แกนนำ ชพน.ถกบทเรียนคว้า 3 ที่นั่ง ‘สุวัจน์’ ห่วงเสถียรภาพ รบ.ใหม่ ชี้ต้องทะลุ 300 เสียง

แกนนำ ชพน.ถกบทเรียนคว้าแค่ 3 ที่นั่ง ‘สุวัจน์’ ห่วงเสถียรภาพ รบ.ใหม่ ชี้ต้องทะลุ 300 เสียง ห่างกัน 5-10 ถือว่าเปราะบางมาก กระทบ ศก.แน่ 

เมื่อวันที่ 1 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) นำโดยนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค นายดล เหตระกูล เลขาธิการพรรค, นายสุวัจน์ ลิปตพัลล ประธานที่ปรึกษาพรรค, นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรค และผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรค นัดหารือที่บ้านเลขที่ 333 ถนนราชวิถี ซอย 22 เพื่อพูดคุยพร้อมประเมินผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นเวลานานกว่า 2 ชั่วโมง

นายสุวัจน์ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ยอมรับว่า 3 ที่นั่งอย่างไม่เป็นทางการ จาก ส.ส.เขต 1 และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 2 คนนั้น ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ และยอมรับผลและกระบวนการจัดการเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดังนั้น พรรคจะไม่มีข้อโต้แย้งหรือให้ความเห็นใดๆ ต่อการทำหน้าที่ของ กกต. แม้ว่าสังคมจะวิจารณ์การทำงาน รวมไปถึงการล่ารายชื่อประชาชนเพื่อถอดถอน กกต.ออกจากตำแหน่ง ส่วนที่หลายฝ่ายไม่ให้ความเชื่อถือต่อ กกต.​ในกระบวนการจัดการเลือกตั้งที่ผ่านมา คิดว่า กกต.ในฐานะเป็นกรรมการในการเลือกตั้งต้องชี้แจงต่อสาธารณะให้ชัดเจน

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีใครมาทาบทาม 3 ที่นั่งของ ชพน.หรือไม่ นายสุวัจน์กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยว่าจะจับมือร่วมงานกับพรรคการเมืองใด เพราะผลการเลือกตั้งยังไม่ชัดเจน คะแนนของการจับขั้วทางการเมืองก็ยังสูสีกันมาก ต้องดูผลอย่างเป็นทางการจากทาง กกต. โดย ชพน.ไม่ห่วงว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือเป็นรัฐบาล แต่ที่ห่วงตอนนี้คือ การเมืองหลังจากนี้ เพราะทุกคนคาดหวังว่าเมื่อเลือกตั้งแล้วบ้านเมืองจะเรียบร้อย มีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ เข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แต่เมื่อดูโครงสร้างของตัวเลขที่เกิดขึ้นจากผลการเลือกตั้งแล้ว เห็นได้ว่ายังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของเสถียรภาพรัฐบาลว่าใครจะได้เสียงข้างมาก ซึ่งตรงนี้มีความน่าเป็นห่วงมากกว่า ถ้ารัฐบาลไม่เข้มแข็งย่อมกระทบต่อเศรษฐกิจ เพราะเราต้องพึ่งพาการลงทุนจากต่างประเทศ ดังนั้น ต้องมีรัฐบาลใหม่ที่มีเสถียรภาพที่เหมาะสมที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับระบบเศรษฐกิจ สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประเทศได้ควรมีตัวเลขเกือบ 300 เสียงด้วยซ้ำไป เพราะที่พูดกันถึง 250 เสียง ถือเป็นตัวเลขที่บอบบางมาก

“หากฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลต่างกันแค่ 5-10 เสียง ภูมิคุ้มกันในสภาจะน้อย จึงต้องการเห็นความร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาลให้เรียบร้อย อยากขอเรียกร้องทุกฝ่ายให้เห็นแก่บ้านเมือง มาร่วมพูดคุยกันให้มากขึ้น ในช่วงเวลา 1 เดือนที่เหลือ ก่อนที่ กกต.​จะประกาศรับรองผล ส.ส.​วันที่ 9 พฤษภาคมนี้ ส่วน 3 เสียงของ ชพน.ที่ได้นั้น ยังไม่ชัดเจนว่าจะเติมให้ข้างรัฐบาลเพื่อให้เป็นฝ่ายบริหารที่มีเสถียรภาพหรือไม่ เพราะ ชพน.มีจุดยืนไม่แบ่งฝ่าย และคำนึงต่อการยอมรับของประชาชนเป็นหลัก” นายสุวัจน์กล่าว และว่า ส่วนที่มีข่าวว่าตนไปพูดคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) นั้น ต้องขอปฏิเสธว่าไม่ได้ไปพูดคุยการเมืองเป็นเพียงการไปรับประทานอาหาร แล้วพบกัน ซึ่งเป็นธรรมดาของนักการเมืองที่พบกันตามงานแต่งงาน ตามร้านอาหาร แล้วก็ทักทายกันปกติ แต่ไม่ได้ไปเพื่อพูดคุยจับกลุ่มแต่อย่างใด

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พบการแย่งชิงจัดตั้งรัฐบาล ผ่านการต่อรองแลกผลประโยชน์ หรือปรากฏการณ์งูเห่าจะกระทบการเมืองหรือไม่ ประธานที่ปรึกษา ชพน.กล่าวว่า เรื่องผลประโยชน์นั้นตนไม่ทราบ และที่ผ่านมา ชพน.ไม่เคยมีกรณีดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์งูเห่านั้น ตนมองว่าเป็นเพียงการคาดการณ์ ที่เกิดจากการต้องให้ได้มาซึ่งรัฐบาลเสียงข้างมาก และมีเสถียรภาพ ส่วนเรื่องกระแสข่าวเรื่องงูเห่านั้น เป็นเรื่องการคาดการณ์ หากไม่มีจะถือเป็นเรื่องดี เพราะการเมืองต้องเล่นตามกติกา ซึ่ง ชพน.ขอเล่นในกติกา ส่วนอนาคตจะเกิดรัฐบาลแห่งชาติ หรือรัฐบาลสมานฉันท์ได้หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องวิเคราะห์ยาก โดยปัจจัยสำคัญที่สุดคือ คะแนนเสียง ส.ส.ที่แต่ละพรรคได้รับ โดยต้องรอให้ กกต.ประกาศผลอย่างเป็นทางการ

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image