พลันที่มีข้อเสนอว่าด้วย “รัฐบาลแห่งชาติ” มาจากบางส่วนภายใน พรรคประชาธิปัตย์ ก็ก่อให้เกิดจุดร่วม 2 จุดร่วมอันสอดรับกับแนวคิดโดยพื้นฐานของสัตยาบันของ 6 พรรคการเมือง
1 คือ ไม่เห็นด้วยกับการสืบทอดอำนาจของคสช.ผ่านการเป็นนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
1 คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560
แม้ว่ารายชื่อของ”ว่าที่”นายกรัฐมนตรีอันมาจากบางส่วนใน พรรคประชาธิปัตย์จะมีกลิ่นอายนายกรัฐมนตรี”คนนอก”ภายใต้ กระบวนการมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญในอดีต
แต่ก็ต้องยอมรับข้อเสนอ”ร่วม”อันเริ่มขยายวงและหนักแน่นยิ่งขึ้นเป็นลำดับ
นั่นก็คือ การปฏิเสธ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ข้อเสนอว่าด้วย “รัฐบาลแห่งชาติ” อาจเพื่อต้องการผ่าทางตันอันเป็นผลจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มกราคม ขณะเดียวกัน ก็เพื่อแก้ปัญหาอันดำรงอยู่ภายในพรรคประชาธิปัตย์ไปด้วย
นั่นก็คือ เลือกเอา”รัฐบาลแห่งชาติ” แทนที่จะเกิดกรณี “งูเห่า”
อย่างน้อยก็พรรคพลังประชารัฐระบุว่าจะมีถึง 35 คน
การเอ่ยนามของ นายพลากร สุวรรณรัฐ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท อันเป็นองคมนตรีขึ้นมาโดยมีนามของ นายชวน หลีกภัย นายศุภชัย พานิชภักดิ์ รวมอยู่ด้วย
ในจำนวน 4 นามนี้มีเพียง นายชวน หลีกภัย เท่านั้นที่เป็นส. ส.ขณะที่อีก 3 นามถือว่าเป็น”คนนอก”
แม้จะยังดำรงความเป็นพรรคประชาธิปัตย์อย่างเหนียวแน่น แต่ลักษณะก้าวหน้าของข้อเสนอนี้สัมผัสได้จากการปฏิเสธสถานะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็นตัวเลือก
ขณะเดียวกัน เท่ากับยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือคู่ความขัดแย้งที่กลายเป็นปัญหาในทางการเมือง
ไม่ว่าการเกิดขึ้นของการลงนามสัตยาบัน 6 พรรคการเมืองต้าน การสืบทอดอำนาจของคสช. ไม่ว่าข้อเสนอว่าด้วยรัฐบาลแห่งชาติอันมาจากบางส่วนในพรรคประชาธิปัตย์
ก่อให้เกิดเป้าหมาย”ร่วม”ที่เด่นชัดในทางการเมือง
นั่นก็คือ การตัดคัตเอาท์อำนาจของคสช. นั่นก็คือ การตัด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกไป แม้ว่าจะเป็นความเห็นที่ยากจะเป็นจริงได้อย่างง่ายดาย
แต่ก็ต้องยอมรับว่าประเด็นนี้จะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น