาใช้สิทธิ 98,386 ราย คิดเป็นร้อยละ 82.52
การออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งดังกล่าว แสดงถึงความตื่นตัวทางการเมือง
แต่ผลตัดสินสุดท้ายยังคงต้องรอวันเลือกตั้ง
วันที่ 24 มีนาคม

การเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.ได้เปิดรับสมัครรับเลือกตั้ง ระหว่างวันที่ 4-8 กุมภาพันธ์ มีผู้สมัคร ส.ส.เขต 11,181 คน จาก 81 พรรค ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 2,917 คน จาก 77 พรรค บัญชีนายกรัฐมนตรีมีพรรคการเมืองเสนอทั้งสิ้นจำนวน 46 พรรคการเมือง รวมทั้งสิ้น 71 รายชื่อ
กกต.ได้พิจารณาคุณสมบัติแล้วประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อจำนวน 2,810 คน และไม่ประกาศรายชื่อจำนวน 107 คน และรับรองบัญชีรายชื่อนายกฯ จาก 44 พรรคการเมือง 68 คน ไม่ประกาศรายชื่อ 2 คน
การเลือกตั้งครั้งนี้ได้กำหนดวิธีการเลือกตั้งแบบใหม่ คือกาบัตรเลือก ส.ส.เขตเพียงใบเดียว โดยคะแนนที่กาบัตรนั้นนอกจากจะชี้ชะตาผู้สมัคร ส.ส.ในเขตเลือกตั้งนั้นแล้ว ยังนำไปรวมกับคะแนนอื่นๆ ของพรรค
จากนั้นนำคะแนนทั้งหมดที่แต่ละพรรคได้รับมาคำนวณหาจำนวน ส.ส.ที่พึงมีของพรรคการเมืองนั้นๆ
ส.ส.ที่พึงมีนี้จะทำให้สามารถทราบว่านอกจาก ส.ส.เขตที่ชนะการเลือกตั้งในเขตที่ประชาชนเลือกมาแล้ว พรรคการเมืองนั้นยังมีสิทธิจะได้ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อเพิ่มอีกหรือไม่
จากจำนวนคะแนนที่ประชาชนไปใช้สิทธิ นอกจากจะรู้ว่าใครจะได้รับเลือกเป็น ส.ส.เขต และรู้ว่าแต่ละพรรคจะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเท่าไหร่แล้ว
จำนวน ส.ส.ที่แต่ละพรรคได้รับเลือกยังจะไปกำหนดตัวนายกรัฐมนตรีอีกด้วย
การเลือกตั้งครั้งนี้ ทุกคะแนนจึงมีความหมาย

การเลือกตั้งครั้งนี้มีปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ นั่นคือ แม้จะมีเสียงบ่นจากบรรดาพรรคการเมืองว่าระยะเวลาหาเสียงน้อย
แม้จะมีกฎกติกาที่ควบคุมอย่างเข้มงวด จนเกรงกันว่าจะมีผลกระทบต่อความคึกคักในการชักชวนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าคูหา
แต่เมื่อถึงเวลาหย่อนบัตร ทั้งการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร และการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ผ่านมา กลับพบว่าประชาชนผู้มีสิทธิตื่นตัวมาก
การเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรต้องขยายเวลาเพื่อให้ผู้มีสิทธิได้ใช้สิทธิตามที่ลงทะเบียนเอาไว้
การเลือกตั้งล่วงหน้าในประเทศไทยก็เช่นกัน บรรยากาศที่ผู้คนออกไปกันจนแน่นคูหา ส่งสัญญาณว่าคนไทยอยากเลือกตั้ง
ดังนั้น เมื่อวันเลือกตั้งคือวันที่ 24 มีนาคมมาถึง จึงคาดหวังกันว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งนับล้านคนจะออกไปใช้สิทธิอย่างคึกคัก
เพื่อประกาศเจตนารมณ์ของตัวเองต่อการบริหารประเทศ
เพื่อเลือกตัวแทนของตัวเองเข้าไปทำงานในสภา ซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ และมีส่วนในการเลือกนายกรัฐมนตรี
แม้ที่ผ่านมาจะปรากฏผลโพลและมีการคาดการณ์กันไปต่างๆ นานาถึงผลการเลือกตั้งที่จะปรากฏ
ทุกอย่างเป็นเพียงแค่การประเมิน
แต่วันที่ 24 มีนาคม วันเลือกตั้งนี้จะเป็นวันที่จะพิสูจน์ว่าผลโพลและการคาดการณ์ต่างๆ ก่อนหน้านี้นั้นเป็นเจตนารมณ์ของประชาชนจริงหรือไม่
ผลการเลือกตั้งที่จะปรากฏเป็นคะแนนต่างหากที่จะแสดงเจตนารมณ์ของคนไทย
เจตนาที่จะชี้ชะตาของประเทศ
หลังจากวันที่ 24 มีนาคม คงได้เห็นว่า ประเทศไทยจะเดินไปทิศทางใด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image