‘กอบศักดิ์’ ลุยเอง นำทีม พปชร.ลงพื้นที่เชียงใหม่ ติดตามปัญหาฝุ่นควันไฟป่า

‘กอบศักดิ์’ ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ติดตามสถานการณ์ฝุ่นควันไฟป่า เร่งหาทางแก้ระยะสั้น-กลาง-ยาว หลังกระทบสุขภาพ ปชช.และการท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 7 เมษายน นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ พร้อมคณะทำงานด้านนโยบายสิ่งแวดล้อมของพรรคลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟป่าและฝุ่นควันที่อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ โดยนายกอบศักดิ์ได้หารือสถานการณ์และแนวทางการแก้ปัญหาจัดการไฟป่ากับเจ้าหน้าที่ศูนย์กำกับดูแลไฟป่า อำเภอสะเมิง และได้สอบถามปัญหาด้านสุขภาพกับประชาชนผู้ประสบเหตุในพื้นที่จำนวนมากที่ได้มารอรับบริการตรวจสุขภาพจากสาธารณสุขและมารับการให้การอบรมความรู้เรื่องฝุ่น PM2.5 และสาธิตวิธีการดัดแปลงพัดลมให้สามารถดักฝุ่นผ่านแผ่นกรอง

นายกอบศักดิ์กล่าวว่า ปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองมีผลกระทบอย่างมากกับประชาชนในพื้นที่ โดยเห็นได้จากวันนี้มีผู้ประสบเหตุมารวมตัวเพื่อขอความช่วยเหลือด้านสุขภาพจากทางสาธารณสุขจำนวนมาก ทั้งนี้ จำเป็นต้องมีมาตรการเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวทั้งในระยะสั้น กลาง และยาว ให้ได้ โดยมลพิษในฝุ่น PM2.5 นั้นสร้างความเสียหายให้กับประเทศปีละหลายหมื่นล้าน ไม่ว่าจะเป็นในระยะสั้นที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในพื้นที่ทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่เดินไม่ได้ สร้างปัญหาด้านสุขภาพให้กับพี่น้องประชาชนในระยะกลาง และยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งในระยะยาว

นายกอบศักดิ์กล่าวว่า ทางทีมนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของพรรคได้หารือแนวทางนโยบายการแก้ปัญหาเบื้องต้นกับนักวิชาการต่างๆ มาระยะหนึ่งแล้ว วันนี้มาลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ รับฟังปัญหาและข้อคิดเห็นกับเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม โดยหลังจากนี้จะเดินทางต่อไปพบนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เพื่อหารือการบริหารจัดการพื้นที่เซฟตี้โซนและระดมความคิดกับนักวิชาการในหลายภาคส่วนที่ศูนย์ประชุมในพื้นที่ศูนย์ประชุมนานาชาติเชียงใหม่

Advertisement

นายกอบศักดิ์กล่าวว่า ทั้งนี้ ในการแก้ปัญหาในระยะยาวจำเป็นต้องแก้ที่ต้นเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการลดความรุนแรงของไฟป่า การลดการเผาฟางจากไร่อ้อย ไร่ข้าวโพด เป็นต้น โดยในปัจจุบันมีตัวอย่างในการนำฟางข้าวโพดให้เกิดประโยชน์และรายได้สูงสุดซึ่งจะทำให้เกิดการนำฟางข้าวโพดไปใช้ประโยชน์แทนการเผาแล้ว เช่น ฟางข้าวโพดสามารถนำไปทำปุ๋ยอินทรีย์ ใบอ้อยสามารถนำไปใช้ผลิตไฟฟ้า ใบอ้อยสามารถนำไปเป็นอาหารให้วัววากิว เป็นต้น ซึ่งในอนาคตควรมีการทำวิจัยต่อยอดและมีมาตรการส่งเสริมให้เกิดการนำวัตถุดิบจากฟางข้าวโพดไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image