คาดการณ์กันไว้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่า เลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 จะยุ่ง หรือไม่ยุ่ง สงบ หรือไม่สงบ เสรี และเป็นธรรมหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับ “การทำหน้าที่” ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
จนในที่สุด เลือกตั้ง “24 มีนา 62” ก็ได้กลายเป็นผลงานชิ้นประวัติศาสตร์ของ “กกต.” ชุดนี้
ผลงานของ กกต.ชุดนี้เริ่มส่อแววตั้งแต่มีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่ง “กกต.” ไม่รอที่จะตอบคำถามค้างคาใจใดๆ แต่กลับพากันบินไปดูงานในต่างประเทศ ใช้เงินงบประมาณสิ้นไปถึง 12 ล้านบาท ทั้งๆ ที่เหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเลือกตั้ง
คงจะคิดกันเอาเองว่า “7 เสือ กกต.” มีอยู่เพื่อ “สั่ง”
กำหนดนโยบายให้แล้ว ส่วนที่เหลือ “ฝ่ายประจำ” ก็ทำไป
จรุงวิทย์ ภุมมา จึงต้องโดดเดี่ยวเดียวดายกลางเกลียวคลื่น
เมื่อเผชิญกับสถานการณ์จริงที่เต็มไปด้วยสารพันปัญหา “ประธาน กกต.” ก็เลยไปไม่เป็น จนถึงกับหลุดวลี “ผมไม่มีเครื่องคิดเลข”
เป็นคำตอบที่ชวนขำ และขมขื่น !
“กกต.” คิดว่าคุณคือใคร ?
เป็นเจ้าใหญ่นายโตมาจากไหนหรือ
ผู้คนกำลังเคลือบแคลงสงสัย ไถ่ถามเพื่อหาความกระจ่าง บัตรเสียทำไมมีมากมายเป็นล้านๆ คนตายทำไมมีชื่อในบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ชื่อของลูกที่ยังอยู่ชั้นอนุบาลโผล่มาได้อย่างไร จำนวนผู้มาใช้สิทธิทำไมมีมากกว่าชื่อของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
มาตรฐานบัตรเสีย-บัตรดี ที่ “กกต.” กำหนดคืออย่างไร
ทำไมกับพรรคหนึ่งได้ แต่กับอีกพรรคหนึ่ง-ไม่ได้
ปัญหาท่วมหัวเกิดจากความไม่พร้อม
จึงชวนให้สงสัยว่าใช้งบประมาณไปกว่า 5,800 ล้านบาท “กกต.” สามารถจัดการเลือกตั้งให้มีปัญหามากมายอลังการได้ขนาดนี้เชียวหรือ
วิเคราะห์ด้วยสายตาสุจริตและเป็นธรรม “กกต.” ชุดนี้ นอกจากอ่อนประสบการณ์แล้ว ยังไม่ขวนขวายใส่ใจ
ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์-10 มีนาคม “7 เสือ กกต.” เลือกที่จะเบิกเงินแผ่นดิน 12 ล้านบาท เดินทางไปดูการใช้สิทธิเลือกตั้งของคนไทยในต่างประเทศ
ล้วนแต่เป็นประเทศที่น่าไป ทั้งสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ และสิงคโปร์
แทนที่จะศึกษาค้นคว้าตระเตรียม ประชุมวิเคราะห์คาดการณ์ล่วงหน้าถึงลักษณะของปัญหา
เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาจึงไปไม่เป็น
แต่ก็ยังอยากจะ “เป็น” และไปต่อ !?!!
