เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 25 มีนาคม ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค พปชร. เปิดเผยว่า จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อหารือถึงผลการเลือกตั้ง ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะประกาศในเวลา 14.00 น. พร้อมกับหารือว่าพรรค พปชร.จะมียุทธศาสตร์ในการเดินหน้าอย่างไรบ้าง ซึ่งถือเป็นก้าวต่อไป หลังจากที่ประชาชนได้ลงคะแนนเลือกตั้งแล้ว ทั้งนี้ เสียงของประชาชนคือสิ่งที่จะบอกว่าอยากเห็นประเทศไทยเดินหน้าไปอย่างไร และแต่ละพรรคการเมืองได้รับการสนับสนุนมากน้อยเพียงใด โดยหลังจากที่ได้ทราบเสียงของประชาชนแล้ว ผู้บริหารพรรค พปชร.จะไปพูดคุยกับพรรคการเมืองที่มีแนวความคิด อุดมการณ์ จุดร่วมแบบเดียวกัน เพื่อเดินหน้าประเทศต่อไป ซึ่งจะใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากผลการเลือกตั้งครั้งนี้มีคะแนนสูสีกันมาก จึงต้องใช้เวลาในการเจรจา เพื่อร่วมจัดตั้งรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถึงขณะนี้พรรค พปชร.จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ นายกอบศักดิ์กล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิรวมเสียงให้ได้เพียงพอเกินกว่า 250 เสียง เพื่อจัดตั้งรัฐบาลต่อไป อย่างไรก็ตาม จะต้องรอผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจาก กกต.ก่อน เพื่อจะได้ทราบจำนวน ส.ส.ที่เป็นจริง
“จากนั้นจึงจะรู้ว่าเราจะรวมกับพรรคการเมืองใดได้บ้าง เพื่อให้ได้ ส.ส. 251 คนขึ้นไปจัดตั้งรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังถือว่าเร็วเกินไปที่จะตอบว่าเราจะจับมือกับพรรคใดบ้าง แต่การเป็นรัฐบาลอย่างน้อยเราต้องมี ส.ส. 251 เสียง เพราะการแถลงนโยบาย หากไม่มี 251 เสียง ก็จะไม่สามารถดำเนินการได้ นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ซึ่งจะไม่สามารถผ่านได้เลยหากไม่มี 251 เสียง พรรคจึงต้องดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อรวม 251 เสียงให้ได้” นายกอบศักดิ์กล่าว
เมื่อถามว่า คะแนนป๊อปปูลาร์โหวตที่พรรค พปชร.ได้มากที่สุด จะถือว่าชอบธรรมในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ นายกอบศักดิ์กล่าวว่า การที่เราได้คะแนนป๊อปปูลาร์โหวตมาเป็นอันดับหนึ่ง แสดงว่ากลุ่มพลังเงียบเลือกเรา คิดว่าคะแนนเหล่านี้จะช่วยให้เรามีความเหมาะสมและเดินหน้าในเรื่องดังกล่าวได้ และนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค ได้ย้ำหลักการของพรรคอย่างต่อเนื่องว่า ทุกพรรคมีสิทธิเดินหน้ารวมเสียงข้างมากเพื่อจัดตั้งรัฐบาลได้
เมื่อถามอีกว่า ตอนนี้ได้มีการทาบทามพรรคการเมืองอื่นแล้วหรือยัง นายกอบศักดิ์กล่าวว่า มีคนโทรมาแสดงความยินดีแล้ว และจะมีการหารือในเบื้องต้น แต่เนื่องด้วยการเลือกตั้งครั้งนี้มีความซับซ้อน จึงเชื่อว่าภายหลัง กกต.แถลงผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว ทุกอย่างก็จะมีความชัดเจนว่าเราจะจับมือกับพรรคการเมืองใดบ้าง
“ส่วนที่มีการเรียกร้องให้มีการนับคะแนนใหม่ในหลายเขตเลือกตั้งนั้น ส่วนตัวไม่ได้กังวลว่าจะกระทบต่อคะแนนเสียงโดยรวมของพรรค เพราะในหลายประเทศ หากคะแนนแพ้ชนะกันเพียงร้อยละ 0.5 ก็จะให้มีการนับใหม่ เรายินดีน้อมรับคำตัดสินของ กกต. พร้อมกับดำเนินการเรียกร้องให้ กกต.ดำเนินการให้มีความกระจ่าง หากพบว่ายังคลุมเครือ เช่น บางเขตเลือกตั้งที่คะแนนห่างกันในหลักร้อย ก็ขอให้มีการนับคะแนนใหม่ เป็นต้น” นายกอบศักดิ์กล่าว