วิเคราะห์ ว่าที่ ส.ส.สุรินทร์ ปาลาเร่ ทำไมสามารถฝ่ากระแสประชาธิปัตย์ตกต่ำที่ชายแดนใต้ : โดย อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ ขอความสันติและความจำเริญแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ หรือบังโซบ เป็น 1 ใน 2 ของผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ที่ชนะการเลือกตั้งที่ชายแดนใต้ และ 1 ใน 3 ที่สามารถรักษาเก้าอี้อดีต ส.ส.ของจังหวัดสงขลาจาก 8 เก้าอี้ ที่แพ้ให้พลังประชารัฐและภูมิใจไทย รวมทั้งเป็นอีกหนึ่งว่าที่ ส.ส.จากภาคใต้ในยุคสึนามิทางการเมืองเล่นงานพรรคประชาธิปัตย์ที่ภาคใต้ อะไรเป็นสาเหตุให้ท่านยังคงแข็งแกร่งทัดทานกระแสความตกต่ำของพรรคได้ และสามารถคว้าคะแนนกว่า 4 หมื่นคะแนน ทิ้งห่างอันดับสองอย่างไม่เห็นฝุ่น

จากที่ผู้เขียนเป็นคนจะนะด้วยกัน สามารถวิเคราะห์ได้ว่าปัจจัยหลักมาจากความสามารถส่วนตัวของท่านเป็นปัจจัยหลัก

ที่ทำงานมวลชนในพื้นที่ตลอดระยะเวลาก่อนเล่นการเมือง เล่นการเมือง หรือช่วงสุญญากาศทางการเมืองภายใต้รัฐบาล คสช.

Advertisement

หากดูประวัติท่านไม่ธรรมดา ท่านเกิดเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ.2490 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา และปริญญาโทจากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เป็นอดีตข้าราชการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เคยเป็นสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดสงขลา ในปี พ.ศ.2549 ด้วยคะแนนเสียงอันดับหนึ่งของจังหวัด จากนั้นก็ได้พ้นจากตำแหน่งหลังจากมีการรัฐประหารโดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) จากนั้นจึงเข้าร่วมกับนายแพทย์แวมาฮาดี แวดาโอะ จัดตั้งกลุ่มสัจจานุภาพ และเข้าสังกัดพรรคเพื่อแผ่นดิน ในการเลือกตั้ง พ.ศ.2550 แต่ในการเลือกตั้งครั้งนั้น พล.ต.ต.สุรินทร์ไม่ได้รับการเลือกตั้ง แต่ได้คะแนนสูงเป็นอันดับสองแพ้นายนาราชา สุวิทย์ อดีต ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ 2 สมัย อย่างสูสี ทำให้ท่านกลับเข้ารับราชการต่อจนเกษียณอายุราชการ

ต่อมาในการเลือกตั้ง พ.ศ.2554 ท่านได้ลงสมัครรับเลือกตั้งที่จังหวัดสงขลาอีกครั้ง โดยสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ และชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนอย่างท่วมท้น แม้ปี 2557 คสช.ปฏิวัติรัฐประหาร ท่านก็ยังทำงานมวลชนตลอด โดยเฉพาะในนามเลขาธิการคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย เปรียบเสมือนแม่บ้านของสำนักจุฬาราชมนตรีที่มีบทบาทในสังคมมุสลิมไทย

Advertisement

ในช่วงนี้เองท่านมีเวลามาก ทำงานพัฒนาสังคมมุสลิมขึ้นเหนือล่องใต้ไปทุกชุมชนของมุสลิม และยังเป็นตัวประสานหลักกับหน่วยงานราชการ รวมทั้งต่างประเทศโดยเฉพาะโลกมุสลิม

ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ท่านเป็นผู้ประสานงานทุนการศึกษาจากตุรกี อียิปต์ ซูดาน และอินโดนีเซีย ในนามองค์กรมุสลิม คือ สำนักงานคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย สำหรับพื้นที่เขต 8 (จะนะและเทพา) ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งของท่าน มีบทบาทหนุนเสริมโรงเรียนสอนศาสนาประจำมัสยิด (ตาดีกา) และเป็นผู้ประสานหลักที่สามารถให้รัฐบาลตุรกีมาเป็นผู้สนับสนุนสร้างมัสยิดกลางอำเภอจะนะหลายสิบล้านบาท นำคนในพื้นที่ให้ได้รับทุนการศึกษาที่ประเทศตุรกี

ดังนั้น ถึงแม้กระแสพรรคประชาธิปัตย์ตกต่ำ กระแสพรรคประชาชาติและอนาคตใหม่ฟีเวอร์ รวมทั้งพรรคพลังประชารัฐ ที่มีนายอนุมัติ อาหมัด เป็นแกนนำ (ข่าวเชิงลึกท่านอนุมัติไม่ขอช่วยพรรคพลังประชารัฐที่นี่ อันเนื่องมาจากท่านอนุมัติเป็นรองเลขาธิการคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทยและเพื่อนสนิท) ก็ไม่สามารถเจาะคะแนนเสียงท่านหรือคว่ำท่านได้

ดังนั้น ก็ขอให้ท่านทำงานในตำแหน่งตัวแทนประชาชนในเขต 8 สงขลา ตามที่ท่านได้สัญญาไว้ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์
(อับดุลสุโก ดินอะ)
กรรมการสภาประชาสังคมชายแดนใต้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image