‘พิชัย’ ห่วงเลือกตั้งไม่โปร่งใสฉุดเศรษฐกิจทรุด แนะเร่งสร้างความน่าเชื่อถือก่อนประเทศจะวุ่นวาย

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวว่า ตามที่ได้เคยเตือนตั้งแต่การเลือกตั้งล่วงหน้าที่มีปัญหาความโปร่งใสแล้ว ปรากฏว่าการเลือกตั้งใหญ่กลับมีปัญหามากขึ้นไปอีก ตั้งแต่การประกาศจำนวนผู้ลงคะแนนที่มีเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ จากเดิมที่บอกมีผู้มาใช้สิทธิ 65.96% เพิ่มเป็น 74.69% หรือเพิ่มขึ้นกว่า 4.49 ล้านคน อย่างไม่มีเหตุผล และ เป็นการแถลงของ กกต.เอง ซึ่งใช้เวลาหลายวันกว่าจะแถลงได้ ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาแล้วว่าบัตรลงคะแนนมีมากกว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิ เลยไม่แน่ใจว่ามีการเพิ่มผู้มาใช้สิทธิให้เท่ากับบัตรใช่หรือไม่ จนมีศัพท์ใหม่ว่า “บัตรเขย่ง” ทั้งนี้ ยังไม่นับปัญหาอื่นๆ อีกมากที่มีหลักฐานชัดเจน เช่น คลิปการนับคะแนนโดยไม่โชว์บัตร คลิปการนับบัตรดีบัตรเสียของแต่ละพรรคต่างกัน คลิปที่นายทหารเข้าไปมองและกำกับการลงคะแนนของพลทหาร หรือแม้กระทั่งจำนวนผู้มีสิทธิในการเลือกตั้งทั้งประเทศของ กกต. ที่ต่างกัน 34,000 คน ในการแถลงสองครั้ง สร้างความสงสัยอย่างมากแก่ประชาชน จนทำให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่มีความน่าเชื่อถือเหลืออยู่แล้ว ขนาดมีประชาชนเข้าชื่อกันแล้วกว่า 8 แสนรายแล้วที่จะขอปลด กกต. ชุดนี้เพราะความไม่โปร่งใส อีกทั้งเริ่มมีการชุมนุมเพื่อเพิ่มรายชื่อปลด กกต. และโพลสำรวจก็พบว่า ประชาชนไม่มีความเชื่อถือ กกต.อีกต่อไป มีประชาชนเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้บริสุทธิ์เพียง 7.02% เท่านั้น การที่ผู้นำเหล่าทัพต้องออกมาเรียกร้องให้ประชาชนเชื่อใจ กกต. ยิ่งตอกย้ำว่า กกต.ไม่มีความน่าเชื่อถืออีกต่อไปแล้ว และก็ไม่แน่ใจว่าเหตุใด ผู้นำเหล่าทัพจึงต้องออกมาเรียกร้องให้ประชาชนเชื่อใจ กกต. ถ้า กกต. ไม่ได้ทำอะไรผิด ซึ่งเชื่อว่าเมื่อเวลาผ่านไปน่าจะมีความผิดปกติของการเลือกตั้งเพิ่มขึ้นอีกมาก จนน่าจะเป็นการเลือกตั้งที่มีความผิดปกติมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ทั้งนี้ นานาชาติก็ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด

โดย สหรัฐ อังกฤษ และอียู ก็ได้แถลงการณ์เรียกร้องให้มีความชัดเจนโปร่งใสในการเลือกตั้งครั้งนี้ และจากสภาวะที่เป็นอยู่จะทำลายความเชื่อมั่นของประเทศทำให้ประเทศไทยหมดความน่าเชื่อถือในสายตาของนานาชาติ และจะทำให้เศรษฐกิจไทยย่ำแย่ลงไปอีก ประชาชนจะยิ่งลำบาก ในขณะที่ทั้งโลกกำลังกังวลกับ Yield Curve Inversion ที่ผลตอบแทนการฝากเงินในระยะยาวกลับน้อยกว่าผลตอบแทนในการฝากเงินในระยะสั้น ซึ่งเป็นสัญญาณว่าอาจจะทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยของทั้งโลกได้ แต่ไทยกลับยังไม่สามารถก้าวพ้นภาวะปัญหาการเมืองภายในประเทศที่ยาวนานมากว่า 10 ปีแล้วได้ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยทรุดต่อเนื่องต่อไป ดังนั้น จึงอยากเรียกร้องให้สร้างความโปร่งใส และสร้างความเชื่อมั่นใจให้กลับมาโดยเร็ว เพื่อไม่ให้ประเทศไทยต้องเกิดความวุ่นวายทางการเมือง และจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยย่ำแย่ยิ่งกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image