“สุวัจน์” ปักหลักโคราชหาเสียงวันสุดท้าย ชู สูตรตั้งรบ.สลาย 3 ขั้ว จับมือรวม 300 เสียง สร้างเสถียรภาพทางการเมือง

“สุวัจน์” ปักหลักโคราชหาเสียงวันสุดท้าย ชู สูตรตั้งรบ.สลาย 3 ขั้ว จับมือรวม 300 เสียง สร้างเสถียรภาพทางการเมือง

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 23 มีนาคม ที่จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) พร้อมด้วย นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าชพน. และนพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาชพน.ลงพื้นที่ตลาดกิมเฮง เพื่อช่วยนายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้สมัครส.ส. เขต 1 จ.นครราชสีมา หาเสียงเป็นวันสุดท้าย โดยนายสุวัจน์ กล่าวถึงทิศทางการเมืองหลังเลือกตั้ง 24 มีนาคม ว่า ต้องรอคำตอบจากพี่น้องประชาชน เช่นเดียวกับจุดยืนทางการเมืองพรรคก็ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง โดยชพน.พร้อมเป็นฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล แต่สิ่งสำคัญเราไม่ต้องการเห็นการเมืองเผชิญหน้ากันอีกแล้ว อยากเห็นการเมืองนิ่งเรียบร้อย ดังนั้นหลังเลือกตั้งทุกพรรคการเมืองต้องหันหน้าเข้าหากัน ส่วนฝ่ายใดจะจัดตั้งรัฐบาล หรือ รวบรวมเสียงข้างมากขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง

 

Advertisement

นายสุวัจน์ กล่าวว่า วันนี้แนวโน้มพรรคการเมืองจะมีขั้วใหญ่ 3 พรรค สูตรการจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวคงเป็นไปได้ยาก แนวโน้มจะเป็นรัฐบาลผสม สิ่งสำคัญในการบริหารประเทศ คือเสียงสภาล่าง 500 เสียงเป็นหลัก หากได้รัฐบาลเสียงข้างน้อย หรือเสียงปริ่มๆ 251 เสียง การบริหารงานในสภาย่อมเป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะมีกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวกับประโยชน์ของพี่น้องประชนจำนวนมาก เช่น พ.ร.บ.งบประมาณ หรือ กฎหมายสำคัญอื่นๆ หากเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย อาจไม่ครบองค์ประชุม แต่ควรเป็นรัฐบาลที่มีเสียงเกือบๆ 300 เสียง กำลังเหมาะสม ในการสร้างสมดุลระหว่างฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้านทำหน้าที่ได้ และ ฝ่ายรัฐบาลสามารถบริหารประเทศ และต่างชาติให้ความเชื่อมั่นในเสถียรภาพทางการเมืองไทย

“อยากเห็นพรรคการเมืองหันหน้าเข้าหากัน ควรมาพูดคุยกัน ไม่ใช่ไม่มองหน้ากัน แต่ควรเปิดประตูแย้มๆไว้บ้าง การเมืองจะได้ไม่ติดเดต-ล็อก ไร้ทางออกบ้านเมืองเดินต่อไม่ได้ ไม่มีรัฐบาล หรือแม้จะมีรัฐบาล แต่เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ก็บริหารประเทศลำบาก ต่างชาติไม่เชื่อมั่นเสถียรภาพการเมืองไทย อยากจะเป็นแบบนั้นกันหรือ ดังนั้นพรรคการเมืองต้องหันหน้าเข้าหากันเพื่อให้มีรัฐบาลมีเสถียรภาพ” นายสุวัจน์ กล่าว และว่า สำหรับเรื่องการซื้อสิทธิ์ในคืนหมาหอน คืนวันที่ 23 มีนาคมนี้นั้น คงเป็นหน้าที่ของคณะการการเลือกตั้ง(กกต.) ต้องเข้มงวดให้เป็นไปตามกฎหมาย พร้อมกับกำชับผู้สมัคร ส.ส.พรรคทุกคนเล่นตามกติ ไม่มีการซื้อเสียง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image