เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 28 มีนาคม คณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราสถลมารค ทำการฝึกซ้อมริ้วขบวนที่ 3 ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ พยุหยาตราสถลมารคเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก แบบรวมการเป็นครั้งที่ 2 ณ ลานอเนกประสงค์ กรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ที่ 11 ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร (ทม.ร.11 รอ.)
โดยมีกำลังพลที่ร่วมฝึกซ้อม ประกอบด้วย หน่วยเฉพาะกิจกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ หน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 กรมสรรพาวุธทหารบก กรมพลาธิการทหารบก หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กรมขนส่งทหารบก นักเรียนเตรียมทหาร กองทัพเรือ ตำรวจม้า ผู้แทนจากสำนักพระราชวัง เป็นต้น โดยหน่วยทหารมหาดเล็กฝึกการแบกหามพระราชยาน, หน่วยพลาธิการทหารบก หน่วยป้องกันภัยทางทหาร ฝึกถือเครื่องสูง, นักเรียนเตรียมทหารฝึกตีกลองชนะ, กรมสรรพาวุธทหารบกฝึกแบกกลองมะโหระทึก นอกจากนี้ยังมีทหารกองเกียรติยศ จากหน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 และชุดจิตอาสาเฝ้าฯรับเสด็จ ร่วมฝึกซ้อมด้วย
ต่อมาเวลา 11.00 น. พลเอกณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พลเอกพรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด, พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก, พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ, พลอากาศเอกชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผู้บัญชาการทหารอากาศ และพลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะกำกับกลุ่มอำนวยการริ้ว ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและร่วมฝึกซ้อม ขณะที่พลเอกอภิรัชต์ ได้ร่วมฝึกซ้อมในริ้วขบวนในตำแหน่งแถวแซงเสด็จด้วย
ภายหลังการฝึกซ้อม พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญจศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า ในวันนี้เป็นวันที่กำลังพลทุกกองการเดินได้มาร่วมในการฝึกซ้อมริ้วขบวนที่ 3 ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ พยุหยาตราสถลมารคเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งผลการฝึกซ้อมในทุกริ้วขบวนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีการพัฒนาไปมากในเรื่องของความพร้อมเพรียงและความประสานสอดคล้องในแต่ละส่วนราชการ ช่วงต่อจากนี้ไปทางกองอำนวยการฯ จะยังคงซักซ้อม ณ ลานอเนกประสงค์ กรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ที่ 11 ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร (ทม.ร.11 รอ.) และจะทำการซักซ้อมภายนอกในพื้นที่จริง วันที่ 17, 21 และ 28 เม.ย. โดยในห้วงของการฝึกซ้อมภายนอกขอเชิญชวนประชาชนที่มีความสนใจสามารถไปร่วมสังเกตการณ์การซักซ้อมได้
ด้านการดูแลรักษาความปลอดภัย ผบ.ทสส. กล่าวว่า เนื่องจากเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครเป็นเส้นทางที่อาจจะผ่านในตำบลและจุดเส้นทางที่คับขัน ในเบื้องต้นทางผู้เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้มีการตรวจพื้นที่ และเตรียมการในการรักษาความปลอดภัยไว้อย่างเรียบร้อย ส่วนในเรื่องของสถานการณ์ข่าวซึ่งมีส่วนหนึ่งส่วนใดที่อาจจะกระทบในห้วงพระราชพิธี ก็มีหน่วยงานต่างๆ ได้ดำเนินการอย่างพร้อมเพรียง ตลอดจนขอความร่วมมือจากประชาชนคนไทยทุกคน ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวหากมีข้อมูล ข่าวสารใดๆ ก็ตาม ที่ทำให้เกิดประโยชน์และป้องกันไม่ให้ห้วงพระราชพิธีเกิดความเสียหาย ก็ขอให้แจ้งในส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การฝึกซ้อมวันนี้เป็นการจำลองพื้นที่ในการเดินริ้วขบวนที่ 3 ซึ่งเป็นริ้วขบวนที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จขึ้นประทับบนพระราชยานพุดตานทอง และเป็นริ้วขบวนที่ยาวที่สุด โดยเสด็จพระราชดำเนินไป 3 วัด ได้แก่ วัดบวรนิเวศวิหาร, วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ตามลำดับ เพื่อทรงนมัสการพระพุทธปฏิมาประธาน และพระบรมราชสรีรางคาร ทั้งนี้เส้นทางเสด็จฯ ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาร่วม 4 ชั่วโมง 30 นาที และขบวนเสด็จฯ จะเริ่มเวลา 16.30 น. โดยประมาณ ในวันที่ 5 พฤษภาคม ส่วนช่วงบ่ายเป็นการฝึกเปลี่ยนพลแบกหาม ทั้งแบบอยู่กับที่และเดินระยะสั้น
สำหรับกำหนดการฝึกซ้อมครั้งต่อไป จะมีขึ้นในวันที่ 17,21 และ 28 เมษายน ซึ่งเป็นการซ้อมรวมทั้ง 3 ริ้วขบวนในพื้นที่จริง ประกอบด้วย ริ้วขบวนที่ 1 ริ้วขบวนแห่พระสุพรรณบัฏ ดวงพระราชสมภพ และพระราชลัญจกร, ริ้วขบวนที่ 2 ริ้วขบวนราบใหญ่ และริ้วขบวนที่ 3 ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ พยุหยาตราสถลมารคเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร ทั้งนี้ ตลอดทั้ง 3 วันจะมีการนำยุทธภัณฑ์ซึ่งสำนักพระราชวังได้ทำการซ่อมบูรณะสำหรับใช้ในพระราชพิธี อาทิ พระแสงกระบี่หัวคชสีห์, กระบี่และหอกประกอบเครื่องแบบกรมพระตำรวจหลวง และทวนสำนักพระราชวัง มาร่วมซ้อมในริ้วขบวนด้วย และหลังจากนั้นจึงเข้าสู่ห้วงเวลางานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
