‘มงคลกิตติ์’ จวก ‘เพื่อไทย-อนาคตใหม่’ เห็นแก่ตัว ไม่คิดให้พรรคเล็กได้ส.ส.เลย

“มงคลกิตติ์” จวก “เพื่อไทย-อนาคตใหม่” เห็นแก่ตัว ดูถูกเสียงประชาชนกว่า 1 ล้านเสียง คิดจะไม่ให้พรรคเล็กได้ ส.ส.เลย แนะ รอวันที่ 9 พ.ค.ก่อน เพราะ กกต.ยังพิจารณาเรื่องร้องเรียน คาด จำนวน ส.ส.อาจเปลี่ยนแปลงได้

เมื่อวันที่ 2 เมษายน นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ และ แกนนำ 12 พรรคเล็ก 13 ที่นั่ง กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ออกมาทักท้วงว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คิดคะแนนเสียงต่อจำนวน ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อผิดพลาด ว่าตนขอชี้แจงและขอความเป็นธรรมให้กับพรรคเล็กในลำดับที่ 17-81 โดย กกต.และคณะกรรมการยกร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร พ.ศ.2561 (พ.ร.ป.ส.ส.) ว่าการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 มีพรรคการเมืองลงเลือกตั้งทั้งหมด 81 พรรคการเมือง มีพรรคที่ได้คะแนนตั้งแต่ 183-8,433,060 คะแนน จำนวน 77 พรรคการเมือง คะแนนรวมบัตรดี 35,532,610 คะแนน คะแนนรวมพรรคอันดับ 1-16 รวม 34,472,910 คะแนน คะแนนรวมพรรคอันดับ 17-77 รวม 1,059,700 คะแนน (ถ้าหารเฉลี่ย ส.ส.พึงมี จะได้จำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อไม่น้อยกว่า 14.91 ที่นั่ง) การคิดคำนวณตาม พ.ร.ป.ส.ส.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 ตามมาตรา 128(7) นั้นชอบด้วยกฎหมายแล้ว ดังนั้น พรรค พท.พรรค อนค. พรรคอื่นๆ เองนั้นอย่าเห็นแก่ตัว อย่าพูดข้อมูลด้านเดียวทำให้เกิดความแตกแยก ทำให้ประชาชนสับสน ปลุกระดมมาให้คนไม่ชอบ กกต. ถอดถอน กกต. ทำลายความน่าเชื่อถือในการจัดการเลือกตั้ง

“ที่ถูกต้องคือพรรคที่ได้คะแนนลำดับ 17-77 เขาก็มีประชาชนเลือกมาถึง 1,059,700 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนบริสุทธิ์มิได้ผ่านการซื้อเสียงมา 100% นี่คือเสียงสวรรค์ อย่าดูถูกคะแนนเสียงของประชาชน ถ้าเทียบกับค่าเฉลี่ยของ ส.ส.บัญชีรายชื่อพึงได้ก็ถึง 14.91 ที่นั่ง อีกทั้งถ้าไปตรวจสอบคะแนน ส.ส.เขตที่ชนะการเลือกตั้ง พรรคใหญ่แต่ละพรรคได้คะแนนมาไม่มาก ยกตัวอย่างเช่น ผลคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.เขต จ.พิษณุโลก เขตเลือกตั้งที่ 1 นายปดิพัทธ์ สันติภาดา พรรค อนค. 35,412 คะแนน เขตเลือกตั้งที่ 2 นายนพพล เหลืองทองนารา พรรค พท. 32,956 คะแนน เขตเลือกตั้งที่ 3 นายอนุชา น้อยวงศ์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 24,063 คะแนน เขตเลือกตั้งที่ 4 นายนิยม ช่างพินิจ พรรค พท. 40,252 คะแนน เขตเลือกตั้งที่ 5 อันดับ 1 นายมานัส อ่อนอ้าย พรรค พปชร. 28,952 คะแนน สังเกตกันไหมว่าคะแนนไม่มากเลยในแต่ละเขตทั่วประเทศ ดังนั้น จากส่วนการคำนวณตาม พ.ร.ป.ส.ส.ในมาตรา 128(7) พรรคสุดท้ายที่จะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ คือพรรคไทรักธรรม ได้ 33,748 คะแนน ซึ่งเป็นลำดับที่ 27 ซึ่งก็ได้คะแนนมากกว่า ส.ส.เขต จังหวัดพิษณุโลก และอีกหลายจังหวัด จากพรรค พท. พรรค พปชร. และพรรค อนค.เสียอีก” นายมงคลกิตติ์กล่าว

นายมงคลกิตติ์กล่าวด้วยว่า เพราะฉะนั้นหากพูดอะไร ข้อมูลต้องครบ เนื่องจาก พ.ร.ป.ส.ส.เขาคำนึงถึงคะแนนประชาชนทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน บางทีพรรคเล็กๆ นโยบาย อุดมการณ์ น่าจะดีกว่าพรรคใหญ่ๆ บางพรรค ที่ต้องฟังเสียงนายทุนที่ออกเงินใช้จ่ายในการเลือกตั้ง เพื่ออาจจะถอนทุนคืนจากงบประมาณแผ่นดินก็ได้ ตั้งใจมายกเลิกรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ตั้งใจมาแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 ตั้งใจมาแก้ไขคดีให้อดีตนายกรัฐมนตรีที่หนีคดีทุจริตไปถึง 2 ราย ออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอยให้ ซึ่งจะทำให้บ้านเมืองแตกแยก ไม่สงบสุข ประชาชนต้องการรัฐบาลแบบนั้นหรือ

Advertisement

“อีกทั้งพรรคที่อ้างว่าสามารถรวบรวมเสียงข้างมากจนสามารถตั้งรัฐบาลได้นั้น ก็ยังไม่สามารถสร้างเสถียรภาพในการเป็นรัฐบาลได้ ดังนั้น จึงมีความพยายามเที่ยวไล่กดดันพรรคการเมืองอื่น เพื่อให้ร่วมกับฝั่งตัวเอง ดังนั้น จึงขอร้องให้ทุกพรรครอให้ถึงวันที่ 9 พฤษภาคมเสียก่อน เพราะขณะนี้ กกต.ก็ยังพิจารณาเรื่องร้องเรียนอยู่ ซึ่งอาจส่งผลให้จำนวน ส.ส.เปลี่ยนไปได้” นายมงคลกิตติ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image