สถานีคิดเลขที่ 12 : หมู หนู ปลาไหล แมลงสาบ และ ต้นส้ม

(ดาลใจจาก Animal Farm ของจอร์ช ออร์เวลล์ นิยายและนิทานหลายเรื่อง หลังอ่าน หนูกับราชสีห์ ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวางแผงขณะนี้)

…ท่านผู้นำหมู นโปเลียน
อุตส่าห์ ปฏิวัติโค่นล้มตะเพิด นายโจนส์ ออกจาก “แมนเนอร์ฟาร์ม” ได้สำเร็จ
อุตส่าห์ ขจัดศัตรูสัตว์อย่าง เป็ด ไก่ หมา ลา แพะ ลงราบคาบ
อุตส่าห์โค่น เพื่อนร่วมพันธุ์ “หมู” ลงทีละตัวๆ จนหมดเสี้ยนหนาม
อุตส่าห์ ค่อยๆ ดีไซน์ รัฐธรรมนูญของสรรพสัตว์ ที่เคยบัญญัติ “7 สิ่งต้องห้าม 1 คติพจน์” ให้เป็นไปตามความต้องการของตน
เช่นห้ามสัตว์ไม่ให้นอนบนเตียง ก็ไปเพิ่มข้อความ “พร้อมสิ่งปกคลุม” เข้าไป
จะต้องไม่ฆ่าสัตว์ด้วยกันเอง ก็เพิ่มข้อความ “โดยไร้เหตุผล” เข้าไป
จะต้องไม่ดื่มเหล้า ก็เพิ่มข้อความ “มากเกินไป” เข้าไป
สัตว์ทุกตัวมีความเท่าเทียมกัน ก็เพิ่มข้อความ “แต่สัตว์บางตัวมีความเท่าเทียมมากกว่าสัตว์อื่นๆ”
เป็นต้น

จากนั้นก็เปลี่ยนคติพจน์ “สี่ขาดี สองขาเลว”
เป็น “สี่ขาดี สองขาดีกว่า”
แล้วท่านผู้นำหมู ก็พร้อมจะเดิน “สองขา” เข้าไปเสพสุขในบ้าน
แต่ทันใดนั้น
เมล็ดถั่ว เอ้ย “ส้ม” ซึ่งได้ฮอร์โมน “รุ่นใหม่” กระตุ้น
ทำให้ “โตพรวดพราด”
ปิดทางเข้าบ้าน-ขวางท่านผู้นำ เฉยๆ เสียอย่างนั้น
ไม่ใช่ “ต้นส้มแสนรัก” ของใครอีกต่อไป

จำต้องหาทางโค่นกันอลหม่าน ซึ่งไม่ง่าย
เพราะจากที่เชื่อว่าจะโตไม่เกิน 5-10 นิ้ว แต่พริบตาเดียวขึ้นไปกว่า 80 ฟุต
ตอนนี้ ต้องเอาป้ายไปแขวนอย่างหวาด-หวาด ว่าเป็น “พืชอันตราย”
รากอาจไป “บั่นเซาะ-ทำลาย” ความมั่นคงของตัวบ้านให้พังทลายลงได้
จำเป็นจะต้องตัดและคุมกำเนิดเอาไว้ให้ได้
แต่เมื่อยังหาอุปกรณ์ ถนัดมือ ยังไม่ได้
จึงต้องหันไปพึ่งตัวช่วย “ใหม่ๆ”
แม้ตัวช่วยเหล่านั้นจะน่ารังเกียจ
แต่ก็ไม่มีทางเลือก

Advertisement

สัตว์ตัวแรกที่หันไปพึ่ง คือ “หนู”
ที่นอกจากจะช่วยกัดราก กัดโคน ต้นส้ม ได้แล้ว
ยังสามารถ วิ่งเลี้ยวลดคดเคี้ยวไปตามรู หรือช่องทางต่างๆ ของในและนอกบ้านได้
ซึ่งอาจทำให้พบ “รูโหว่” ให้ท่านผู้นำพอจะเบียดตัวเข้าไปในบ้านได้เป็นการเฉพาะหน้าก่อน
แต่กระนั้น จะใช้หนูง่ายๆ ไม่ได้ เพราะ “หนู” เองก็ฉลาดเจ้าเล่ห์ มากด้วยข้อต่อรอง
เพื่อที่จะได้เข้าไปอยู่ในบ้านอย่างถาวรและใหญ่ สมภาคภูมิด้วย
ยิ่งกว่านั้น “หนู” ยังมีตัวเลือกอื่นด้วย คือมีบางขั้วที่หวังพึงบริการหนูเช่นกัน
ดังนั้น ต่างฝ่ายต่างคงต้องยื่นข้อเสนอให้ “หนู” พอใจด้วย

นอกจาก “หนู” แล้ว “ปลาไหล” ก็เป็นอีกตัวช่วยหนึ่ง
แม้ว่าปีนี้น้ำจะแล้ง “ปลาไหล” ตัวจึงเล็กหน่อย เรี่ยวแรงที่จะมุดดินโคลนมีไม่มาก
แต่สัญชาติปลาไหลที่เลี้ยวลดหาทางไปได้เรื่อยๆ ก็เป็นสิ่งจำเป็น เผื่อจะนำทางไปเจอทางเข้าบ้านได้
อีกตัวหนึ่ง คือ “แมลงสาบ” ที่แม้ตอนนี้ จะถูกมองว่าเป็น “แมลงป่วย” ด้วยพลาดไปยืนตรงที่ต้นส้มโตพรวดพราด
ทำให้ดิน ก้อนหิน กระเด็นกระดอนเข้าใส่จน บาดเจ็บสาหัส
แต่กระนั้น อย่างที่ทราบ แมลงสาบมีความพิเศษตรงที่มีสัญชาตญาณแห่งการเอาตัวรอดสูง
มีภูมิคุ้มกันที่จะช่วยให้ “ไม่ตายง่ายๆ”
ตอนนี้กำลังชำระล้างแผล และพร้อมจะงอก “อวัยวะใหม่” ออกมา
รวมทั้งมีแรงกระตุ้นจากบางฝ่ายให้ตัดสินใจเข้าไปช่วยท่านผู้นำ

แม้ทั้ง แมลงสาบ ซึ่งอาจจะรวมถึง ปลาไหลและหนู
จะรู้ดีว่าถึงท่านผู้นำจะกระเสือกกระสนเข้าไปในบ้านได้
ก็คงมีสภาพไม่ต่าง “หมูง่อย” สักเท่าไหร่
นิทาน จบ ไม่ลง เพราะยังละล้าละลังกันอยู่

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image