‘พิชัย’ แนะ ‘ปชป.’ หนุน ‘เพื่อไทย’ ชี้โดนคนกรุงสั่งสอน ห่วงวิกฤตตั้งรัฐบาล

‘พิชัย’ ห่วงวิกฤตตั้งรัฐบาล ปชป.ตกที่นั่งลำบาก ชี้โดนคนกรุงสั่งสอน ไร้เอกภาพ แตกเป็นก๊กเหล่า หนุนทำตามกติตา ส.ส.มากสุดตั้งรัฐบาล ชื่นชม ‘ อนุทิน’ นิ่งเหมือนขงเบ้ง’ ปลื้ม ‘อนาคตใหม่’ ความคิดก้าวหน้า

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม นาย พิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ ‘มติชนออนไลน์’ ถึงประเด็นสถานการณ์พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งได้คะแนนเสียงจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคมไม่เป็นไปตามความคาดหวังของพรรค ว่าตนไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคมา 10 กว่าปีแล้ว จึงไม่ทราบความเป็นไปอย่างลึกซึ้ง ถามว่าปชป.ตอนนี้เป็นอย่างไรในฐานะคนนอก อยากบอกว่าในช่วงหลังนายอภิสิทธิ์ทำงานดีขึ้นแยะ มากกว่าตนที่ตนยังอยู่ แต่น่าเสียดายที่ผลการเลือกตั้งออกมาเป็นอย่างนี้ อย่างไรก็ตามไม่คิดว่าประชาชนลงโทษปชป. แต่ผิดหวังในปชป. ที่ไม่มีเอกภาพ ในขณะเดียวกันก็มีพรรคใหม่ๆขึ้นมา อย่าง ‘อนาคตใหม่’

“ผมสงสารประชาธิปัตย์มาก ความเสียใจ ความสลดใจย่อมมี แต่มองเห็นถึงความพยายามของคุณอภิสิทธิ์ และขอชมเชยสปิริตในการลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค
อุดมการณ์ของปชป.ตั้งแต่ก่อตั้งมาคือต้านเผด็จการ ซึ่งผมปลื้มใจมากที่ปชป.ยังยืนหยัดหลักการนี้ แม้จะต้องแพ้จากการยืนหยัดนี้ก็ไม่น่าเสียใจอะไร ระยะหลังทำไมปชป.ได้คะแนน้อย ความเป็นเอกภาพของปชป.ในระยะหลังขาดไป มีความขัดแย้งภายใน การเลือกหัวหน้าพรรคเมื่อเร็วๆนี้ก็ดี แสดงให้เห็นการแบ่งเป็นพรรคเป็นพวกเป็นกลุ่มเป็นก้อน ถ้าหากในพรรคไม่มีเอกภาพจะหวังต่อสู้คนอื่นไม่ได้ เชื่อว่าประชาชนยังรักปชป.โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ แต่คราวนี้อยากสั่งสอนบ้าง ว่าการยึดหลักปรัชญาเดิมนั้นดีแล้ว แต่การเบาะแว้ง เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ แล้วตอนนี้มีพรรคใหม่ๆ คนหนุ่มสาว คือ อนาคตใหม่ เป็นกลุ่มที่มีความคิดอ่านก้าวหน้า มีอุดมการณ์ เหมือนปชป.ตอนตั้งพรรคใหม่ๆ หัวหน้าพรรคบริหารงานเป็นซึ่งเป็นสิ่งที่อภิสิทธิ์ขาด” นายพิชัยกล่าว

สำหรับประเด็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ นายพิชัยมองว่า จุดสำคัญอยู่ที่การเปลี่ยนผ่าน มองว่าช่วงนี้คนที่จะดูแลได้คือ นายชวน หลีกภัย และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน 2 คนนี้เท่านั้นที่ตนเห็นว่าจะพึ่งพาได้ เมื่อเปลี่ยนผ่านแล้ว เลือกตั้งใหม่มึเป็นหัวหน้าพรรคก็อีกเรื่องหนึ่ง สิ่งที่ปชป.ต้องแก้ไขเร่งด่วนคือ 1. เอกภาพ ความขัดแย้งที่แบ่งเป็นหลายก๊ก ไม่ใช่แค่ก๊กเดียว 2. นายอภิสิทธิ์ ระหว่างที่ยังไม่มีการเลือกตั้ง ไม่รู้จักพบปะ เข้าหาผู้คน ไม่ได้คลุกคลีประชาชนโดยเฉพาะในภาคอีสาน

Advertisement

นายพิชัยกล่าวอีกว่า กรณีนายกรณ์ จาติกวณิช บอกว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะจับมือกับเพื่อไทย ก็เป็นสิ่งที่นายอภิสิทธิ์เคยพูด ตนมองว่าบ้านเมืองเราตอนนี้ที่กำลังจะก่อตั้งรัฐบาล แม้ตัวเลขยังไม่นิ่ง แต่เกิดสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง ทำให้มองอนาคตมืดไปหมด ไม่รู้จะตั้งรัฐบาลอย่างไร ถ้ายึดมั่นอย่างนายกรณ์ว่าจะไม่เอาพรรคเพื่อไทย ก็ไม่มีทาง ในขณะเดียวกันนายอภิสิทธิ์บอก ไม่เข้ากับทหาร แล้วจะทำอย่างไรต่อไป จะวางตัวอย่างไร ตนยังมองไม่เห็นทาง ส่วนตัวมองว่าพรรคภูมิใจไทยฉลาดมาก เงียบ เหมือนขงเบ้ง อยู่บนเขา รอคอยคนมาหา ตนไม่รู้จักนายอนุทิน ชาญวีรกูลเป็นการส่วนตัว แต่รู้สึกได้ว่าเป็นคนวางตัวดี คิดว่าภูมิใจไทย และปชป. เป็น ‘คิงเมกเกอร์’ คือ คนที่จะทำให้ความสำเร็จเกิดขึ้นหรือไม่ อยู่ที่ 2 พรรคนี้ ถามว่า ปชป.จะทำอย่างไร หากกล่าวตามหลักการแล้ว พรรคที่มี ส.ส. มากที่สุด ตัองเป็นคนริเริ่มจัดตั้งรัฐบาล นี่คือสิ่งที่ปชป.ปฏิเสธไม่ได้

“ขณะนี้พรรคเพื่อไทย มีส.ส.มากที่สุด แต่อภิสิทธิ์บอกไม่เอา อย่างนั้นก็ตั้งไม่ได้ พรรคพลังประชารัฐป๊อปปูลาร์โหวตสูงสุด แต่จำนวน ส.ส.น้อยกว่า ผิดหลักการที่จะเป็นคนตั้งรัฐบาล หลักการคือเราจะต้องสนับสนุนพรรคที่มี ส.ส.มากที่สุด ผมยึดหลักการประชาธิปไตย ตามอุดมการณ์พรรคประชาธิปัตย์ ปชป.ต้องสนับสนุนพรรคเพื่อไทย เรื่องเก่าๆ เรื่องคนต่างประเทศเป็นอีกเรื่อง ต้องยึดตามกฎหมาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องแล้วแต่ทางพรรค ตอนนี้มองว่าการตั้งรัฐบาลอยู่ในภาวะวิกฤต ปชป. อยู่ในฐานะลำบากเหลือเกิน จะเลือกพรรคตามอุดมการณ์ของตัวเอง คือ เลือกพรรคที่ได้ ส.ส.มากที่สุดก็เป็นพรรคเพื่อไทย ซึ่งตัวเองก็ไม่เอา หันหน้าไปอีกทาง คือ พปชร. ตัวเองก็เคยบอกไว้ว่าจะไม่ร่วมกับทหาร” นายพิชัยกล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image