‘หมออ๋อง’ ว่าที่ ส.ส.อนาคตใหม่ พิษณุโลก ชื่นชม ‘ธนาธร’ ยึดมั่นหลักการ-อ่อนน้อม​ แต่แข็งกร้าวกับอยุติธรรม

“หมออ๋อง” ว่าที่ ส.ส.อนาคตใหม่ “พิษณุโลก” ชื่นชม “ธนาธร” ยึดมั่นหลักการ-อ่อนน้อม​ แต่แข็งกร้าวกับอยุติธรรม ชี้​ พรรคโดนโจมตีหนักหลังเลือกตั้ง​-ได้คะแนนท่วมท้น ปลุก ปชช. สู้อย่างสันติ-อดทน​ เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่า

เมื่อวันที่ 10 เมษายน​ ทีมประชาสัมพันธ์​พรรคอนาคตใหม่​ เปิดเผยว่า นายปดิพัทธ์ สันติภาดา หรือ “หมออ๋อง” ว่าที่ ส.ส.เขต 1 พรรคอนาคตใหม่ จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นผู้ที่ชนะการเลือกตั้งในเขตนี้อย่างพลิกความคาดหมาย โดยล้มแชมป์เก่าอย่าง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม จากพรรคประชาธิปัตย์ ท่ามกลางความแปลกใจของคนทั้งประเทศ ได้โพสต์เฟชบุ๊กในหัวข้อ “ธนาธรที่ผมรู้จัก” พูดถึงนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่กำลังโดนคดีมากมายรุมเร้าอยู่ในขณะนี้

นายปดิพัทธ์ ระบุว่า หลังจากพรรคอนาคตใหม่ได้รับคะแนนโหวตท่วมท้นในฐานะพรรคใหม่ กระแสการโจมตีทั้งจากอำนาจรัฐ สื่อและประชาชนฝั่งตรงข้าม ถาโถมเข้าใส่ธนาธรและพรรคอนาคตใหม่อย่างต่อเนื่อง ในฐานะว่าที่ ส.ส. และสมาชิกพรรค ได้รับแนวทางให้อดทน ไม่ตอบโต้ ชี้แจงด้วยเหตุผล ไม่นำพาสังคมไปสู่ความขัดแย้ง รุนแรง รอวันเข้าไปทำงานในสภา ให้สมกับที่ประชาชนวางใจพวกเรา วันนี้ อยากเล่าให้ฟังถึงตัวธนาธร ที่รู้จัก แม้จะไม่ได้ลึกซึ้ง ยาวนาน แต่ก็ถือว่าเป็นทางตรง จากที่ทำงานในพรรคมาและเป็นว่าที่ ส.ส.ในขณะนี้

1.ธนาธรยึดมั่นในหลักการ ถึงขนาดดื้อด้านอย่างถึงที่สุด เขาออกแบบโครงสร้างพรรคที่ให้อำนาจกับสมาชิก แม้มันจะทำให้วุ่นวายบ้าง แต่เขาต้องการลดอำนาจของตัวเองและ ส.ส.ในพรรค และสร้างฐานสมาชิกให้แข็งแรง เขาก็จะทำต่อไป เพื่อเราจะมีพรรคระบบเปิด เป็นพรรคแบบมวลชนจริงๆ ได้อย่างแข็งแรง เขายืนยันว่าจะไม่ซื้อตัว ส.ส. ไม่ซื้อหัวคะแนน และใช้เงินแค่ไม่กี่แสนต่อเขตในการเลือกตั้ง แม้มันจะทำให้เรา (ในตอนแรก) ท้อแท้ เดินกันจนเกรียม จนขาลาก ไม่มีเงินไปทำอะไรอลังการ แต่ธนาธรเชื่อว่าการเมืองใหม่ ไม่ต้องใช้เงินเยอะ จนวันสุดท้ายเขาก็ยังให้เราเชื่อแนวทางนี้ แม้มีเส้นทางสู่ชัยชนะแบบทางลัดเข้ามาตลอด ผลตอบแทนคือคะแนนเสียง 6.2 ล้าน ชัยชนะใน 30 เขต โดยไม่เสียหลักการและอุดมการณ์ไป ผมภูมิใจกับเขาและพรรคจริงๆ

Advertisement

2.ธนาธรถ่อม​ สุภาพ ให้เกียรติกับคนทุกระดับ แต่แข็งกร้าวกับความอยุติธรรม อำนาจเผด็จการ ผมไปหาเขาที่ตึกไทยซัมมิทครั้งแรก เวลาถามบุคลากร เจ้าหน้าที่ ทุกคนพูดถึงธนาธรด้วยความชื่นชม เจอเขาอยู่กับคนงาน ก็เป็นกันเอง ไม่ถือเนื้อถือตัว ไม่มีวัฒนธรรมเจ้ายศเจ้าอย่างให้สัมผัสได้ เจอผมครั้งแรก เขาขอบคุณผมหลายรอบ ที่มาร่วมกันเวลาไปร่วมรณรงค์ เขาเหนื่อยแทบตาย แต่ก็ไม่เคยเอาเปรียบแรงใคร ไม่เคยบ่นว่าไม่เอาแล้ว เขายังพูดจาดีกับทุกคน ให้คนถ่ายรูปอย่างเต็มที่ ขอบคุณเจ้าภาพ คนที่มีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง กินข้าวง่ายๆ กับทีมงาน ไม่มีความเป็น VIP ใดๆ แต่เมื่อธนาธรเผชิญความอยุติธรรม อำนาจที่กดขี่คนอื่น เผด็จการที่ละเมิดสิทธิของประชาชน เขาจะเป็นนักสู้ ที่ไม่ก้มหัวให้ เงยหน้าขึ้น กล้าหาญ และชนกับต้นตอของปัญหา ไม่ว่าจะใหญ่แค่ไหน เขาไม่ใช่คนพูดแล้วไม่ทำ เขาจริงจังกับสิ่งที่คิด สิ่งที่พูดมากว่าจะทำให้ได้

“ผมขอบคุณที่ธนาธรมอบแรงบันดาลใจ และความกล้าหาญในการทำงานการเมือง เปลี่ยนแปลงประเทศนี้ ให้คนเท่าเทียมกัน ให้ประเทศไทยเท่าทันโลก ประเทศไทยที่ใครๆ ก็บอกว่าเปลี่ยนไม่ได้หรอก ความเป็นไปได้มันมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะพวกเรามีผู้นำแบบนี้ ผมอยากเชิญชวนเราไปด้วยกันต่อ ธนาธรไปต่อแน่ แม้คุก ตาราง กฎหมายที่ไม่ยุติธรรมรออยู่เพียบ แต่ถ้าเรากล้าหาญด้วยกัน ยืนหยัดอย่างสันติ อดทน ทำงานการเมืองแบบใหม่กันต่อไป เราจะได้พิษณุโลกและประเทศไทยที่ดีกว่านี้ได้ในวันหนึ่ง” นายปดิพัทธ์ กล่าว

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image