เรียงคนมาเป็นข่าว

⦁…“ศึกเลือกตั้ง” ยังไม่สะเด็ดน้ำ น่าสงสาร “7 กกต.” มือใหม่ หัดขับทั้งชุด งานเข้า โดน “ก้อนอิฐ” กันสะบักสะบอม เสียผู้เสียคนกันทั้งคณะ นอกจากชาวบ้านจะด่ากันขรมแล้ว ยังลงชื่อถอดถอนกันเป็นล้านๆ  แถมอาจจะโดนฟ้องร้อง เจอคดีอีกบานตะเกียง

⦁…“รัฐบาลใหม่” ก็ไม่ใช่งานง่าย เดดล็อกขั้ว “เพื่อไทย” แทคทีมกันอย่างเหนียวหนึบๆ กับ “อนาคตใหม่+เสรีรวมไทย+ประชาชาติ+เพื่อชาติ” เสียงเข้มแข็งอยู่ที่ 240 ที่นั่ง ต้นๆ ฝั่งสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ “พลังประชารัฐ” แม้จะได้เปรียบทุกเม็ด แต่ก็อยู่ในขั้น “เหนื่อยโคตร”

⦁…“ประชาธิปัตย์” ที่พ่ายหมดรูปมาจากศึกเลือกตั้ง 62 กลายเป็น “ก้างขวางคอ” ใหญ่ เป็นย่างก้าวสำคัญอีกครั้ง เมื่อแกนนำขาใหญ่ของพรรค ผนึกกันระหว่าง “ชวน หลีกภัย-บัญญัติ บรรทัดฐาน-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เห็นพ้องต้องกันกับยุทธศาสตร์ “ลอยตัว”

⦁…คือไม่เข้าร่วมสังฆกรรม ไม่ว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ไม่เอาด้วยกับการจัดตั้งรัฐบาลกับ “พปชร.” และไม่มีพันธะผูกพันใดๆ กับซีกฝ่ายค้านที่มี “เพื่อไทย” เป็นแกนนำ ขอ “เป็นกลาง” สนับสนุนหรือคัดค้านเป็นเรื่องๆ ไป หวัง “เกิดใหม่” อีกครั้ง

⦁…ด้วยประการดังกล่าว จึงมีแนวโน้มสูงยิ่งว่า “ประชาธิปัตย์” จะเกิดมรสุมใหญ่อีกระลอก “พรรคแตก” เป็น 2 ขั้ว โดยเกิดขบวนการ “งูเห่า” ระดับวัดครึ่งกรรมการครึ่ง แยกตัวไปร่วมอุ้มชู “ลุงตู่” คืนตึกไทยคู่ฟ้า ประมาณการตัวเลขว่า ยอดน่าจะ 20 ที่นั่ง

⦁…ขั้วที่อยู่ “เป็นกลาง” ประเมินสถานการณ์ว่า การไปร่วมฟอร์มรัฐบาลกับ “พปชร.” นั้น “ประชาธิปัตย์”   จะเป็นเพียง “อะไหล่” กระทรวง ทบวง กรม ที่จะได้รับการจัดสรรมาเป็นโควต้าในการกำกับดูแล แค่        “เกรดบี-ซี” ดีที่สุดระดับ “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์-ศึกษาธิการ”

⦁…งานที่ประชาธิปัตย์ถนัด และพอจะมี “จุดขาย” คือ “กระทรวงเศรษฐกิจ” เชื่อหัวเณรเรืองล่วงหน้าได้เลยว่า ไม่มีโอกาสล้านเปอร์เซ็นต์ ทาง “พปชร.” มีตัวคนเก่าลงคุมเข้มทั้งหมด ทั้ง สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ “4 กุมารทอง” ต้องจองเกรดเอหมด ทั้ง “อุตตม-สนธิรัตน์-สุวิทย์-กอบศักดิ์”

⦁…ไหนจะเผชิญกับแกนนำตัวกลั่นๆ ซึ่งนำทัพ “พปชร.” ชนะศึกมาอย่างท่วมท้น ในภาคเหนือ-อีสาน-ใต้ ระดับ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ-สมศักดิ์ เทพสุทิน-วราเทพ รัตนากร” เขาเหล่านี้ ต้องมีรางวัลเก้าอี้รัฐมนตรี จะเป็นผู้แทนฯเฉยๆ ย่อมไม่ได้

⦁…ยิ่งไปกว่านั้นเสียงรัฐบาล “บิ๊กตู่ภาค 2” การที่ฝั่ง “เพื่อไทย” จับมือกันเหนียวแน่นเกิน 240 เสียง เท่ากับว่า “จำนวนที่เหลือ” ปริ่มๆ เฉือนหวิวกันแค่เส้นผ่าแปด กลายเป็น “เตี้ยอุ้มค่อม ผอมอุ้มอ้วน” ต้องไล่จับปูใส่กระด้ง จากพรรคเล็ก พรรคน้อย ที่มี 1-2 เสียงมาให้ได้ทั้งหมดแล้ว

⦁…ยังมีประเด็นอันตราย เมื่อแกนนำแต่ละพรรค เลื่อนสถานะไปเป็นรัฐมนตรีกันหลายคน เวลาประชุมสภาล่าง เกิดมีรายการบู๊ล้างผลาญ อภิปรายไม่ไว้วางใจ อะไรกันขึ้น ย่อมกระโดดค้ำถ่อ ข้ามฝั่งไปยกมือสนับสนุนตัวเองไม่ได้ สรุปแล้ว แทบจะเข้าห้องน้ำ ขี้เยี่ยวยังไม่ได้ ต้องระวังแจทุกย่างก้าว

⦁…ด้วยเงื่อนไขดังกล่าว เชื่อว่า หลังวันที่ 9 พฤษภาคมหลัง “กกต.” ประกาศรับรองผลเลือกตั้งตามโปรแกรมออกมาแล้ว จะเกิดรายการ ไล่ล่า “งูเห่า” มีข่าวว่า ตอนนี้ ค่าตัว เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โอกาสที่จะเขยิบเป็นหัวละ 20 ล้านมีความเป็นไปได้สูง

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่