ปลัดสำนักนายกฯ เผยผลประชุมเตรียมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

เมื่อวันที่ 1 เมษายน นางพัชราภรณ์ อินทรียงค์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ครั้งที่ 2/2562 ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเมื่อคราวประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 26 มกราคม สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์ประธานที่ปรึกษาการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมเสด็จพระราชดำเนินในการประชุมคณะกรรมการฯ ดังกล่าว ซึ่งในการประชุมวันนี้ ไม่ได้กราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ในการประชุม เนื่องจากเป็นการประชุมในขั้นตอนการปฏิบัติของคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ได้แก่

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการฝ่ายจัดพิธีการงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ได้รายงานความคืบหน้า และการเตรียมการต่างๆ ตั้งแต่เรื่องการเผยแพร่ตราสัญลักษณ์งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เรื่องแนวทางการตั้งเครื่องราชสักการะ การประดับตราสัญลักษณ์ฯ และธงตราสัญลักษณ์ฯ เรื่องการจัดทำเหรียญ และเข็มตราสัญลักษณ์งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เรื่องความพร้อมการจารึกพระสุพรรณบัฏ ดวงพระบรมราชสมภพ และแกะพระราชลัญจกร เรื่องการจัดทำน้ำอภิเษกที่จะใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เรื่องการจัดริ้วขบวนในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งมี 3 ริ้วขบวน ประกอบด้วย ริ้วขบวนเชิญพระสุพรรณบัฏ ริ้วขบวนราบใหญ่ และริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศพยุหยาตราทางสถลมารค ซึ่งจะมีการซ้อมใหญ่ในพื้นที่จริง จำนวน 3 ครั้ง ในวันที่ 17, 21 และ 28 เมษายน ซึ่งประชาชน และสื่อมวลชนรับชมการซ้อมดังกล่าวได้ตามเส้นทางเสด็จเลียบพระนครจากพระบรมมหาราชวัง – วัดบวรนิเวศวิหาร – วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม – วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม – พระบรมมหาราชวัง

นางพัชราภรณ์กล่าวอีกว่า ใช้เวลาในการซ้อมแต่ละครั้งประมาณ 3 ชั่วโมง และในวันที่ 5 พฤษภาคม รัฐบาลได้เตรียมการเรื่องการดูแลประชาชนจำนวนเรือนแสนที่จะมารับเสด็จฯ ในเส้นทางเลียบพระนคร โดยตั้งครัวพระราชทาน 6 จุด คอยจัดอาหาร และน้ำดื่มให้บริการ จัดจิตอาสาคอยดูแลอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ และขอความร่วมมือสถานที่ราชการ หน่วยงานภาคเอกชน วัด และโรงเรียนที่อยู่ในเส้นทางเสด็จฯ เลียบพระนคร เปิดห้องสุขา รวมทั้ง กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้จัดเตรียมรถสุขาเคลื่อนที่ไว้คอยบริการอีกด้วย

นางพัชราภรณ์กล่าวต่อว่า ในวันที่ 4 พฤษภาคม กองทัพเรือจะอัญเชิญเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์มาจอดเทียบที่ท่าราชวรดิฐ เพื่อร่วมในการพระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคม และจอดเทียบท่าถึงวันที่ 7 พฤษภาคม ในช่วงเวลาดังกล่าว ประชาชนเข้าชมเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ได้ในจุดที่อนุญาต และในวันที่ 6 พฤษภาคม จะมีพิธีถวายพระพรชัยมงคลในการเสด็จออก ณ สีหบัญชร พระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาท นายกฯ ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการฯ กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคลในนามปวงชนชาวไทยที่อยู่ในประเทศไทย และประเทศต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมการเรื่องการดูแลแขกรับเชิญ และประชาชนเรือนแสนที่จะมาชมพระบารมี และถวายพระพรชัยมงคล ติดตั้งจอ LED เป็นระยะๆ ตั้งแต่ถนนสนามไชยถึงท้องสนามหลวง จัดอาหาร และน้ำดื่ม พร้อมรถสุขาเคลื่อนที่ให้บริการประชาชน โดยประชาชนจะสวมเสื้อสีเหลืองยืนเฝ้าฯ ตลอดถนนสนามไชยถึง ท้องสนามหลวง และในช่วงเย็นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คณะทูตานุทูต และกงสุลต่างประเทศเข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท นอกจากนี้ รัฐบาลจะได้จัดพิมพ์หนังสือที่ระลึก และจดหมายเหตุงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จำนวน 13 รายการ

Advertisement

2.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประธานกรรมการฝ่ายรักษาความปลอดภัยและการจราจรงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ได้รายงานความพร้อมเรื่องการรักษาความปลอดภัยและการจราจรในพระราชพิธีดังกล่าว ได้แบ่งพื้นที่เป็นพื้นที่ชั้นนอก จะเป็นจุดที่ประชาชนมาขึ้นรถ Shuttle Bus เพื่อเข้าพื้นที่บริเวณงานพระราชพิธี โดยจุดนี้จะจัดสิ่งอำนวยความสะดวกบริการประชาชน เช่น ครัวพระราชทาน ห้องสุขา การตรวจสุขภาพ ฯลฯ ส่วนพื้นที่ชั้นในจะตั้งจุดคัดกรองประชาชน ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้จัดทำแผนการรักษาความปลอดภัยและการจราจร รวมทั้ง แผนด้านการแพทย์กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน จะได้แจ้งให้ประชาชนทราบในโอกาสต่อไป ทั้งนี้ นายกฯ ได้กำชับให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ดูแล และอำนวยความสะดวกประชาชนให้ทั่วถึง และดีที่สุด รวมทั้ง ควรกำหนดให้ติดสติ๊กเกอร์ให้กับประชาชนที่ผ่านจุดคัดกรองเรียบร้อยแล้วด้วย

3.พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ ประธานกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ได้รายงานแผนการประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยเน้นเรื่องที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชปรารภเมื่อคราวประชุมคณะกรรมการอำนวยการฯ ครั้งที่ 1/2562 เช่น เรื่องการบรรยายของพิธีกร ซึ่งจะมีการจัดทำสคริปต์ล่วงหน้า และคณะอนุกรรมการด้านสารัตถะและสร้างสรรค์ผลิตสื่อคอยให้คำปรึกษา ตรวจทานความถูกต้องก่อนบรรยาย โดยแบ่งผู้บรรยายเป็นเรื่องๆ และฝึกบรรยายขณะดูการฝึกซ้อมกับทางสำนักพระราชวัง การบรรยายในพระราชพิธีต่างๆ พิธีกรจะต้องระมัดระวังไม่ทำให้เสียบรรยากาศในการรับชมการถ่ายทอดสดของประชาชน โดยจะมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยทุกสถานี สถานีโทรทัศน์ Thai TV Global Network สถานีโทรทัศน์ภาคภาษาอังกฤษ NBT World สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีการถ่ายทอดสดให้ผู้พิการทางสายตาและการได้ยินด้วย

4.พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ ประธานกรรมการฝ่ายโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ โดยกำหนดเกณฑ์และแนวทางการพิจารณากลั่นกรองโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ขณะนี้มีส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ เสนอโครงการและกิจกรรมเข้าร่วมเฉลิม พระเกียรติฯ จำนวน 50-60 โครงการ คาดว่าจะมีโครงการผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการประมาณร้อยละ 70-80 ซึ่งเน้นโครงการที่สำคัญ และเกิดประโยชน์แก่ประชาชน และส่วนรวม สำหรับเรื่องการขอใช้ตราสัญลักษณ์งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก มีผู้ประสงค์ขอใช้ตราสัญลักษณ์ฯ จำนวน 432 ราย ผ่านการพิจารณา 423 ราย และสุดท้ายเรื่องการจัดกิจกรรมมหรสพสมโภช จัดระหว่างวันที่ 19-27 พฤษภาคม โดยในส่วนกลางจัดที่ท้องสนามหลวง และในส่วนภูมิภาคจะจัดในทุกจังหวัดทั่วประเทศ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จะเป็นเจ้าภาพหลัก

Advertisement

5.นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ประธานกรรมการฝ่ายกลั่นกรองการขอใช้งบประมาณงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการ โดยได้กำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางการขอใช้งบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

นางพัชราภรณ์กล่าวว่า สำนักงานราชบัณฑิตยสภาได้ยกร่างตัวอย่างถ้อยคำถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จำนวน 6 ข้อความ โดยจะแบ่งการใช้เป็น 2 ห้วงเวลา คือ ช่วงแรกก่อนพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ให้ใช้ 2 ข้อความ คือ ทรงพระเจริญ หรือขอพระองค์ทรงพระเจริญ ซึ่งจะมีคำลงท้ายว่าด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม และอีก 4 ข้อความให้ใช้ในห้วงหลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคมช่วงบ่าย เป็นต้นไป ซึ่งจะมีคำลงท้ายว่า ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ โดยใช้ร่วมกับพระฉายาลักษณ์พระราชทาน 12 ภาพ ทั้งนี้ ดาวน์โหลดข้อความได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี www.opm.go.th

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image